Toyota เปิดตัวรถยนต์ไฮบริด All-New Prius ที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะมีขุมพลังให้เลือก 2 ระบบ ได้แก่ Hybrid (HEV) เริ่มทำตลาดปลายปีนี้ และ Plug-in Hybrid (PHEV) พร้อมวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า (ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2023) และมีให้เลือกถึง 8 สี
All-New Prius ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Hybrid Reborn นำเสนอการออกแบบที่มีสไตล์ สามารถสร้างความประทับใจได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น และยังมีสมรรถนะการขับขี่ที่น่าหลงใหล โดยทาง Toyota หวังว่า All-New Prius จะเป็นรถยนต์ที่ทำให้เจ้าของรักและใช้งานต่อไปแม้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ด้วยแพลตฟอร์ม TNGA เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย
ดีไซน์ภายนอกของ All-New Prius ยังใช้รูปทรงโมโนฟอร์มแบบเดียวกับ Prius รุ่นแรก แต่มีรูปทรงทันสมัยขึ้น จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ล้อขนาดใหญ่ 19 นิ้ว การออกแบบด้านหน้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉลามหัวค้อน โดยปรับให้เกิดความสมดุลระหว่างการใช้งานและความมีสไตล์ ส่วนการออกแบบด้านหลังโดดเด่นด้วยชุดไฟท้ายที่ขยายออกไปในแนวนอน
ดีไซน์ภายในเกิดจากแนวคิด Island Architecture เน้นความกว้างขวาง มีหลังคา Moonroof แบบ Panoramic View การตกแต่งเรียบง่ายด้วยโทนสีดำทั้งแผงหน้าปัดและเบาะนั่ง สร้างความสมดุลระหว่างความสปอร์ตและความหรูหรา ตำแหน่งคนขับถูกออกแบบมาให้มีสมาธิกับการขับขี่ และมาพร้อมแผงหน้าปัดที่มีระบบไฟเตือนแบบเรืองแสงครั้งแรกของ Toyota
All-New Prius ยังมีฟีเจอร์ Toyota Safety Sense-linked แบบใหม่ โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ถึงวัตถุที่ตรวจพบผ่านสัญญาณไฟกะพริบก่อนที่จะมีเสียงเตือน เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น
All-New Prius เวอร์ชั่น PHEV มาพร้อมระบบ Plug-in Hybrid 2.0 ลิตร รุ่นแรกของ Toyota ให้อัตราเร่งและความเงียบที่ดีขึ้นอย่างมากจากรุ่นก่อน โดยใช้ Dynamic Force Engine ประสิทธิภาพสูง และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ทำให้ได้กำลังขับสูงสุด 164 กิโลวัตต์ (223 แรงม้า) แต่ยังคงรักษาระดับประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.7 วินาที
ด้วยประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ทำให้ All-New Prius เวอร์ชั่น PHEV รองรับการขับขี่ในโหมด EV เพียงอย่างเดียว สำหรับการขับขี่ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ซึ่งให้ระยะการขับขี่ EV สูงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 50% และยังมีโหมด My Room ช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงของรถยนต์ โดยใช้แหล่งพลังงานภายนอก โดยเปิดสวิตช์ไฟระหว่างการชาร์จ ทำให้พื้นที่ภายในสะดวกสบายยิ่งขึ้น
All-New Prius เวอร์ชั่น HEV มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 2.0 ลิตร และ 1.8 ลิตร โดยรุ่น 2.0 ลิตร มีกำลังขับสูงสุด 144 กิโลวัตต์ (193 แรงม้า) สูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 1.6 เท่า ให้อัตราเร่งที่น่าพึงพอใจและตอบสนองการขับขี่ได้ตามที่คาดไว้
All-New Prius เวอร์ชั่น HEV มาพร้อมกับระบบ E-Four ใช้มอเตอร์กำลังสูง เพื่อทำให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้นบนทางขึ้นเขา หรือ บนพื้นผิวถนนที่มีแรงเสียดทานต่ำ เช่น ถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และยังเพิ่มความมั่นใจในการเข้าโค้ง
ที่มา – Toyota