เริ่มต้นปี 2023 อย่างดุเดือดกับตลาดสมาร์ทโฟนที่มีการแข่งขันอย่างร้อนแรงเช่นเคย โดยในปีนี้แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกอย่าง realme ได้พาทีมงาน @Flashfly บินลัดฟ้ามาสัมผัสเครื่องจริงของสมาร์ทโฟน realme GT3 240W ในงาน Mobile World Congress (MWC) 2023 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเรือธงรุ่นใหม่ของ realme มีความน่าสนใจที่เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 240W SUPERVOOC ชาร์จแบตเต็ม 100% ในเวลาไม่ถึง 10 นาที และมีไฟ RGB ที่ด้านหลังตัวเครื่องเอาใจสายเกม และยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่าง ตามมาอ่านพรีวิวจากทีมงาน @Flashfly กันได้เลย
ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB (Pulse Interface Design)
realme GT3 240W ผลิตออกมา 2 สี ได้แก่ สีดำ Booster Black และ สีขาว Pulse White ฝาหลังใช้พื้นผิวกระจกที่เป็นเอกลักษณ์ 3 แบบ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและความแตกต่างให้กับดีไซน์ โดยมีโครงสร้างกระจกโปร่งใส ด้านในสีดำสนิท และตัวกล้อง Matte AG Glass ที่ขัดเงาเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกดีเมื่อใช้นิ้วสัมผัส
ภาพรวมของ realme GT3 240W ได้รับการประกอบมาอย่างพรีเมียม ด้วยวัสดุคุณภาพสูง ขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนรับกับฝ่ามือ ขอบหน้าจอบางเฉียบ และมีความโดดเด่นที่ไฟ RGB ด้านหลัง
ไฟ RGB ด้านหลัง ฝังไว้ในกรอบโปร่งแสงที่เผยให้เห็นโลโก้ของชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 โดยมีแถบไฟเป็นรูปตัว C สามารถเปล่งแสงได้ถึง 25 เฉดสี ตั้งค่าจัวหวะกระพริบได้ 2 แบบ ปรับความเร็วได้ 5 โหมด แต่ละสีสามารถแจ้งเตือนหรือบอกสถานะการทำงานบางอย่างได้ เช่น แจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ, บอกสถานะว่ากำลังชาร์จแบตเตอรี่, ทำงานร่วมกับ GT Mode, แจ้งเตือนสายเรียกเข้า และ บอกสถานะการนับถอยหลังเมื่อตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ
มุมมองด้านหน้าก็โดดเด่นไม่แพ้ด้านหลัง เนื่องจากใช้ดีไซน์จอแสดงผลแบบไร้ขอบ ด้วยกระบวนการบรรจุภัณฑ์แบบ COP ทำให้มีขอบจอบางเฉียบ ส่งผลให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.69%
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.9 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางฝั่งซ้ายของจอแสดงผล
ปุ่มเพิ่มและปุ่มลดระดับเสียง ติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
ด้านบนพบรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง และมีอินฟราเรดติดตั้งมาให้ด้วย
ถาดใส่ซิมการ์ดพบได้ที่ด้านล่าง ใกล้กันมีรูไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และตะแกรงลำโพง ให้เสียงสเตอริโอ เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio
ชาร์จเร็ว 240W SUPERVOOC เร็วที่สุดในโลก
อีกไฮไลท์สำคัญของสมาร์ทโฟน realme GT3 240W นั่นคือเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 240W SUPERVOOC ซึ่งถือว่าเป็นความเร็วในอันดับต้นๆ ของตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ที่เปิดตัวในเชิงพาณิชย์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของ realme GT3 240W จากระดับ 1% ถึง 20% ในเวลา 80 วินาที ชาร์จถึงระดับ 50% ในเวลา 4 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 9 นาที 30 วินาที โดยใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อน ความจุรวม 4600mAh
เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 240W SUPERVOOC ช่วยให้ realme GT3 240W ใช้เวลาชาร์จเพียง 30 วินาที ก็เพียงพอสำหรับการโทรต่อเนื่อง 2.1 ชั่วโมง หรือชาร์จเพียง 10 วินาที สามารถใช้โทรได้นาน 1 ชั่วโมง นอกจากชาร์จเร็ว realme ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยด้วย โดยผ่านการรับรองด้านความปลอดภัยในการชาร์จเร็วจาก TÜV Rheinland นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ชาร์จเร็วมากกว่า 200W ที่ได้รับ TÜV Rheinland Safe Fast-Charge System Certification
ขณะเดียวกัน แบตเตอรี่ของ realme GT3 240W ยังให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง 2 เท่า ด้วยรอบการชาร์จ 1,600 รอบ แบตเตอรี่ทั่วไปรองรับอบการชาร์จ 800 รอบ ก่อนที่ความจุแบตเตอรี่เดิมจะลดลงถึง 80% หมายความว่าแบตเตอรี่ของ realme GT3 240W เสื่อมช้ากว่าแบตเตอรี่ทั่วไป 2 เท่า
realme GT3 240W ยังชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างชาญฉลาดด้วย AI Smart Charging คอยเรียนรู้พฤติการการใช้งาน เพื่อรักษาระดับการชาร์จไว้ 80% ขณะนอนหลับ แล้วจะเพิ่มพลังการชาร์จให้เต็ม 100% ก่อนตื่นนอน เพื่อให้สุขภาพของแบตเตอรี่ยังคงใกล้เคียงกับของใหม่แม้ผ่านระยะเวลาใช้งานนานกว่า 1 ปี
จอแสดงผลคุณภาพสูง 144Hz
realme GT3 240W มาพร้อมจอแสดงผลระดับเรือธง ความละเอียด 2772 x 1240 พิกเซล ขนาด 6.74 นิ้ว ให้สีสันมากถึง 1.07 พันล้านสี อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1 รองรับมาตรฐานสี DCI-P3 100% ความแม่นยำของสี JNCD ≈ 0.33 ความสว่างสูงสุด 1400 นิต และสามารถปรับลดแสง PWM ได้ที่ความถี่สูง 2160Hz เพื่อลดการกะพริบของหน้าจอ
จอแสดงผลของ realme GT3 240W ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz ซึ่งสามารถเข้าไปปรับอัตราการรีเฟรชแบบอัตโนมัติตามคอนเท้นต์หรือแอปที่กำลังใช้งาน หรือปรับเป็น 60Hz เพื่อประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ และยังให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 1500Hz จึงตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็วทันที
นอกเหนือจากสีสันที่คมชัดสมจริง จอแสดงผลของ realme GT3 240W ยังใช้กระบวนการบรรจุภัณฑ์แบบ COP ทำให้มีขอบจอบางเฉียบเพียง 2.31 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.69% มอบประสบการณ์การรับชมแบบไร้ขอบ
เซ็นเซอร์สแกนนิ้ว พร้อมวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
realme GT3 240W ใช้วิธียืนยันตัวตนตามแบบฉบับของสมาร์ทโฟนเรือธง โดยมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ สำหรับปลดล็อคหรือยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สมาร์ทวอทช์หรืออุปกรณ์เสริมพิเศษ
กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera
realme GT3 240W ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก Sony IMX890 OIS ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.88 ชุดเลนส์ 6P, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองภาพ 112 องศา ชุดเลนส์ 5P และ กล้อง Microscope 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.3
กล้องหลังของ realme GT3 240W รองรับโหมดถ่ายภาพ Street (Street Photography 3.0) สำหรับถ่ายภาพแนวสตรีทได้อย่างง่ายดายเหมือนเป็นช่างภาพมืออาชีพ โดยมีฟิลเตอร์ใหม่ Arid Desert เพิ่มเข้ามา ร่วมกับฟิลเตอร์ 90s Pop และ Street
ขณะที่กล้อง Microscope ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพรายละเอียดเล็กๆ ได้มากถึง 40 เท่า เหมือนเป็นกล้องจุลทรรศน์ ส่วนโหมด Video สามารถบันทึกได้ในความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที โดยมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ทำให้ได้ภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่น
กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
realme GT3 240W ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยใช้เซ็นเซอร์ Samsung S5K3P9 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 มุมมองภาพ 82.3 องศา รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait ที่มีฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait และ AI Color Portrait ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพเซลฟี่ และสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ชิปเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1
realme GT3 240W ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งเป็นชิปที่แรงที่สุดของ Qualcomm ในปี 2022 มาพร้อมซีพียูแกนหลัก Cortex-X2 ความเร็วสูงสุด 3GHz + 3x Cortex-A710 ความเร็วสูงสุด 2.5GHz + 4x Cortex-A510 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ให้ประสิทธิภาพของซีพียูเร็วขึ้น 10% และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงานให้ดีขึ้น 30% ขณะที่จีพียู Adreno 730 ของชิป Snapdragon 8+ Gen 1 สามารถทำงานที่ความถี่สูงขึ้น 10% และลดการใช้พลังงานลง 30% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 8 Gen 1
จากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชั่น AnTuTu พบว่า realme GT3 240W ทำได้ถึง 1,046,783 คะแนน ส่วนแอปพลิเคชั่น Geekbench 6 ได้รับ 1,381 คะแนน สำหรับ Single Core และทำได้ 3,906 คะแนน สำหรับ Multi Core
ด้านความจำ realme GT3 240W ใช้มาตรฐานความจำ RAM แบบ LPDDR5X สูงสุด 16GB จับคู่กับ ROM 256GB (UFS 3.1) รองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB ผ่าน Virtual RAM จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM มากถึง 28GB สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นค้างไว้ในพื้นหลังได้มากกว่า 50 แอป โดยที่การทำงานยังคงราบรื่น
สรุป
realme GT3 240W มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 240W เป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุด และดูเหมือนจะล้ำหน้าคู่แข่งมากที่สุด สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4600mAh จากระดับ 1 – 100% ในเวลาไม่ถึง 10 นาที ดีไซน์โดยรวมก็ให้ความโดดเด่นด้วยไฟ RGB รูปตัว C ที่ด้านหลัง จอแสดงผลคมชัดขนาดใหญ่ ให้สีสันสวยงามสมจริง และยังใช้ชิปเรือธงจาก Qualcomm ควบคู่กับความจำ RAM ขนาดใหญ่ถึง 16GB ตอบสนองการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างลื่นไหล
ทั้งนี้ realme GT3 240W เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของ realme ที่นำมาเปิดตัวครั้งแรกในงาน MWC 2023 ก่อนจะทำตลาดไปทั่วโลก รวมถึงในไทยซึ่งผ่านการรับรองจาก กสทช. เรียบร้อยแล้ว จึงคาดว่าอีกไม่นานชาวไทยจะได้สัมผัสตัวจริงกันอย่างแน่นอน มีให้เลือกทั้งหมด 5 ความจุได้แก่ 8+128GB, 12+256GB, 16+256GB, 16+512GB และรุ่นพิเศษ 16+1TB โดยวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ $649 หรือราว 22,900 บาท