ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐสภายุโรป มีการลงมติเห็นชอบกฎหมายใหม่ ซึ่งบังคับให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคเกือบทุกประเภทที่ส่งเข้ามาวางจำหน่ายในยุโรป ต้องใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ภายในสิ้นปี 2024 รวมถึง iPhone ก็ไม่มีข้อยกเว้น
ดูเหมือน Apple ไม่มีทางเลือกอื่นๆ นอกจากจะปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของยุโรป และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารระดับสูงของ Apple ออกมาพูดถึงเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว
Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple ให้สัมภาษณ์กับ Joanna Stern จาก The Wall Street Journal โดยยืนยันว่า Apple ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับที่ชาร์จ USB-C ของสหภาพยุโรป แต่ไม่ยืนยันว่า Apple จะเปลี่ยนพอร์ตชาร์จของ iPhone เป็น USB-C
Greg Joswiak อธิบายว่า USB-C และ Lightning เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน ที่ใช้สาย Lightning และในมุมมองของ Joswiak ตามความเชื่อของ Apple คือ การที่บริษัทฯ สร้างสมดุลโดยใช้สายเคเบิลชนิดหนึ่งที่สามารถถอดออกจาก Power Adapter ได้ ซึ่งหมายความว่าด้านหนึ่งมี Lightning และอีกด้านหนึ่งสามารถเชื่อมต่อแบบใดก็ได้ที่สะดวกที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น USB-C หรือ USB-A
รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple ยังกล่าวว่าฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรป และ Apple “มีความขัดแย้งกันเล็กน้อย” เกี่ยวกับแนวคิดของกฎระเบียบเกี่ยวกับอุปกรณ์ชาร์จทั่วไป Greg Joswiak ตั้งข้อสังเกตว่าแม้ว่าสหภาพยุโรปจะมีเจตนาที่ดี แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะควบคุม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาชี้ให้เห็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปเคยพยายามสร้างมาตรฐานให้กับพอร์ตเชื่อมต่อ micro-USB ที่ปัจจุบันนี้ได้ล้าสมัยไปแล้ว
ทั้งนี้ มีข่าวลือว่า iPhone 15 หรือ iPhone ในปี 2023 จะเปลี่ยนมาใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C แทน Lightning
ที่มา – 9to5Mac