Tesla เปิดตัวรถไฟฟ้า Model 3 รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่แอบพัฒนาภายใต้โค้ดเนม Project Highland โดยได้รับการออกแบบใหม่ทั้งภายนอก ไปจนถึงการตกแต่งภายใน นอกจากดีไซน์ใหม่ ยังปรับปรุงประสิทธิภาพให้วิ่งได้ไกลขึ้น พร้อมปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ให้มีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
New Tesla Model 3 มาพร้อมกรอบไฟหน้าที่ออกแบบใหม่ รวมถึงไฟเดย์ไทม์แบบ LED ขณะที่ไฟท้ายรูปตัว C คมชัดโดดเด่น และติดอักษร Tesla แทนโลโก้เดิม ส่วนมิติตัวถังมีความยาวเพิ่มขึ้น 1 นิ้ว ความสูงลดลงเล็กน้อย และมีระยะห่างจากพื้นดินลดลงประมาณ 2 มิลลิเมตร
รุ่นเริ่มต้น Rear-Wheel Drive ของ New Tesla Model 3 ใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 344 ไมล์ (554 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งรอบ และกินไฟ 13.2 กิโลวัตต์ชั่วโมงทุก ๆ 62 ไมล์ (100 กิโลเมตร) ขณะที่รุ่น Long Range ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 421 ไมล์ (678 กิโลเมตร) เพิ่มขึ้นประมาณ 11 – 12% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และกินไฟ 14 กิโลวัตต์ชั่วโมงทุก ๆ 62 ไมล์ (100 กิโลเมตร)
New Tesla Model 3 ยังมีตัวเลือก Nova ใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว โดยรุ่น Rear-Wheel Drive ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 319 ไมล์ (513 กิโลเมตร) และทำความเร่ง 0 – 100 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ 6.1 วินาที สำหรับรุ่น Long Range ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 391 ไมล์ (629 กิโลเมตร) และทำความเร่ง 0 – 100 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ 4.4 วินาที
ภายในดูเหมือนห้องนั่งเล่นมากขึ้น ได้รับการปรับปรุงกระจกและวัสดุกันเสียง ช่วยให้ห้องโดยสารเงียบขึ้น มาพร้อมจอกลางขนาด 15.4 นิ้ว และยังมีจอแสดงผลด้านหลังขนาด 8.0 นิ้ว ด้านความบันเทิงของรุ่น Rear-Wheel Drive มีลำโพง 9 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว และแอมพลิฟายเออร์ 1 ตัว ขณะที่รุ่น Long Range จะได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงจากลำโพง 17 ตัว ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 3 ตัว พร้อมด้วยซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว และแอมพลิฟายเออร์ 2 ตัว
ทั้งนี้ New Tesla Model 3 ที่ประกอบขึ้นในโรงงาน Gigafactory Shanghai คาดว่าจะพร้อมส่งออกไปยังยุโรปและตะวันออกกลาง ในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนรถที่จะทำตลาดในสหรัฐอเมริกา จะถูกประกอบขึ้นจากโรงงานในแคลิฟอร์เนีย
ที่มา – InsideEVs