Apple เปิดตัวชิป M2 Ultra ในงาน WWDC 2023 ซึ่งเป็น System on Chip (SoC) รุ่นใหม่ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของ Mac ให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก และทำให้ Mac Studio และ Mac Pro รุ่นใหม่กลายเป็นเดสก์ท็อป Mac ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ชิป M2 Ultra มาพร้อม CPU แบบ 24-core ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูงเจเนอเรชั่นถัดไป 16 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูงเจเนอเรชั่นถัดไป 8 คอร์ ทำให้มีประสิทธิภาพเร็วกว่าชิป M1 Ultra สูงสุด 20% ดังนั้นเมื่อผู้ใช้ปรับแก้สีใน DaVinci Resolve บน Mac Studio ที่มาพร้อมชิป M2 Ultra จึงเห็นผลลัพธ์จากการประมวลผลวิดีโอได้เร็วขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับ Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra
สำหรับ GPU ผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้มีคอร์เจเนอเรชั่นถัดไปสูงถึง 60 คอร์ หรือ 76 คอร์ เมื่อเทียบกับ GPU ของชิป M1 Ultra พบว่าชิป M2 Ultra มีจำนวนคอร์มากขึ้นสูงสุด 12 คอร์ และมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งกว่าเดิมสูงสุด 30% ทำให้การเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ 3D ด้วย Octane บน Mac Studio ที่มาพร้อมชิป M2 Ultra เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra
ด้านความจำชิป M2 Ultra มาพร้อมแบนด์วิดท์หน่วยความจำระบบ 800GB/s และยังสามารถปรับแต่งหน่วยความจำแบบรวมให้มีขนาดใหญ่ถึง 192GB
ทั้งนี้ ชิป M2 Ultra ใช้กระบวนการ 5 นาโนเมตร และสร้างขึ้นจากการเชื่อมต่อแผ่นวงจรชิป M2 Max สองตัวเข้าด้วยกันโดยอาศัยสถาปัตยกรรมของ UltraFusion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการบรรจุชิปแบบเฉพาะระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง
สถาปัตยกรรมของ UltraFusion ใช้ซิลิคอนอินเตอร์โพเซอร์ที่เชื่อมต่อแผ่นวงจรชิปผ่านสัญญาณมากกว่า 10,000 จุด ทำให้มีแบนด์วิดท์ความหน่วงต่ำระหว่างโปรเซสเซอร์สูงถึง 2.5TB/s ทำให้ซอฟต์แวร์มองเห็น M2 Ultra เป็นชิปเดียว จึงไม่จำเป็นต้องมีการเขียนโค้ดใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพที่แรงสุดขีดของชิป M2 Ultra