Samsung กำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Galaxy S23 Series ในกิจกรรม Galaxy Unpacked ครั้งแรกของปี 2023 ซึ่งจะสตรีมให้รับชมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เวลาประมาณ 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย แต่ข้อมูลต่างๆ ของ Galaxy S23, Galaxy S23 Plus และ Galaxy S23 Ultra รั่วไหลออกมาเกือบหมดแล้ว
ดีไซน์และจอแสดงผล
Galaxy S23 และ Galaxy S23 Plus แชร์ดีไซน์ร่วมกัน มีขอบมุมที่โค้งมนกว่า Galaxy S23 Ultra อย่างชัดเจน ด้านหลังแบนราบ มาพร้อมกล้อง 3 ตัว จัดวางในแนวตั้ง ด้านหน้าของทั้งคู่ดูคล้ายกันด้วยจอแสดงผลแบบ Infinity-O Display แต่ Galaxy S23 Plus มีขนาดใหญ่กว่า
ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 1750 นิต ให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 48 – 120Hz รองรับ HDR10+ และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
อย่างไรก็ตาม Galaxy S23 มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ทำให้มีความหนาแน่นพิกเซล 425 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ขณะที่ Galaxy S23 Plus มีขนาดหน้าจอ 6.6 นิ้ว ทำให้มีความหนาแน่นพิกเซล 393 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว)
Galaxy S23 และ Galaxy S23 Plus ผลิตออกมาให้เลือก 4 สี เช่นเดียวกับ Galaxy S23 Ultra ได้แก่ Phantom Black, Cotton Flower, Botanic Green และ Misty Lilac ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP68 โดย Galaxy S23 มีขนาดตัวเครื่อง 146.3 x 70.9 x 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 167 กรัม ส่วน Galaxy S23 Plus มีขนาดตัวเครื่อง 157.8 x 76.2 x 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 195 กรัม
สเปก
Galaxy S23 และ Galaxy S23 Plus ได้รับชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy แบบเดียวกับ Galaxy S23 Ultra โดยมีรายงานว่าจะไม่มีการผลิตเวอร์ชั่น Exynos ออกมาเหมือนรุ่นก่อนๆ หมายความว่าผู้ใช้งาน Galaxy S23 Series ทั่วโลกจะได้รับประสิทธิภาพแบบเดียวกัน
ด้านความจำทั้งคู่ได้รับ RAM (LPDDR5X) 8GB แต่มีความจุ ROM แตกต่างกันไป Galaxy S23 มี ROM 128GB (UFS 3.1) / 256 GB (UFS 4.0) ขณะที่ Galaxy S23 Plus มี ROM 256GB / 512GB (UFS 4.0)
Galaxy S23 มีความจุแบตเตอรี่ 3900mAh รองรับชาร์จเร็ว 25W ส่วน Galaxy S23 Plus มีความจุแบตเตอรี่ 4700mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ทั้ง 2 รุ่นสนับสนุนการชาร์จไร้สาย 10W และมีฟีเจอร์ Wireless PowerShare สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย
Galaxy S23 และ Galaxy S23 Plus ทำงานบนพื้นฐาน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, NFC, UWB (Ultra-wideband มีเฉพาะรุ่น Plus และ Ultra) ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ มีลำโพงคู่ และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
กล้อง
Galaxy S23 และ Galaxy S23 Plus ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว เหมือนกัน ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ระบบโฟกัส Dual Pixel, กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองภาพ 120 องศา ระบบโฟกัส PDAF และ กล้อง Telephoto 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับออปติคัลซูม 3 เท่า มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ระบบโฟกัส Dual Pixel
สำหรับกล้องหน้าของ Galaxy S23 Series ใช้สเปกเดียวกันทั้ง 3 รุ่น โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองภาพ 80 องศา และรองรับ HDR10+
ราคาเปิดตัว
Samsung ยังไม่มีการเปิดเผยราคาจนกว่ากิจกรรม Galaxy Unpacked 2023 จะจบลง แต่มีข่าวลือว่า Samsung ยังไม่มีการขึ้นราคาสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy S23 Series หมายความว่า อาจมีราคาเปิดตัวเท่ากับ Galaxy S22 Series ในปีที่แล้ว โดยมีราคาแตกต่างกันดังนี้
- Galaxy S23 เริ่มต้นที่ 1,199.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 39,190 บาท (RAM 8GB + ROM 128GB)
- Galaxy S23 Plus เริ่มต้นที่ 999.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,690 บาท (RAM 8GB + ROM 256GB)
- Galaxy S23 Ultra เริ่มต้นที่ 799.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26,190 บาท (RAM 8GB + ROM 256GB)