Apple เดินหน้าเร่งแผนการในการกระจายห่วงโซ่อุปทานออกนอกประเทศจีน หลังจากโรงงานประกอบ iPhone ต้องหยุดชะงักหลายครั้งจากมาตรการป้องกัน COVID-19 ของทางการจีน ตามรายงานของสำนักข่าว The Wall Street Journal
แหล่งข่าวรายงานว่า Apple ให้ความสนใจในการขยายโรงงานประกอบ iPhone ในอินเดียและเวียดนาม ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ Apple มีฐานการผลิตขนาดใหญ่อยู่แล้ว
ประเทศอินเดียและบราซิลในปัจจุบัน ถูกใช้เป็นโรงงานผลิต iPhone รุ่นเก่า ของ Apple ขณะที่ในเวียดนาม ก็เป็นภูมิภาคหลักในการผลิต AirPods และ HomePods
ด้วยผลกระทบจากการผลิตที่ล่าช้าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้โรงงาน Foxconn ในประเทศจีน ที่รับผิดชอบในการประกอบ iPhone เริ่มมีความสำคัญน้อยลงไปทุกที อย่างไรก็ตาม การย้ายฐานผลิต iPhone ออกจากประเทศจีน เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน เนื่องจากในจีนมีความพร้อมด้านโครงสร้าง แรงงานจำนวนมาก และค่าแรงที่มีราคาถูก แต่เชื่อว่า Apple จะสามารถกระจายห่วงโซ่อุปทานออกนอกประเทศจีนได้มากถึง 40% ในเร็วๆ นี้
การพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในประเทศจีนของ Apple เริ่มได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2016 จากสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ แต่ Apple มีวิธีการจัดการที่ดี ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ท้ายที่สุดการผลิต iPhone ในจีน กลับต้องหยุดชะงักอยู่บ่อยครั้ง จากการระบาดของ COVID-19 และทางการจีนมีนโยบายการป้องกันที่เข้มงวดด้วยมาตรการ Lockdown
ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Apple ได้ออกมาเตือนว่า การปิดโรงงานประกอบ iPhone ในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการวางจำหน่าย iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ทำให้ผู้ที่ทำรายการสั่งซื้ออาจต้องรอการจัดส่งไปจนถึงหลังวันคริสต์มาส ซึ่งทำให้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายของ Apple ลดลงด้วย
ที่มา – 9to5Mac