ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเกมรุกตลาดไตรมาสสอง สร้างบรรยากาศการแข่งขันเข้มข้นยิ่งขึ้น หลังเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ นาย-ใบเฟิร์น เข้าสู่ครอบครัวทรู ที่เรียกกระแสความฟินทะลุจอให้สะเทือนไปทั่วเมือง จากวิดีโอโฆษณาออนไลน์ซีรีส์ 5EP ในแนวมัลติเวิร์ส ที่ใหม่และแปลกตาตอกย้ำแนวคิด Better Together ชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน เดินหน้าส่งมอบความสุขจากการรวมทรูดีแทค พร้อมเพิ่มความผูกพันของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ทรู สะท้อนความเป็น Your Everyday Living – Tech ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน ชูกลยุทธ์รุกตลาดด้วย5สิ่งที่ดีกว่าคือ 1.เครือข่ายที่ดีกว่า 2. แพ็กเกจที่คุ้มกว่า 3.ความบันเทิงที่เต็มอิ่มกว่า 4. สิทธิพิเศษที่เหนือกว่า 5. คุณภาพบริการที่ล้ำกว่า ล่าสุดประกาศจัดกิจกรรมโรดโชว์ Better Together Festival ไปต่างจังหวัด นำขบวนพรีเซ็นเตอร์คู่จิ้นนาย และใบเฟิร์นส่งมอบมหัศจรรย์ความสุขของการรวมทรู ดีแทค ที่เดินสายพร้อมข้อเสนอที่คุ้มค่าสุดๆ อย่างไม่เคยมีมาก่อน พบกันทั่วทุกภาคเร็วๆนี้
นายมนัสส์มานะวุฒิเวชประธานคณะผู้บริหารบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังการรวมทรูดีแทคกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบรับของลูกค้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะลูกค้าที่รับสิทธิพิเศษทั้งทรูและดีแทครวมเพิ่มอีกมากกว่า 33 ล้านรายการ มียอดผู้ใช้งานดิจิทัลแพลตฟอร์มเพิ่มใหม่อีกมากกว่า 8 แสนรายตอกย้ำแนวคิด “ชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน (Better Together)” ที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นของการผสานพลังส่งมอบความสุข ความคุ้มค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่ดียิ่งกว่าอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้านั้นเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจทรู คอร์ปอเรชั่น ที่จะนำระบบนิเวศสื่อสารดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครบวงจรที่สุด ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุด AI และ Data Analytic ที่สมบูรณ์แบบที่สุด รวมทั้งสุดยอดพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศที่ครบครัน มุ่งเปลี่ยนผ่านชีวิตคนไทยทั่วประเทศ ทรานสฟอร์มประเทศไทยสู่วิถีดิจิทัลที่เร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็จะทำให้ ทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นแบรนด์ที่รักและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทย โดยจุดยืนของแบรนด์ทรูคือจะเป็นแบรนด์ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน (Your Everyday Living – Tech) โดยล่าสุดเราได้ต้อนรับพรีเซ็นเตอร์คู่ขวัญ นาย และใบเฟิร์น เข้าสู่ครอบครัวทรู มาถ่ายทอดจุดยืนแบรนด์ทรูและดีแทคในการส่งมอบสินค้าและบริการที่เข้าใจในความต้องการอย่างแท้จริง เข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม ซึ่งได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูง
นายชารัดเมห์โรทรารองประธานคณะผู้บริหารบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การผสานศักยภาพระหว่างทรูและดีแทคยิ่งส่งเสริมให้เรามีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีการเร่งนำเทคโนโลยี AI หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติมาใช้ในหลายๆ ส่วนงานที่สำคัญ เช่น งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานปฏิบัติการโครงข่าย และในฟังก์ชันทางธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะที่สำคัญสุดคืองานดูแลให้บริการลูกค้า เราจะเร่งสร้างประสบการณ์ความพึงพอใจแบบไร้รอยต่อในทุกช่องทางดิจิทัลโดยเริ่มจากร้านค้าที่ให้บริการแบบไร้กระดาษ การนำหุ่นยนต์มาใช้ในคอลเซ็นเตอร์เพื่อตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วทันที รวมทั้งมีบริการแบบรีโมตเซอร์วิสแก้ปัญหาได้ทันทีโดยไม่ต้องรอช่างเข้าไปให้บริการที่บ้าน ตลอดจนการยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันทั้งทรูและดีแทค อีกทั้ง AI และเครื่องมือวิเคราะห์ของเราจะช่วยคัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมที่สุดแก่ลูกค้ามากกว่า 50 ล้านราย เพื่อเพิ่มความประทับใจในบริการของเราได้ทุกที่ทุกเวลา”
จากผลวิจัยที่ทรูร่วมกับ Market Buzz บริษัทวิจัยและการตลาดผ่านโมบายล์ระดับโลกสำรวจกลุ่มลูกค้ามือถือทั่วประเทศ ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ครอบคลุมทุกช่วงวัยตั้งแต่อายุ 15 -55 ปีพบว่าหลังจากรวมกันลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์ทรูในด้านบวก มีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Young Gen รู้สึกดีมาก มั่นใจว่าอนาคตจะมีสินค้าที่ดีและโปรโมชั่นที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยผลจากการสำรวจ ภาพรวมการชื่นชอบ (Overall Liking) อยู่ในเกณฑ์ดีมากสูงถึง 85% ขณะที่รู้สึกเชื่อมั่นและไว้ใจหลังการควบรวม เพิ่มสูงขึ้น 69% (เหมือนเดิม 28% น้อยลง3%) และความรู้สึกที่อยากสนับสนุน ซื้อสินค้าทั้ง 2 แบรนด์เป็น 79% (Purchasing Intention) โดยมีเหตุผลที่จะซื้อเนื่องจาก สัญญาณที่จะดีขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น และภาพลักษณ์ของการรวมสองธุรกิจชั้นนำยิ่งจะสร้างสิ่งที่ดียิ่งกว่า
นายฐานพลมานะวุฒิเวชหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาดบริษัททรูคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของทีมการตลาดคือการเร่งสร้างการรับรู้สิ่งที่ดียิ่งกว่าของทรูใน 5 แกน ทั้ง เครือข่าย แพ็กเกจความบันเทิง สิทธิพิเศษและคุณภาพบริการที่ล้วนดียิ่งขึ้นภายหลังการรวมธุรกิจ อันจะเป็น
กลยุทธ์หลักในการรุกตลาดชูความโดดเด่นของการรวมกันของสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อสร้างสิ่งที่ดียิ่งกว่า และคุ้มค่ากว่าให้ลูกค้าของเรา ภายใต้แนวคิด Better Together จึงเป็นที่มาของการสื่อสารด้วยการเลือกพรีเซ็นเตอร์ นาย และ ใบเฟิร์น ซึ่งเป็นคู่ที่น่ารัก ลงตัว สามารถสร้างพลังงานเชิงบวก มีเสน่ห์ เข้าถึงได้ และมีความเป็นตัวตนที่แท้จริง ตรงกับบุคลิกภาพของแบรนด์ทรู ซึ่งถ่ายทอดในรูปแบบซีรีส์ 5 EP. แนวมัลติเวิร์ส ให้ทั้งคู่พบกันในเวิร์ส หรือมิติต่างๆ ร่วมกับการโปรโมตสินค้าบริการ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งคู่จะนำขบวนกิจกรรมโรดโชว์ Better Together Festival ที่ทรูตั้งใจจะนำมหัศจรรย์ความสุขของการรวมทรู ดีแทค พร้อมกับสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าทรูและดีแทค ทุกภาคทั่วประเทศไทยรวมถึงข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดของแพ็กเกจสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยขจัดข้อจำกัดในการเข้าถึงวิถีดิจิทัลของคนไทยทั่วประเทศ
โรดโชว์ Better Together Festival ประกอบด้วย :
- Wonderful Deal แพ็กเกจสินค้าบริการที่ดีที่สุดครบคุ้ม ได้เยอะแบบไม่เคยมีมาก่อน
– แพ็กเกจรายเดือนและเติมเงิน ที่ดีที่สุด ทรู 5G Together Wonderful Pack และ
ดีแทค 5G Better Wonderful Pack ให้ฟรีของแถมและเน็ตเพิ่ม
– สมาร์ทโฟนแบรนด์ดัง ที่มาพร้อมแพ็กเกจใช้งานในราคาพิเศษสุดๆ เช่น iPhone / Oppo / Samsung
– สิทธิพิเศษที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างเอาใจทั้ง สายเรียน สายเกม สายดูแลสุขภาพจาก True Gigatex Fiber / TrueVisions / True ID / TrueX / Gaming Nation/ Gaming Nation Play
สมัครบริการ หรือ ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการที่งาน Better Together Festival หรือ ที่ทรูช้อป ดีแทคช้อป หรือ ตัวแทนขายที่ร่วมรายการ รับเพิ่มของแถม หรือ ส่วนลดพิเศษเริ่ม 8 พ.ค. ถึง 31 ก.ค.2566
- Wonderful Gift ที่งาน Better Together Festivalกินฟรีแลกฟรีหรือส่วนลด
– มอบ Code เพื่อกดรับคูปองในแอป กินฟรี แลกฟรี หรือ ส่วนลดจากร้านที่ร่วมรายการในเครือเซ็นทรัล
-สมัครบริการ หรือ ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในงาน หรือ ทรูช้อป ดีแทคช้อป ลุ้นรับของรางวัลมากมาย อาทิ มือถือ Oppo รุ่น A78 5G/ Travel SIM Asia / Go Inter Asia SIMและ Game up
- มีทแอนด์กรี๊ด “นาย-ใบเฟิร์น” :พรีเซ็นเตอร์ คู่ใหม่ของครอบครัวทรู นำขบวนคาราวานโปรโมตผลิตภัณฑ์ ทั้งแบรนด์ทรูและดีแทค ได้รับรู้ถึงแนวคิดชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน หรือ Better Together สร้างความรู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์และผูกพันอย่างต่อเนื่อง ให้เข้าถึงผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ