OPPO สานต่อความสำเร็จของสมาร์ทโฟนเรือธง Find X-series ด้วย OPPO Find X6 Pro ที่เปิดตัวในจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่การถ่ายภาพเป็นสำคัญ ผ่านกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดเท่ากัน 50 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากแบรนด์กล้อง Hasselblad อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่หรูหราคลาสสิค ให้ประสิทธิภาพล้ำหน้าด้วยชิปเรือธงของ Qualcomm และเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC
สเปก OPPO Find X6 Pro
- จอแสดงผล AMOLED (LTPO) ขนาด 6.82 นิ้ว อัตรารีเฟรชแบบไดนามิก 1-120Hz
- กล้องหลัง 50MP Triple Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- MariSilicon X Imaging NPU
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- ความจำ RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB + ROM UFS 4.0 สูงสุด 512GB
- สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ In-display Fingerprint Scanner
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.1 บนพื้นฐาน Android 13
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, IR Remote-Control, NFC, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC และแบบไร้สาย 50W AIRVOOC
ดีไซน์สุดคลาสสิค
OPPO Find X6 Pro มีภาพลักษณ์ที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิง ด้วยดีไซน์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องคลาสสิค ให้ความโดดเด่นด้วยกรอบโมดูลกล้องวงกลมขนาดใหญ่รัดด้วยวงแหวนสแตนเลส ป้องกันเลนส์กล้องหลังด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 จัดวางในตำแหน่งกึ่งกลางช่วยสร้างสมดุลและกระจายน้ำหนัก ทำให้ถือจับได้อย่างสบาย
กล้องหลัง 3 ตัว ติดตั้งอยู่ในกรอบวงกลมขนาดใหญ่ โดยกล้อง 2 ตัวบน เป็นกล้องหลักกับกล้อง Ultra Wide และกล้องตัวล่างเป็นกล้อง Telephoto แบบ Periscope โดยกล้องหลังทั้ง 3 ตัว มีความละเอียดเท่ากัน 50 ล้านพิกเซล
พื้นผิวฝาหลังมีให้เลือก 3 สี นำโดยสีน้ำตาลที่ให้ความคลาสสิค ทำมาจากหนังวีแกน ส่วนบนเป็นกระจก มีขนาดตัวเครื่อง 164.8 x 76.3 x 9.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 216 กรัม ขณะที่สีเขียว และ สีดำ ฝาหลังเป็นกระจก AG มีขนาดตัวเครื่อง 164.8 x 76.2 x 9.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก 218 กรัม
ไม่ว่าจะเลือกสีอะไรจากทั้ง 3 ตัวเลือก ล้วนมาพร้อมกรอบตัวเครื่องอะลูมิเนียม แผงกระจกด้านหน้า Corning Gorilla Glass Victus 2 ทนต่อการตกดีขึ้น 30% และได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP68 จึงเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ให้ทั้งความหรูหราและประณีต
แผงด้านหน้า มาพร้อมจอแสดงผลแบบขอบโค้ง ใช้จอ AMOLED ขนาด 6.82 นิ้ว ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 เจาะหลุมตรงกึ่งกลางสำหรับติดตั้งกล้องหน้า และฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ
ขอบด้านข้างมีความบาง 9.5 มิลลิเมตร สำหรับตัวเลือกที่เป็นหนังวีแกนสีน้ำตาล ส่วนสีเขียว และ สีดำ มีความบาง 9.1 มิลลิเมตร มีปุ่มเพาเวอร์วางแยกไว้เดี่ยวๆ โดยมีขีดสีเขียวบนปุ่ม ช่วยให้สังเกตได้ง่าย
ปุ่มเพิ่มและลดระดับเสียง ติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
มุมมองด้านบนจะเห็นลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง), อินฟราเรด และ ไมโครโฟนตัวที่ 2
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน)
จอสว่างคมชัด
OPPO Find X6 Pro มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ให้สีสัน 1.07 พันล้านสี ความละเอียด 3168 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.82 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 510 PPI (พืกเซลต่อนิ้ว) รองรับขอบเขตสีกว้าง P3 ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,500 นิต ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความสว่างมากที่สุดของ OPPO และยังสนับสนุนมาตรฐาน Dolby Vision และ HDR10+
จอแสดงผลของ OPPO Find X6 Pro ยังรองรับอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิกในช่วง 1 – 120Hz ด้วยเทคโนโลยี LTPO ช่วยให้จอแสดงผลสามารถปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอให้เหมาะสมกับคอนเท้นต์ที่กำลังรับชม เพื่อให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด และประหยัดพลังงานมากขึ้น และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 240Hz
กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล เท่ากันทั้ง 3 เลนส์
มาถึงระบบกล้องหลังของ OPPO Find X6 Pro ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ เนื่องจากติดตั้งกล้องหลังมาให้ถึง 3 ตัว และสามารถทำหน้าที่เป็นกล้องหลักได้ทั้งหมด ด้วยความละเอียดเท่ากัน 50 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังมาพร้อม MariSilicon X Imaging NPU สถาปัตยกรรมการประมวลผลภาพใหม่ของ OPPO ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับกล้องหลังทั้ง 3 ตัว
- กล้อง Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX989) ขนาดเซ็นเซอร์ 1” รูรับแสง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX890) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56” รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Telephoto แบบ Periscope 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX890) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56” รูรับแสง f/2.6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
กล้อง Wide ของ OPPO Find X6 Pro มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่กว่าของ OPPO Find X5 Pro ถึง 156% สามารถรับแสงได้มากขึ้นถึง 142% ประกอบด้วยโมดูลเลนส์โปร่งใสสูง 1G + 7P ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีกล้องแบบดั้งเดิม เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาความสามารถของกล้องในการจับภาพแสงที่ซับซ้อน ลดการกระเจิงของแสงและแสงแฟลร์ของเลนส์ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและแม่นยำยิ่งขึ้น
กล้อง Ultra Wide ใช้โมดูลเลนส์รูปแบบอิสระที่มีมีอัตราความคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1% สามารถจับภาพเส้นและขอบเขตของรูปแบบสถาปัตยกรรมได้คมชัดไม่ผิดสัดส่วน อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพในโหมด Macro ให้ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร ให้ระยะชัดลึกที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ช่วยให้การถ่ายภาพใกล้วัตถุออกมาสวยงามคมชัด แม้อยู่ในที่แสงน้อย
กล้อง Telephoto ของ OPPO Find X6 Pro ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกล้อง Periscope ของสมาร์ทโฟน ช่วยให้การซูมมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางคืน เมื่อใช้ร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว HIS จะช่วยเพิ่มเวลาในการเปิดรับแสงในสภาวะแสงน้อย ทำให้การถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอในยามค่ำคืนออกมาสว่างสดใสยิ่งขึ้น
กล้อง Telephoto แบบ Periscope ยังช่วยแก้ปัญหาที่เกิดกับกล้อง Telephoto ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การโฟกัสในระยะไกล จับโฟกัสช้า ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ โดยกล้อง Telephoto ของ OPPO Find X6 Pro สามารถถ่ายภาพ Close-up ได้สวยงามเหมือนถ่ายจากกล้อง DSLR ด้วยระยะโฟกัสต่ำสุด 25 เซนติเมตร และยังรองรับออปติคัลซูมสูงสุด 3 เท่า
กล้องหลังของ OPPO Find X6 Pro สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และที่เป็นทีเด็ดก็คือ สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ Dolby Vision ได้อีกด้วย ซึ่งทำให้วิดีโอมีช่วงไดนามิกสูง และสามารถถ่ายวิดีโอในรูปแบบ Dolby Vision ได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวราบรื่นนุ่มนวล
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
สำหรับกล้องหน้าของ OPPO Find X6 Pro ถูกซ่อนไว้ในหลุมบนหน้าจอ มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับระบบออโต้โฟกัส มีโหมดถ่ายภาพ Portrait ช่วยทำให้ใบหน้าโดดเด่นจากพื้นหลัง และมีโหมด Night สำหรับถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืน ส่วนการถ่ายวิดีโอสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
MariSilicon X Imaging NPU
OPPO เริ่มนำ MariSilicon X Imaging NPU มาใช้กับ OPPO Find X5 Pro เป็นรุ่นแรก และยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงรุ่นใหม่ล่าสุด ช่วยให้ OPPO Find X6 Pro สามารถถ่ายภาพที่มีสภาวะแสงที่ซับซ้อนให้ออกมามีรายละเอียดที่คมชัดทั้งสีสัน แสง เงา ผลจากการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง MariSilicon X Imaging NPU ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของกระบวนการฟิวชั่นระหว่าง HDR และ Tone mapping เพื่อสร้างภาพโทนขาวดำให้มีช่วงไดนามิกที่สูงกว่า SDR มาตรฐานถึง 8 เท่า ซึ่งเป็นผลจากการวิจัยแหล่งกำเนิดแสงที่แตกต่างกันมากกว่า 20 รูปแบบ อาทิ แสงย้อนหลัง แสงด้านข้าง แสงด้านบน แสงด้านล่าง เป็นต้น
นอกจากนี้ พลังการประมวลผลขั้นสูงและการจัดสรรทรัพยากรอัจฉริยะของ MariSilicon X Imaging NPU ยังทำให้ RAW Domain Multi-frame Synthesis มอบสภาพแวดล้อมต่างๆ ของภาพได้มากขึ้น ตั้งแต่สภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย ไปจนถึงภาพถ่าย HDR โหมด Portrait และการซูมความละเอียดสูง
เทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Hasselblad
OPPO ยังคงทำงานกับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ OPPO Find X6 Pro สามารถมอบประสบการณ์การถ่ายภาพแบบมืออาชีพให้กับผู้ใช้งาน ด้วยโหมด Hasselblad Pro ที่สามารถเพิ่มลายน้ำ Hasselblad ไว้ใต้รูปภาพ รองรับโปรไฟล์สีใหม่บนภาพถ่าย JPEG และยังสามารถตั้งค่าโหมด Hasselblad Pro เป็นค่าเริ่มต้นของกล้อง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายแบบคลาสสิกสไตล์ Hasselblad ทันที โดยไม่ต้องเข้าไปโหมด Hasselblad Pro ทุกครั้งที่เข้ามาในแอปกล้อง
OPPO Find X6 Pro ยังสามารถถ่ายภาพบุคคลให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยโหมด Hasselblad Portrait ที่เปรียบเสมือนนำเลนส์ XCD 30 มม. และ XCD 80 มม. ของ Hasselblad มาติดตั้งไว้บนกล้องของ OPPO Find X6 Pro โดยมีความยาวโฟกัส 24 มม. และ 65 มม. สามารถสร้างเอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้ได้เหมือนกับถ่ายจากกล้อง DSLR โดยอาศัยอัลกอริทึมโบเก้ขั้นสูงที่สามารถวิเคราะห์วัตถุต่างๆ เช่น ท้องฟ้า พื้นดิน และต้นไม้ โดยใช้โมเดลการฝึกอบรม AI แบบเรียลไทม์ ทำให้ภาพถ่าย Portrait มีฉากหลังที่ถูกละลายอย่างสวยงามดูเป็นธรรมชาติของ Hasselblad
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 2
OPPO Find X6 Pro ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งผลิตบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตรของ TSMC มาพร้อมซีพียู 64-bit Octa Core ประกอบด้วย คอร์หลัก ARM Cortex-X3 ความเร็วสูงสุด 3.36GHz + คอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.8GHz + คอร์ด้านประหยัดพลังงาน 3 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ให้ประสิทธิภาพการทำงานของ CPU เร็วขึ้น 35% และให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน (Snapdragon 8 Gen 1)
ขณะที่จีพียู Adreno ให้ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์กราฟิกเพิ่มขึ้น 25% มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นสูงสุด 45% อีกทั้งยังรองรับ Ray Tracing สามารถสร้างเอฟเฟกต์แสงและเงาได้เสมือนจริง รวมถึงสนับสนุน API อย่าง OpenGL ES 3.2, OpenCL 2.0 FP และ Vulkan 1.3
นอกจากใช้ชิปเรือธง OPPO Find X6 Pro ยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใหญ่ขึ้น 24% และใช้วัสดุกราไฟต์รุ่นใหม่ ช่วยกระจายความร้อนโดยรวมถึง 84%
ด้านความจำเลือกใช้ RAM สูงสุด 16GB แบบ LPDDR5X ซึ่งมีความเร็วเพิ่มขึ้นถึง 33% เสริมด้วยเทคโนโลยี ColorOS Dynamic Computing Engine ช่วยให้ OPPO Find X6 Pro สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นในพื้นหลังได้มากถึง 44 แอป ขณะที่ ROM แบบ UFS 4.0 เพิ่มความเร็วในการอ่านเป็น 2 เท่า และมีความจุสูงสุด 512GB
ชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC
OPPO Find X6 Pro รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยีการชาร์จอัจฉริยะ Battery Health Engine ของ OPPO ช่วยให้แบตเตอรี่สามารถรักษาระดับการชาร์จเดิมได้มากถึง 80% เทียบกับการใช้งานได้ยาวนานถึง 4 ปี หรือเสื่อมช้ากว่าปกติถึง 2 เท่า
OPPO Find X6 Pro สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC ผ่านพอร์ต USB Type-C ใช้เวลาชาร์จถึง 50% เพียง 10 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 28 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย 50W AIRVOOC ใช้เวลาชาร์จ 30 นาที ได้ระดับแบตเตอรี่ 60% และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา52 นาที นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นแบบไรเสายได้สูงสุด 10W
สรุป
OPPO Find X6 Pro ถูกสร้างมาให้เป็นเหมือนกล้องคลาสสิคที่สามารถเป็นโทรศัพท์ได้ รองรับการถ่ายภาพได้อย่างสวยงามคมชัดทุกสภาพแสง หลากหลายสถานการณ์ ให้ภาพถ่ายออกมาโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Hasselblad ตอบสนองการทำงานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เนื่องจากใช้ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงของ Qualcomm รองรับการใช้งานได้ยาวนานจากความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และยังชาร์จเร็วไม่ว่าจะใช้สายหรือไร้สาย สรุปแล้ว OPPO Find X6 Pro เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยม และรองรับการใช้งานรอบด้านได้อย่างลื่นไหล แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีแผนเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย