HomePod รุ่นแรก ได้รับการเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2017 แต่กว่าจะพร้อมวางจำหน่ายก็ต่อรอถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ก่อนจะถูกถอดออกจากตลาดไปในเดือนมีนาคมปี 2021 อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว HomePod รุ่นที่ 2 อย่างทางการแล้ว ส่วนจะมีความแตกต่างจากรุ่นแรกอย่างไรบ้าง เราได้สรุปมาให้แล้ว
ความแตกต่างระหว่าง HomePod รุ่นที่ 2 กับรุ่นแรก
ขนาดและน้ำหนัก
- HomePod รุ่นแรก สูง 172 มิลลิเมตร กว้าง 142 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
- HomePod รุ่นที่ 2 สูง 168 มิลลิเมตร กว้าง 142 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2.3 กิโลกรัม
สีสัน
- HomePod รุ่นแรก มาในสีขาว และ สีเทาสเปซเกรย์
- HomePod รุ่นที่ 2 มาในสีขาว และ สีมิดไนท์
เทคโนโลยีเสียง
- HomePod รุ่นแรก มีลำโพงวูฟเฟอร์แบบ High Excursion พร้อมแอมพลิไฟเออร์ในตัว, ลำโพงทวีตเตอร์ความถี่สูง 7 ตัว ที่มีแอมพลิไฟเออร์ในตัว, ไมโครโฟน 6 ตัว ที่มีระบบตัดเสียงสะท้อน ช่วยให้ Siri รับคำสั่งได้อย่างถูกต้อง, ระบบตรวจจับและปรับสมดุลอัตโนมัติของลำโพงวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์จะใช้ทั้งเสียงกระทบโดยตรงและเสียงสะท้อน เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่สมจริงยิ่งขึ้นไปอีก
- HomePod รุ่นที่ 2 มีลำโพงวูฟเฟอร์แบบ High Excursion ขนาด 4 นิ้ว ที่ผ่านการปรับแต่งด้านวิศวกรรมมาเป็นพิเศษ มอเตอร์ทรงพลังที่ใช้ไดอะแฟรมขนาดถึง 20 มิลลิเมตร, ลำโพงทวีตเตอร์ 5 ตัว เรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งอยู่รอบฐาน, ไมโครโฟน 4 ตัว รวมถึงไมโครโฟนแบบ Bass-EQ, เทคโนโลยีตรวจจับสภาพห้องช่วยให้ HomePod นำข้อมูลเสียงสะท้อนจากพื้นผิวใกล้เคียงมาประมวลผลว่าตอนนี้ตัวเครื่องวางอยู่ชิดผนังห้องหรือตั้งอยู่กลางห้อง แล้วนำไปปรับเปลี่ยนลักษณะเสียงได้แบบเรียลไทม์, รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง Spatial Audio พร้อม Dolby Atmos
HomePod ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นแรก สามารถจับคู่กับ HomePod อีกตัวเพื่อให้เสียงสเตอริโอ และมีระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันหลายห้องด้วย AirPlay
HomePod รุ่นแรก และรุ่นที่ 2 สามารถฟังเพลงได้จาก Apple Music, Apple Music Radio, ฟังรายการวิทยุจาก Apple Podcasts รองรับการเล่นเพลงที่แชร์ผ่าน AirPlay จาก iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV, Mac รวมถึงฟังเพลงจากสถานีวิทยุ TuneIn, iHeartRadio, Audacy, Radio.com
การควบคุม
HomePod รุ่นแรก และรุ่นที่ 2 รองรับการควบคุมแบบสัมผัสที่ด้านบนของลำโพงเหมือนกัน
ชิป
- HomePod รุ่นแรก ใช้ชิป Apple A8
- HomePod รุ่นที่ 2 ใช้ชิป Apple S7 และมีชิป U1
การเชื่อมต่อไร้สาย
- HomePod รุ่นแรก รองรับ Wi-Fi 802.11ac พร้อม MIMO, Bluetooth 5.0
- HomePod รุ่นที่ 2 รองรับ Wi-Fi 802.11n, Bluetooth 5.0, Ultra Wideband
เซ็นเซอร์
HomePod รุ่นที่ 2 มาพร้อมเซ็นเซอร์ Sound Recognition, Accelerometer และ Temperature & Humidity ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้น สามารถวัดข้อมูลภายในบ้านได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถสร้างการทำงานอัตโนมัติให้ปิดม่านหรือพัดลมโดยอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ถึงจุดที่กำหนดไว้
สรุป
HomePod รุ่นใหม่ ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าแก่การรอคอยสำหรับผู้ใช้งานที่มองว่า HomePod mini เล็กเกินไป โดยมาพร้อมเทคโนโลยีที่สามารถสร้างความแตกต่างจากลำโพงอัจฉริยะของคู่แข่งได้ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับระบบนิเวศของ Apple ได้อย่างราบรื่น
ทั้งนี้ HomePod รุ่นที่ 2 จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2023 เป็นต้นไป ในราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,890 บาท เฉพาะออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สเปน, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และอีกกว่า 11 ประเทศหรือภูมิภาค
ที่มา – iDownloadBlog