เว็บไซต์ Cult of Mac รายงานว่าได้เวลาแล้วที่ Apple จะต้องเพิ่มตัวเลือก 5G ให้กับ MacBook รุ่นใหม่ โดยให้เหตุผลที่สำคัญ 2 ประการ อย่างแรก คือ MacBook รุ่นใหม่ๆ มีดีไซน์บางเบา พกพาได้สะดวก เหมาะสำหรับการทำงานในทุกๆ ที่ เช่นเดียวกับ iPad และอีกประการก็คือ iPad รุ่น Cellular รองรับ 5G แล้ว และเป็นตัวเลือกที่ขายดีกว่ารุ่น Wi-Fi
ถึงแม้สัญญาณ Wi-Fi จะมีให้ใช้งานอย่างแพร่หลายเกือบทุกพื้นที่ แต่ก็ยังขาดความสะดวกเมื่อเทียบกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายมือถือ นั่นทำให้ iPad มีตัวเลือก Cellular มาหลายปีแล้ว และในรุ่นใหม่ๆ ก็ยังรองรับ 5G ซึ่งขายดีกว่ารุ่น Wi-Fi อ้างอิงจากข้อมูลของ Consumer Intelligence Research Partners พบว่า iPad ที่ขายได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2022 มากกว่า 51% เป็นรุ่น Cellular
จากยอดขายที่แข็งแกร่งของ iPad รุ่น Cellular จึงมีความเป็นไปได้ที่ MacBook รุ่นรองรับ 5G จะเป็นที่ต้องการสูงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เครือข่าย 5G มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้นและมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น จากผลการศึกษาช่วงกลางปี 2022 พบว่าเครือข่ายของ T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยที่ 264Mbps แม้แต่คู่แข่งที่ช้าที่สุดก็มีค่าเฉลี่ย 79Mbps ซึ่งเร็วพอที่จะทำให้ MacBook ทำงานได้ทุกที่
จริงอยู่ iPhone สามารถใช้เป็น Hotspot แบบพกพาได้ และเป็นเรื่องปกติสำหรับการเชื่อมต่อเป็นครั้งคราว แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีการที่ล้าสมัย ทำให้เกิดความยุ่งยากในการใช้งาน และยังเปลืองพลังงานของ iPhone โดยไม่จำเป็น ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่ Apple ควรเริ่มนำเสนอตัวเลือก 5G สำหรับ MacBook รุ่นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์แบบเดียวกับ iPad
การเพิ่มตัวเลือก 5G ให้กับ MacBook ยังทำให้ผู้ผลิตมีรายได้มากขึ้น จากการสร้างโมเด็ม 5G ขณะที่ผู้ใช้งาน ก็จะได้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi อีกต่อไป
ที่มา – Cult of Mac