เริ่มแล้วงาน WWDC23 หรือ Worldwide Developers Conference ของปี 2023 ที่ครั้งนี้ถือได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดและน่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรอบหลายปีซึ่งนอกจาก Apple จะเปิดตัวระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นใหม่แล้วทั้ง iOS 17, iPadOS 17, macOS Sonoma, watchOS 10, tvOS 17 แล้ว ยังได้เปิดตัว MacBook Air รุ่น 15 นิ้วแล็ปท็อป 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลกพร้อมกับ Mac Studio พร้อมชิป M2 Max และ M2 Ultra รวมถึง Mac Pro พร้อมชิป M2 Ultra และเซอร์ไพร์สุดท้ายกับ Apple Vision Pro แว่น Spatial Computer อัจฉริยะที่ผสานโลกความจริงและโลกเสมือนเข้ามาอยู่ด้วยกัน ซึ่งแน่นอนในปีนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ถูกเชิญมาเข้าร่วมงานจึงไม่พลาดที่จะนำเอาภาพเครื่องจริงมาฝากกันเช่นเคย
MacBook Air 15 นิ้วแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้วบางที่สุดในโลก
มาเริ่มกันที่ MacBook Air 15 นิ้ว ที่หลังจาก Apple ได้เปิดตัวรุ่น 13 นิ้วในปีที่ผ่านมาในปีนี้ยังคงดีไซน์เดิมแต่ ใช้หน้าจอ Liquid Retina ขนาดใหญ่ถึง 15.3 นิ้วและยังคงใช้ชิป M2 เช่นเดิม ด้วยตัวเครื่องขนาดใหญ่ขึ้นก็ทำให้ Apple ใส่แบตเตอรี่ได้เยอะขึ้น สามารถที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง และระบบเสียง 6 ลำโพงที่ดีกว่าเดิม โดยยังคงดีไซน์แบบไร้พัดลมที่บางและเบา โดยความเร็ว Apple ยืนยันว่าเร็วขึ้นสูงสุด 12 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC รุ่น 15 นิ้ว ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Core i7 ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในตลาด มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้
Mac Studio และ Mac Pro มาพร้อมชิป M2 Max และ M2 Ultra
Mac Studio เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac Studio ที่มาพร้อมชิป M1 Ultra รุ่นก่อนหน้า Mac ขณะที่ Mac Pro มาพร้อมชิป M2 Ultra และช่องต่อขยาย PCIe ทำให้ Mac Pro เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า ขณะที่ชิป M2 Ultra มี Neural Engine แบบ 32 คอร์ ที่ประมวลผลได้ถึง 31.6 ล้านล้านรายการต่อวินาที หรือเร็วกว่าชิป M1 Ultra ถึง 40% รองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 192GB โดยทั้ง Mac Studio และ Mac Pro มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งการที่ Apple เปิดตัว Mac Pro มาพร้อมชิป M2 Ultra ในครั้งนี้ทำให้การเปลี่ยนผ่านมาใช้ Apple Silicon ใน Mac นั้นครบสมบูรณ์แล้ว จากเดิมที่เป็นชิปอินเทล
Apple Vision Pro แว่น Spatial Computer อัจฉริยะ
Apple Vision Pro แว่น Spatial Computer อัจฉริยะที่ล้ำหน้าคู่แข่งในตลาดไปอีกหลายปี กับการใช้งานอินเทอร์เฟซที่มีความเป็น 3 มิติ หน้าจอ micro-OLED ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลทั้ง 2 หน้าจอ ควบคุมด้วยวิธีป้อนคำสั่ง ดวงตา มือ และเสียงของผู้ใช้ ตัวเครื่องใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ visionOS และชิปคู่ M2 กับ R1 ในการควบคุมกล้อง 12 ตัว เซ็นเซอร์ 5 ตัว และไมโครโฟน 6 ตัว สามารถใช้งานได้แบบสแตนอโลนไม่ต้องเพิ่งพามือถือหรือคอมพิวเตอร์ รองรับแอพพลิเคชั่นทั้ง iPhone และ iPad
มีระบบความเป็นส่วนตัวด้วย Optic ID สแกนม่านตาในการปลดล็อกการใช้งาน Apple Vision Pro นอกจากนี้ยังมีกล้องสามารถถ่ายภาพแบบ Spatial Photo และวิดีโอได้ด้วย EyeSight ตัวเครื่องจะมาพร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 2 ชม.
สำหรับราคาของอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดของ Apple ที่เปิดตัวในงาน WWDC23 นั้นมีดังนี้
- MacBook Air 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท
- Mac Studio ชิป M2 Max และ M2 Ultra ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 74,900 บาท
- Mac Pro Mac Pro ราคาเริ่มต้น ที่ 249,900 บาท
- Apple Vision Pro ราคาราว 121,700 บาท วางจำหน่ายต้นปีหน้าเฉพาะที่อเมริกา