ครั้งแรกกับแท็บเล็ตของ Samsung ที่ได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 ขณะที่ตัวเครื่องใช้วัสดุ Armor Aluminum ดีไซน์บางเบา แต่แข็งแรงทนทาน รองรับการใช้งานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ด้วยเทคโนโลยี Vision Booster ทำให้หน้าจอสู้แสงแดดได้อย่างดี โดยมีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว สำหรับ Galaxy Tab S9 Ultra ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว ให้ประสบการณ์การรับชมที่เต็มตา ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม และยังตอบสนองการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยแถมปากกา S Pen มาให้ในกล่อง
สเปก Samsung Galaxy Tab S9 Ultra
- จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 14.6 นิ้ว
- กล้องหลัง 13MP AF + 8MP Ultra-Wide Camera
- กล้องหน้า 12MP + 12MP Ultra-Wide Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- ความจำ RAM 12GB + ROM 256GB
- สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 1TB
- ลำโพง 4 ตัว จาก AKG พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ 5G, LTE, Wi-Fi 6E, Wi-Fi Direct Bluetooth 5.3
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ Fingerprint on Display (FOD)
- ระบบปฏิบัติการ Android 13
- มาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP68
- แบตเตอรี่ 11,200mAh
- ขนาดตัวเครื่อง 208.6 x 326.4 x 5.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 737 กรัม
ดีไซน์บางเฉียบ กันน้ำกันฝุ่น IP68
แท็บเล็ตระดับพรีเมียม Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่น มีขนาดตัวเครื่องแตกต่างกันไปตามขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ซึ่ง Galaxy Tab S9 Ultra มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยจอแสดงผล 14.6 นิ้ว แต่ตัวเครื่องกลับมีความบางมากที่สุด เพียง 5.5 มิลลิเมตร ขณะที่ Galaxy Tab S9+ มีขนาดหน้าจอ 12.4 นิ้ว ตัวเครื่องบาง 5.7 มิลลิเมตร และ Galaxy Tab S9 มีขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ตัวเครื่องบาง 5.9 มิลลิเมตร โดยทั้งหมดใช้วัสดุคุณภาพสูงแบบเดียวกัน และมีการออกแบบสไตล์เดียวกัน
Galaxy Tab S9 Series ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุโลหะคุณภาพสูง Armor Aluminum ช่วยป้องกันการกระแทกและรอยขีดข่วนได้อย่างดี อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานน้ำและกันฝุ่นได้ในระดับ IP68 สามารถอยู่รอดในน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที (ปากกา S Pen ที่มากับ Galaxy Tab S9 Series ก็สามารถกันน้ำได้ในระดับเดียวกัน)
หนึ่งในไฮไลท์ของ Galaxy Tab S9 Ultra อยู่ที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าหน้าจอแล็ปท็อปหลายรุ่นในตลาด จึงตอบสนองการทำงานและให้ความบันเทิงได้อย่างดี แต่ด้วยความที่เป็นแท็บเล็ต ทำให้ Galaxy Tab S9 Ultra มีความคล่องตัวในการพกพามากกว่า สามารถพกพาติดตัวไปใช้งานได้ในทุกที่
ถึงแม้จะมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ แต่ Samsung ทำให้ขอบหน้าจอรอบด้านมีความบางมากที่สุดเท่าที่จะทำให้บางได้ เพื่อทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป และด้วยพื้นที่ขอบจอที่บางกว่ารุ่นอื่นใน Series เดียวกัน ส่งผลให้จอแสดงผลของ Galaxy Tab S9 Ultra มีรอยบากที่ขอบบน สำหรับเว้นไว้ติดตั้งกล้องหน้า 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล
ใต้หน้าจอยังฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย สำหรับปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (Fingerprint on Display)
ดีไซน์ด้านหลังมีพื้นผิวที่เรียบหรู ให้ความรู้สึกพรีเมียม โดยมีกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล วางคู่กับกล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ใกล้กันมีแฟลช LED และแถบแม่เหล็กสำหรับแนบติดกับปากกา S Pen
ขอบบนมีปุ่มเพาเวอร์ ปุ่มปรับระดับเสียง ไมโครโฟน 2 ตัว และ ถาดใส่ Micro SD Card และซิมการ์ด
ด้านล่างถูกออกแบบมาสำหรับเชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ด เพื่อใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อป
ขอบด้านข้างบางเฉียบ 5.5 มิลลิเมตร มีลำโพง 2 ตัว ตรงกลางมีพอร์ต USB-C
อีกข้างมีลำโพง 2 ตัว ตรงกลางเป็นรูไมโครโฟน รวมแล้ว Galaxy Tab S9 Ultra ติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว พร้อมรองรับระบบเสียงจาก AKG และ Dolby Atmos
จอใหญ่ 14.6 นิ้ว สู้แสงแดดได้ดี
Samsung Galaxy Tab S9 Ultra มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว แสดงภาพในอัตราส่วน 16:10 ที่เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์หรือทีวีออนไลน์ สนับสนุน HDR10+ ให้ความสว่างและแสดงเฉดสีได้อย่างคมชัดแบบเฟรมต่อเฟรม รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบไดนามิกในช่วง 60 ถึง 120Hz เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการตอบสนองที่ราบรื่นกับการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ให้เหมาะสมที่สุด และยังถนอมดวงตาด้วยด้วยเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าได้มากกว่า 70%
จอแสดงผลของ Galaxy Tab S9 Ultra มีจุดเด่นที่ Vision Booster เทคโนโลยีการจับคู่โทนสีที่ช่วยปรับปรุงการมองเห็นท่ามกลางแสงที่สว่างจ้าในพื้นที่กลางแจ้ง ด้วยอัลกอริทึมกลางแจ้งอัจฉริยะที่ตรวจจับแสงของดวงอาทิตย์และเปลี่ยนระดับแสงบนหน้าจอให้สอดคล้องกัน
เทคโนโลยี Vision Booster จะวิเคราะห์ข้อมูลฮิสโตแกรมของคอนเทนต์ทั้งหมดที่ปรากฏบนหน้าจอ โดยมีการตรวจสอบค่าของแต่ละพิกเซล และทำหน้าที่ปรับปรุงโทนสีและขยายช่วงไดนามิกด้วยการวิเคราะห์ฉาก จากนั้นจะทำการจับคู่โทนสีเพื่อปรับเปลี่ยนการแสดงผล โดยทำให้บริเวณที่มืดดูสว่างขึ้น และสีสันต่างๆ ดูเต็มอิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มคอนทราสต์สีเพื่อให้ภาพมีความชัดเจนมากขึ้น แม้กระทั่งภายใต้แสงแดดที่ส่องกระทบโดยตรง
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ของ Galaxy Tab S9 Ultra ทำให้สามารถใช้งานหลายแอปพลิเคชันได้พร้อมๆกัน อย่างสะดวกสบายโดยสามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้สูงสุดถึง 4 แอป
สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรีส์ตัวยงยิ่งต้องชอบเพราะสามารถเปิดชมสตรีมมิ่งแบบหน้าต่างไปพร้อมกับการเลื่อนหน้าจอใช้งานแท็บเล็ตได้อย่างปกติ แถมยังปรับขนาดหน้าต่างให้ใหญ่เล็กได้ตามต้องการ ช่วยให้ไม่พลาดช่วงสำคัญกับซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่องโปรดอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากการแสดงภาพที่สดใสมีชีวิตชีวา ด้านเสียงของ Galaxy Tab S9 Series ก็มีคุณภาพสูงเช่นกัน โดยติดตั้งลำโพง AKG มาให้ 4 ตัว (ข้าง 2 ตัว) ขนาดใหญ่ขึ้น 20% และรองรับระบบเสียงรอบทิศทางด้วย Dolby Atmos ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง
แถม S Pen มาให้ด้วย
ภายในกล่อง Samsung Galaxy Tab S9 Series มาพร้อมกับปากกา S Pen ที่กันน้ำและกันฝุ่นในระดับ IP68 เช่นเดียวกับแท็บเล็ต และสามารถวาดเขียนหรือควบคุมหน้าจอได้แม้จอแสดงผลเปียกละอองน้ำ จึงรองรับการใช้งานภายนอกอาคารได้อย่างดี หากเกิดฝนตกลงมากะทันหันระหว่างใช้งานอยู่ ก็ไม่ต้องรีบเก็บจนลืมโปรเจคที่กำลังคิดอยู่
ปากกา S Pen ที่ให้มาในกล่องรองรับการชาร์จแบบไร้สาย เพียงแนบปากกาไว้ที่ฝาหลังตรงแถบแม่เหล็กก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับปากกาได้ ไม่ว่าจะหันปากกาไปทางซ้ายหรือขวาก็ตาม เนื่องจาก S Pen รุ่นใหม่ของ Samsung รองรับการชาร์จ 2 ทิศทาง
ปากกา S Pen ของ Galaxy Tab S9 Series ให้ประสบการณ์ในการวาดเขียนได้อย่างแม่นยำและราบรื่นเช่นเคย เหมือนกับการใช้ปากกาเขียนบนแผ่นกระดาษจริงด้วยหน้าจอ NotePaper Screen และยังสามารถเขียนในแถบค้นหา เบราว์เซอร์ และ Play Store ได้อีกด้วย จึงสามารถใช้ปากกาควบคุมการทำงานบนหน้าจอได้แทนปลายนิ้ว ไม่ว่าจะย่อขยายหน้าต่าง หรือแตะปุ่มต่างๆ บน User Interface
DeX Mode
นอกจากปากกา S Pen ที่แถมมาให้ในกล่อง Galaxy Tab S9 Series ยังแถม Book Cover Keyboard Slim มาให้ด้วย แต่แถมให้เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าในช่วงเวลาจำกัดเท่านั้น (ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2566) หากไปซื้อหลังจากวันที่ 15 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป จะต้องซื้อ Book Cover Keyboard Slim แยกต่างหาก
หากต้องการเปลี่ยนแท็บเล็ต Galaxy Tab S9 Series ให้ทำงานได้ในรูปแบบแล็ปท็อป Book Cover Keyboard Slim เป็นอุปกรณ์เสริมที่ควรมีไว้ โดยมีขาตั้งในตัวที่สามารถปรับมุมมองของแท็บเล็ตได้อย่างยืดหยุ่น ส่วนแผงคีย์บอร์ดก็มี Backlit เพิ่มความสะดวกในที่แสงน้อย และให้ประสบการณ์การทำงานในรูปแบบเดสก์ท็อปด้วย DeX Mode
DeX Mode ช่วยเปลี่ยน User Interface ของแท็บเล็ต ให้แสดงผลในรูปแบบเดสก์ท็อป รองรับฟีเจอร์ Multi Window เปิดแอปพร้อมกันหลายหน้าต่าง สามารถย่อ-ขยายหน้าต่างและจัดเรียงให้เป็นระเบียบได้ และยังมีฟีเจอร์ Pop-Up View สามารถเปิดแอปอื่นๆ เพิ่มเติมในรูปแบบหน้าต่างลอย นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับเมาส์ เพื่อควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอ และทำให้ Galaxy Tab S9 Series กลายเป็นแล็ปท็อปอย่างแท้จริง
ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Galaxy เครื่องอื่นได้อย่างง่ายดาย
Samsung Galaxy Tab S9 Series ทั้ง 3 รุ่น ยังถูกสร้างมาให้ทำงานร่วมกับ Galaxy Ecosystem อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านฟีเจอร์ Multi Control ก็สามารถถ่ายโอนไฟล์ด้วยการคัดลอก วาง หรือลาก ข้อความและรูปภาพ ระหว่างแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนได้อย่างราบรื่น และสามารถควบคุมสมาร์ทโฟน ด้วยทัชแพดของแท็บเล็ตได้ (Multi Control รองรับสมาร์ทโฟน Galaxy ที่ทำงานบน One UI 5.1 ขึ้นไป)
แท็บเล็ต Galaxy Tab S9 Series ยังมีฟีเจอร์ Quick Share รองรับการแชร์ไฟล์จากสมาร์ทโฟนมายังแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เหมาะสำหรับการแชร์ภาพถ่ายหรือวิดีโอจากสมาร์ทโฟนเพื่อมาเปิดทำงานบนแท็บเล็ต
ชิปเรือธงทรงพลัง Snapdragon 8 Gen 2
ด้านประสิทธิภาพ Samsung Galaxy Tab S9 Series ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 แบบเดียวกับที่พบในสมาร์ทโฟน Galaxy S23 Series มั่นใจได้ว่า Galaxy Tab S9 Ultra สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เล่นเกม และใช้งานทั่วไป โดยให้ประสิทธิภาพด้าย Multi Core สูงขึ้น 41% ด้าน Single Core สูงขึ้น 25% และด้านกราฟิกดีขึ้น 35% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน (Snapdragon 8 Gen 1) ทำคะแนนทดสอบประสิทธิภาพจาก Antutu ได้ทะลุ 1.5 ล้านคะแนนไปได้สบายๆ
ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ใน Galaxy Tab S9 Series ยังมาพร้อม Ray Tracing หรือการจำลองแสงและเงาของวัตถุแบบเรียลไทม์ ทำให้การเล่นเกมบน Galaxy Tab S9 Ultra แสดงภาพได้อย่างสมจริง โดยอาศัยการทำงานของเทคโนโลยีที่สามารถจำลองและติดตามลักษณะของแสงในเกมได้ทุกจุด
นอกจากชิปประมวลผลที่ทรงพลัง Galaxy Tab S9 Series ยังเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของ Samsung ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Vapor Chamber ขั้นสูง ด้วยช่องระบายไอน้ำภายในที่ออกแบบเป็นพิเศษ และการกระจายความร้อนแบบ 2 ทางที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ช่วยให้ Galaxy Tab S9 Ultra สามารถเล่นเกม สตรีมมิ่ง หรือแม้แต่ตัดต่อวิดีโอ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการทำงานได้ดี เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ต Galaxy Tab S Series ที่มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
กล้องหน้าหลัง 4 เลนส์
Samsung Galaxy Tab S9 Ultra ติดตั้งกล้องมาให้ 4 ตัว โดยแบ่งเป็นกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัส วางคู่กับกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 2 ตัว ซ่อนอยู่ในรอยบากบนหน้าจอ ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เช่นกัน ช่วยยกระดับประสบการณ์การประชุมทางไกล หรือ วิดีโอแชท ไม่ว่าจะแชทคนเดียวหรือเป็นกลุ่ม กล้องหน้าของ Galaxy Tab S9 Ultra ก็จับภาพใบหน้าได้ทั้งหมด อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Auto Framing ช่วยจัดเฟรมอัตโนมัติ พร้อมซูมเข้า-ออกให้อัตโนมัติ
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่
Samsung Galaxy Tab S9 Ultra มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 11,200mAh รองรับการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน และยังมีความจุเพียงพอที่จะแชร์ให้กับสมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องอื่นด้วย หมายความว่าแท็บเล็ต Galaxy Tab S9 Series สามารถกลายเป็น Power Bank ได้ ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน Galaxy เครื่องอื่นผ่านสาย USB-C นอกจากนี้ Galaxy Tab S9 Ultra ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W แต่ต้องซื้อหัวชาร์จ 45W Power Adapter แยกต่างหาก
ซอฟต์แวร์
Samsung Galaxy Tab S9 Series ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย One UI พร้อมสนับสนุนการอัปเดตซอฟต์แวร์นานต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรด Android ถึง 4 เวอร์ชันหลัก รวมถึงอัปเกรดระบบความปลอดภัยนานถึง 5 ปี และได้รับระบบความปลอดภัย Samsung Knox แบบครบวงจร ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากรัฐบาล และอุตสาหกรรมต่างๆ มากกว่าสมาร์ทโฟนหรือโซลูชันอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด
สรุปราคาและการจำหน่าย
Samsung Galaxy Tab S9 Series เป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมียม ที่เพียบพร้อมทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพ ด้านดีไซน์ใช้วัสดุโลหะคุณภาพสูง Armor Aluminum ที่ให้ทั้งความแข็งแรง แต่ยังคงบางเบาพกพาสะดวก อีกทั้งยังเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของ Samsung ที่สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 ด้านประสิทธิภาพก็จัดหนักด้วยชิปเรือธงของ Qualcomm ซึ่งทำงานร่วมกับ Samsung เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้แรงขึ้นอีก เรียกว่าชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่มีเทคโนโลยี Ray Tracing เพิ่มความสมจริงให้กราฟิก 3D ในเกม และใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพลดลง ด้วยเทคโนโลยี Vapor Chamber ขั้นสูง
สำหรับ Galaxy Tab S9 Ultra เหนือกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่ได้รับการเปิดตัวพร้อมกัน ด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz จึงแสดงภาพได้อย่างเต็มตา และมี Vision Booster ช่วยให้หน้าจอสู้แสงในที่แจ้ง อีกทั้งยังติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว จาก AKG ให้เสียงคุณภาพสูง พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos จึงเป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมืออาชีพ ไม่ว่าจะใช้งานทำงานแทนแล็ปท็อป หรือ กำลังมองหาแท็บเล็ต Android ที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ Samsung Galaxy Tab S9 Series วางจำหน่ายแล้ววันนี้เป็นต้นไป โดยมีราคาแตกต่างกันดังนี้
- Galaxy Tab S9 WiFi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท
- Galaxy Tab S9 5G (8/128GB) ราคา 32,900 บาท
- Galaxy Tab S9+ WiFi (12/256GB) ราคา 35,900 บาท
- Galaxy Tab S9+ 5G (12/256GB) ราคา 39,900 บาท
- Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/256GB) ราคา 49,900 บาท