หลังจากทีมงาน @Flashfly นำเสนอแกะกล่องพร้อมพรีวิว ROG Ally ให้ได้ชมไปก่อนหน้านี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ ASUS ให้มากขึ้น และนี่คือเครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่ทำงานบน Windows 11 ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์สุดล้ำสมัย AMD Ryzen Z1 Extreme สามารถเล่นเกมระดับ AAA ได้อย่างสบาย บนจอแสดงผล Full HD และสามารถเล่นเกมได้เกือบทุกแพลตฟอร์มบนโลกใบนี้
สเปก ROG Ally
- จอสัมผัส IPS ความละเอียด Full HD ขนาด 7 นิ้ว
- โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z1 Extreme
- กราฟิก AMD RDNA 3
- ความจำ RAM 16GB LPDDR5
- พื้นที่เก็บข้อมูล 512GB PCIe 4.0 NVMe M.2 SSD
- สนับสนุนการ์ด microSD/SDXC/SDHC
- พอร์ตเชื่อมต่อ ROG XG Mobile Interface, USB Type-C, 3.5mm Combo Audio Jack
- การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6E (Triple-band), Bluetooth 5.2
- ลำโพงคู่ 1W พร้อมเทคโนโลยี Smart Amplifier
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos, Hi-Res Audio
- เทคโนโลยีลดเสียงรบกวน AI Noise Cancellation
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ติดตั้งไว้บนปุ่มเพาเวอร์
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11
- ซอฟต์แวร์ Armoury Crate SE
- แบตเตอรี่ Li-ion 40Wh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W
- ขนาดตัวเครื่อง 280 x 111 x 21.2 ~ 32.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 608 กรัม
ดีไซน์เอาใจคอเกม
ROG Ally มาในตัวเครื่องสีขาว ยังไม่มีสีอื่นให้เลือก ดีไซน์ภาพรวมดูเหมือนแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ประกบทั้ง 2 ข้าง ด้วยคอนโทรลเลอร์ ทำให้มีขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ถือจับได้สะดวก ถนัดมือ เพราะมีรูปทรง Grip ที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และยังควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่หนักจนเกินไป จึงสามารถถือเล่นเกมได้เป็นเวลานาน
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus พร้อมสารเคลือบ Gorilla Glass DXC ช่วยลดการสะท้อนให้สามารถใช้งานได้ในทุกสภาวะแสง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน้าจออีกขั้น
ทางซ้ายมือมีรูไมโครโฟน, ปุ่ม View, ปุ่ม Command Center, ปุ่ม Joystick (ซ้าย), ปุ่ม D-pad และ ลำโพงฝั่งซ้าย
ทางขวามือมีรูไมโครโฟนเช่นกัน, ปุ่ม Menu, ปุ่ม Armoury Crate, ปุ่ม A B X Y, ปุ่ม Joystick (ขวา) และ ลำโพงฝั่งขวา
โดยปุ่ม Joystick ทั้งซ้ายและขวา มีไฟวงแหวนตรงฐานของปุ่ม เพิ่มความสวยงามสะดุดตา
พลิกมาดูด้านหลัง จะพบกับช่องระบายอากาศที่มีทั้งช่องตะแกรง และช่องที่เจาะเป็นรูปสัญลักษณ์ ROG Fearless Eye อีกทั้งยังมีปุ่มพิเศษตรง Grip อีก 2 ปุ่ม (ปุ่ม Macro 1 และ 2) ที่สามารถกำหนดค่าได้ตามต้องการ
มุมมองด้านบนจะพบกับปุ่ม Bumper ทั้งซ้าย-ขวา, ปุ่ม Trigger ทั้งซ้าย-ขวา, ปุ่มเพาเวอร์ (ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้ด้วย), ไฟแสดงสถานะการทำงาน, ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่, ปุ่มปรับระดับเสียง, พอร์ต ROG XG Mobile Interface, พอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบการ์ด microSD และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
สำหรับพอร์ต ROG XG Mobile Interface มีไว้เชื่อมต่อกับกราฟิกการ์ดแบบต่อแยกภายนอก (eGPU) รวมถึงทำหน้าที่เป็น Hub เพื่อเชื่อมต่อกับจอภาพภายนอก, เม้าส์, คีย์บอร์ด และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
ด้านล่างจะไม่มีปุ่มกด หรือพอร์ตใดๆ
มุมที่ด้านล่างทั้งซ้ายและขวามีดีไซน์โลโก้ ROG เท่ๆแบบนี้
จอใหญ่ 7 นิ้ว ทัชลื่น 120Hz
ROG Ally มาพร้อมจอแสดงผล ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 7 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 16:9 รองรับระบบสัมผัสมัลติทัช 10 จุด ให้ความสว่างสูงสุด 500 นิต ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus และเสริมด้วยสารเคลือบ Gorilla Glass DXC ช่วยลดการสะท้อนของแสง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจอแสดงผล
จอแสดงผลของ ROG Ally ให้มุมมองกว้างชัดเจนด้วยเทคโนโลยี IPS (In-Plane Switching) รองรับขอบเขตสี 100% sRGB, 75.35% Adobe ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และมีความเร็วในการตอบสนองของภาพ 7 มิลลิวินาที
ที่สำคัญก็คือ จอแสดงผลของ ROG Ally ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่กระตุก ด้วยการรักษาอัตราการรีเฟรชสูง รองรับการชดเชยเฟรมเรทต่ำ และให้เวลาแฝงต่ำ
ระบบเสียงคุณภาพสูง
ROG Ally ติดตั้งลำโพงขนาด 1W มาให้ 2 ตัว ซ่อนอยู่ในช่องตะแกรงทางด้านหน้า หันทิศทางเข้าหาผู้ใช้โดยตรง มาพร้อมเทคโนโลยี Smart Amplifier รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงดังกระหึ่มรอบทิศทางแบบ 5.1.2 แชนแนล โดยคุณภาพเสียงระหว่างเล่นเกมถือว่ามีความคมชัดสมจริง
หากต้องการสนทนากับเพื่อนๆ หรือสตรีมเกม ROG Ally ก็ให้เสียงชัดเจนด้วยไมโครโฟน 2 ตัว ที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้าเช่นกัน โดยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนด้วย AI แบบสองทาง (Two-way AI Noise Cancellation Technology) ช่วยประมวลผลและกรองเสียงรบกวนรอบข้างทั้งเสียงขาเข้าและขาออก เพื่อเสียงระหว่างการโทร แชท และสตรีม ปราศจากเสียงรบกวน
ประสิทธิภาพขั้นสูง
หัวใจหลักของ ROG Ally อยู่ที่โปรเซสเซอร์อันทรงพลัง เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล โดยใช้ CPU ใหม่ล่าสุดของ AMD อย่าง Ryzen Z1 Extreme APU ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Zen 4 จากกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร พร้อมด้วย GPU ของ AMD RDNA 3 ที่ ROG ได้ทำงานร่วมกับ AMD อย่างใกล้ชิด เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดในการเล่นเกมบนอุปกรณ์พกพา
ROG Ally ได้รับการเสริมประสิทธิภาพกราฟิกด้วย FSR (FidelityFX Super Resolution) เทคโนโลยีอัปสเกลที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพในเกมต่างๆ ให้มีความละอียดสูงขึ้น โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพในการประมวลผล ส่งผลให้การเล่นเกมลื่นไหล และแสดงภาพได้อย่างสวยงามสมจริง
ที่น่าสนใจก็คือ พอร์ตเชื่อมต่อ ROG XG Mobile Interface ที่อยู่ด้านบนของอุปกรณ์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ ROG Ally กับกราฟิกการ์ดภายนอก หรือ eGPU ได้ อย่างเช่น GeForce RTX 4090 เพื่อกำหนดค่ากราฟิกได้สูงเท่าที่ต้องการ
ด้านความจำได้รับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 16GB ที่มีบัสความเร็วสูงถึง 6400MHz จับคู่กับ PCIe Gen 4 SSD แบบ M.2 2230 ความจุ 512GB ซึ่งสามารถอัปเกรดได้ง่ายในอนาคต หากต้องการขนาดความจุที่มากขึ้น และ ยังมีช่องเสียบการ์ด microSD แบบ UHS-II สำหรับเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยความเร็วสูง
ระบบระบายความร้อน Zero Gravity Cooling
เนื่องจาก ROG Ally ถูกสร้างมาให้รองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องออกแบบระบบระบายความร้อนใหม่ให้แตกต่างจากรูปแบบเดิม โดยเรียกว่าระบบระบายความร้อน Zero Gravity Cooling โดยใช้ Heat Pipe ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อทำให้ของเหลวใน Heat Pipe อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ว่าจะถือใช้งานในลักษณะตั้ง หงาย หรือคว่ำเครื่องอยู่ก็ตาม
าระบบระบายความร้อน Zero Gravity Cooling ทำงานร่วมกับพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ที่ออกแบบเป็นพิเศษ ช่วยให้การหมุนของพัดลมลื่นไหลในทุกองศาของการถือเครื่อง ช่วยระบายความร้อนออกนอกตัวเครื่องได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับพัดลมเพียงตัวเดียว ส่งผลให้ความร้อนในตัวเครื่องที่เย็นขึ้นและมีเสียงรบกวนน้อยลง เนื่องจากใช้รอบพัดลมที่ต่ำกว่า และยังมี Dust Filter ช่วยกรองฝุ่นไม่ให้เข้าไปในระบบ ทำให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยาวนานมากยิ่งขึ้น
การควบคุม
วิธีการควบคุม ROG Ally โดยพื้นฐานแล้วจะใช้วิธีการแตะจอแสดงผล ซึ่งเป็นจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถนำทางไปยังส่วนต่างๆ ของ User Interface ได้อย่างแม่นยำ และถ้าเป็นการควบคุมเกม ก็มีปุ่มกดมาให้ครบครัน และตอบสนองการใช้งานได้อย่างแม่นยำ
ปุ่ม Joystick ทั้งซ้ายและขวา สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดตามความถนัดของผู้ใช้งานแต่ละคน โดยสามารถปรับแต่ง Dead Zone (บริเวณไร้การตอบสนอง) และขนาดวงรอบของก้านควบคุมได้แบบเกมต่อเกม ขณะที่ปุ่ม A / B / X / Y มีดีไซน์เป็นทรงโดมแบนให้สัมผัสที่นุ่มนวล และกดง่าย
ปุ่ม Trigger ทั้งซ้ายและขวา เลือกใช้งาน Hall sensors ที่มีความไวต่อการสัมผัสสูงสุด รับรู้แรงกดได้อย่างแม่นยำ แม้จะเป็นแค่การกดเพียงเล็กน้อย และสามารถปรับแต่งระยะการกดที่ถนัดได้ผ่าน Armoury Crate SE
ด้านหลังยังมีปุ่ม Macro เพิ่มมาอีก 2 ปุ่ม (M1 และ M2) ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่กดได้ง่ายเพียงใช้ปลายนิ้ว และสามารถตั้งค่าได้อิสระ เพื่อใช้งานได้ในลักษณะเดียวกับการใช้ปุ่ม Fn บน PC ตัวอย่างเช่น กดปุ่ม Macro พร้อมปุ่ม Y เพื่อเริ่มบันทึกหน้าจอแบบวิดีโอ
นอกจากนี้ ROG Ally ยังมี Haptic Feedback ระบบตอบสนองด้วยการสั่น เพิ่มความสมจริงให้กับเกมที่กำลังเล่น สามารถปรับแต่งระดับการสั่นได้ใน Armoury Crate SE และยังมีเซ็นเซอร์ Gyro แบบ 6-Axis IMU จึงรองรับการควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวตัวเครื่องด้วย
ซอฟต์แวร์
ROG Ally ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Windows 11 ซึ่งหมายความว่า ROG Ally รองรับการใช้งานได้เหมือน Windows PC ทั่วไป เพียงแต่ถูกดีไซน์ออกมาให้เป็นเครื่องเล่นเกมพกพา แต่ถ้าจำเป็นต้องทำงานจริงๆ ก็สามารถทำได้ ผ่านจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และใช้โปรแกรมแบบเดียวกับที่ทำงานบนคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปได้เลย หรือถ้าไม่ถนัด ก็สามารถเชื่อมต่อ ROG Ally กับจอภาพภายนอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงเม้าส์ และแผงคีย์บอร์ด เพียงเท่านี้ ROG Ally ก็สามารถตอบสนองการทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบเสมือน PC เครื่องหนึ่ง อีกทั้งยังรองรับ Windows Hello สามารถใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ซ่อนรวมอยู่กับปุ่มเพาเวอร์ เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม ROG Ally ถูกสร้างมาเพื่อเล่นเกมมากกว่าการทำงาน จึงมาพร้อม Xbox Game Pass Ultimate ให้ใช้งานได้ยาวๆ ถึง 90 วัน หรือ 3 เดือน
ROG Ally เอาใจเกมเมอร์ด้วย Armoury Crate SE (Armoury Crate Special Edition) โปรแกรมศูนย์กลางที่เปรียบเสมือนคลังอาวุธ ช่วยให้เจ้าของคอนโซลสามารถเข้าถึงเกมจากทุกแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเกมจาก Steam, EA App, Xbox Game Pass Ultimate และ PC Game Pass, Epic Games Store, GOG Galaxy 2.0, แอปพลิเคชัน Android รวมถึงคลังเกมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังรองรับการรีแมปปุ่มต่างๆ จัดการฟุตเทจบันทึกการเล่นเกม รวมถึงปรับแต่งแสงไฟ Aura Sync ได้อย่างอิสระ
แบตเตอรี่
ทาง ASUS ได้เคลมว่า ROG Ally สามารถเล่นเกมได้ต่อเนื่องยาวนาน 2 ชั่วโมง จากการทดสอบเล่นเกมระดับ AAA อย่าง Street Figther 6 หรือ RE4 Remake พบว่าแบตเตอรี่หมดลงไวกว่าที่บอกไว้ หรือเล่นได้ราวชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น แต่ถ้าเป็นเกมที่เล่นได้โดยไม่ใช่กราฟิกหนักๆ ก็พบว่าเล่นได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า ซึ่งแนะนำว่าหากใครที่ต้องการเล่นเกมแบบเต็มประสิทธิภาพของตัวเครื่องต้องเล่นแบบเสียบปลั๊กเท่านั้นเพราะจะสามารถปรับโหมดเป็น Turbo 30W ได้จากปกติที่ได้ 25W
โดย ROG Ally มาพร้อมแบตเตอรี่ Li-ion 40Wh และรองรับชาร์จไว 65W ผ่านพอร์ต USB-C สามารถใช้ Power Bank ชาร์จได้ แต่เพื่อความเล่นเกมเต็มอรรถรสแนะนำว่าให้พกสายชาร์จที่แถมมาในกล่องติดตัวไปด้วยเพื่อความรวดเร็วในการชาร์จและเปิดเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด
สรุปราคาและการจำหน่าย
ROG Ally จัดเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเล่นเกมระดับ AAA ได้อย่างลื่นไหล จอแสดงผลขนาดใหญ่ให้ภาพคมชัดสวยงาม ระบบระบายความร้อนก็มีประสิทธิภาพ ทำงานเงียบ ไม่ร้อนมือขณะจับถือเล่นเกมเป็นเวลานาน โดยมีจุดเด่นที่รองรับการเล่นเกมได้หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Steam, Xbox Game Pass, Epic, GOG และ อื่นๆ สามารถติดตั้งเกมลงในเครื่องได้โดยตรง เหมาะสำหรับการเล่นเกมนอกบ้าน
โดยทาง ASUS ประเทศไทยวางจำหน่าย ROG Ally ความจุ 512GB ในราคา 24,990 บาท ทั้งนี้ ROG Ally มาพร้อม Xbox Game Pass Ultimate นาน 90 วัน และรับประกัน Global Warranty ยาวนาน 2 ปีเต็ม เข้าศูนย์ได้กว่า 84 ประเทศทั่วโลก
ซื้อได้ที่
ASUS Online Store: https://th.asus.click/hX0Oan
Lazada: https://th.asus.click/Lv3CF7
Shopee: https://th.asus.click/kwRyfi
ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ: https://th.asus.click/lmfIYv