หลังจากที่ Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12 Series ไปในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมาที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ในที่สุดในเดือนนี้ก็ถึงเวลาที่ Xiaomi จะมาเขย่าวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้วย Xiaomi 12T Series ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการและพร้อมทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือกทั้ง Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ชูจุดเด่นที่กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 200 ล้านพิกเซล ใช้ชิประดับเรือธงที่ทรงพลัง จอแสดงผลให้สีสันคมชัดมากถึง 6.8 หมื่นล้านสี และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งยังชาร์จเร็วถึง 120W
สเปก Xiaomi 12T
- จอแสดงผล 120Hz CrystalRes AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว
- ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5
- ด้านหลังใช้กระจกป้องกันแสงสะท้อน
- กล้องหลัง 108MP Triple Camera
- กล้องหน้า 20MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8100-Ultra
- ความจำ RAM 8GB (LPDDR5) + ROM 256GB (UFS 3.1)
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 163.1 x 75.9 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 202 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue
สเปก Xiaomi 12T Pro
- จอแสดงผล 120Hz CrystalRes AMOLED DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว
- ด้านหน้าใช้กระจก Corning Gorilla Glass 5
- ด้านหลังใช้กระจกป้องกันแสงสะท้อน
- กล้องหลัง 200MP Triple Camera
- กล้องหน้า 20MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ Gen1
- ความจำ RAM 12GB (LPDDR5) + ROM 256GB (UFS 3.1)
- ลำโพงคู่ ปรับเสียงโดย Harman Kardon รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 120W HyperCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 163.1 x 75.9 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 205 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue
แกะกล่อง Xiaomi 12T Series
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ใช้กล่องสีขาวแบบเดียวกัน แต่ก็มีจุดสังเกตให้มองเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ด้านหน้ากล่อง มุมบนกล่องของ Xiaomi 12T จะระบุความละเอียดกล้องหลัก 108MP ขณะที่กล่องของ Xiaomi 12T Pro ระบุความละเอียด 200MP และยังพิมพ์ชื่อรุ่นไว้อย่างชัดเจนที่ส่วนล่าง
หลังจากยกฝากล่องขึ้นมา จะพบซองเอกสารสีขาว ซึ่งเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ด้วย ภายในมีเคสใสมาให้แล้ว พร้อมด้วยคู่มือ, ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ บัตรรับประกันสินค้า
ถัดลงมาเป็นชั้นวางสมาร์ทโฟน ที่มีแผ่นพลาสติกห่อหุ้มไว้ พร้อมบอกจุดเด่นของแต่ละรุ่น
Xiaomi 12T มีจุดเด่นที่กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล, รองรับชาร์จเร็ว 120W ความจุแบตเตอรี่ 5000mAh, ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8100-Ultra และ จอแสดงผล 120Hz CrystalRes AMOLED DotDisplay ส่วน Xiaomi 12T Pro มีจุดเด่นเหมือนกับ Xiaomi 12T แต่เหนือกว่าที่กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8+ Gen1 และลำโพงได้รับการปรับเสียงโดย Harman Kardon
ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บสายชาร์จ USB-C และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 120W Power Adapter
ดีไซน์
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ได้รับการออกแบบมาในสไตล์เดียวกัน มีให้เลือก 3 สีเหมือนกัน (Black, Silver, Blue) และยังมีขนาดตัวเครื่อง รวมถึงน้ำหนักที่ใกล้เคียงกันมาก จนยากที่จะแยกแยะได้ด้วยสายตา
ด้านหน้าของทั้งคู่ มาพร้อมจอแสดงผล CrystalRes AMOLED DotDisplay ขนาดเท่ากัน 6.67 นิ้ว โดย CrystalRes หมายถึงความคมชัดซึ่งให้สีสันมากกว่า 6.8 หมื่นล้านสี ส่วน DotDisplay คือดีไซน์เจาะหลุมบนหน้าจอเพื่อติดตั้งกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ใต้หน้าจอของ Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย
ด้านหลังของ Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ใช้วัสดุกระจกเช่นกัน แต่เป็นกระจกที่ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้มีพื้นผิวด้าน มถมบนติดตั้งระบบกล้องหลัง 3 ตัว โดยมีความแตกต่างที่ความละเอียดของกล้องตัวหลัก
ด้านข้างของทั้งคู่ มีความบางเท่ากัน 8.6 มิลลิเมตร อันที่จริง ความกว้าง และ ความสูง ก็เท่ากันด้วย (75.9 x 163.1) แต่ Xiaomi 12T เบากว่ารุ่น Pro เพียง 3 กรัม (202 vs 205 กรัม)
ปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มเพาเวอร์ ถูกวางไว้ในฝั่งเดียวกัน
มุมมองด้านบนจะพบตำแหน่งลำโพง และ ไมโครโฟนตัวที่ 2 โดย Xiaomi 12T Pro จะมีการสลัก SOUND BY Harman Kardon นอกจากนี้ ยังมีรูที่ใหญ่กว่าไมโครโฟนคือเป็น IR Blaster
ด้านล่างประกอบด้วยลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน), ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และ ช่องใส่ซิมการ์ด (รองรับ 2 ซิมการ์ด)
จอแสดงผล 6.8 หมื่นล้านสี 120Hz
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว (446 ppi) อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราความคมชัด 50,000,000:1 ความสว่าง HBM 900 นิต รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ AdaptiveSync (30Hz/60Hz/90Hz/120Hz) และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 480Hz
จอแสดงผลของทั้งคู่ ยังให้สีสันที่คมชัดสมจริงด้วยความลึกสีมากถึง 6.8 หมื่นล้านสี ให้สีสันที่แม่นยำด้วยค่า JNCD≈0.28, Delta E≈0.38 และยังรองรับ HDR10+ อย่างไรก็ตาม จอแสดงผลของ Xiaomi 12T Pro ยังสนับสนุน Dolby Vision, ให้สีสันสดใสและคอนทราสต์มากขึ้นผ่าน Adaptive True Display และ Adaptive HDR ได้รับมาตรฐาน SGS Low Visual Fatigue Certification และมี Adaptive Reading Mode ช่วยลดปริมาณแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมา เพื่อความสบายตาระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน
นอกจากจะให้ภาพที่สมบูรณ์แบบแล้ว Xiaomi 12T Pro ยังมีระบบเสียงที่น่าประทับใจ ด้วยลำโพงคู่ ที่ได้รับการปรับเสียงจาก Harman Kardon พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ขณะที่ Xiaomi 12T ก็ได้รับลำโพงคู่สเตอริโอ และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เช่นกัน
สแกนนิ้วใต้หน้าจอ
เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro จึงได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล (In-Screen Fingerprint Sensor) สำหรับการปลดล็อคสมาร์ทโฟน และยืนยันตัวตน ซึ่งสามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และถ้าไม่สะดวกใช้ลายนิ้วมือ ก็ยังรองรับวิธีสแกนใบหน้าได้เช่นกัน
ระบบกล้องหลัง 200 ล้านพิกเซล
Xiaomi 12T Pro มีความโดดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐาน ด้วยกล้องตัวหลักความละเอียดสูง 200 ล้านพิกเซล พร้อมยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการผสานคุณสมบัติหลัก 3 ส่วน ได้แก่ ฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และ อัลกอริทึมขั้นสูงของ Xiaomi ทำให้กล้องหลังของ Xiaomi 12T Pro ส่งมอบภาพถ่ายที่มีความคมชัด เพิ่มประสิทธิภาพในที่แสงน้อย และยังจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว
- กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล (Samsung ISOCELL HP1) ชุดเลนส์ 8P ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.22 นิ้ว รูรับแสง f/1.69 ระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ของ Xiaomi 12T Pro เป็น ถือว่าอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพที่คมชัดพร้อมเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการซูม 2 เท่า แบบ in-sensor ซึ่งเป็นประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.22 นิ้ว สำหรับการถ่ายภาพบุคคลที่เหมาะสม โดยการการผสานของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กับซุปเปอร์พิกเซล 16-in-1 ที่ 2.56 ไมครอน, ชุดเลนส์แบบ 8 ชิ้นเลนส์, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
และโหมดกลางคืนจาก Xiaomi ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพที่สว่างและชัดเจนในสภาวะแสงน้อย และเมื่อนำความสามารถนี้รวมกับอัลกอริทึมซอฟต์แวร์ขั้นสูง จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วโดยไม่สูญเสียโฟกัสอีกด้วย
ในแอปกล้องของ Xiaomi 12T Pro จะพบกับโหมด Pro (ตั้งค่ากล้องอย่างละเอียด เหมาะสำหรับช่างถ่ายภาพมืออาชีพ), Documents, Video, Photo, Portrait, Night ส่วนโหมดอื่นๆ ถูกรวมอยู่ใน More ประกอบด้วย Ultra HD (สามารถเปิดโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 200 ล้านพิกเซล ได้ที่นี่), Short Video, Panorama, VLOG, Slow Motion, Time-lapse, Movie Effects, Long Exposure, Dual Video, Clone และ Edit
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide และซูมได้สูงสุด 10x เมื่อแตะไอคอนเมนูที่มุมบนขวามือ จะพบกับการตั้งค่าอัตราส่วนภาพ, ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้า, Settings, Movie Frame, Voice Shutter, Gridlines, Macro, Tilt-shift และ Timed Burst แถบเครื่องมือด้านบนยังมีฟีเจอร์ HDR กับ AI ส่วนการปรับ Beauty และใส่ Filter มีไอคอนอยู่ทางมุมล่างขวามือ
โหมด Portrait ออกแบบมาเพื่อถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ โดยด้านล่างของจะมีไอคอนสำหรับเปิดใช้งาน Cinematic Effects, ฟีเจอร์ Blur ละลายฉากหลัก และไอคอนสุดท้ายสำหรับปรับ Beauty และใส่ Filter
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x จนสูงสุด 6x ไอคอนทางขวามือมีไว้เปิดฟีเจอร์ Beauty กับ Bokeh ส่วนแถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ HDR, เปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว ซึ่งเป็นแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ถัดมาเป็นไอคอนสำหรับใส่ Filter และไอคอนเมนู จะพบกับการตั้งค่าความละเอียดของวิดีโอ บันทึกได้สูงสุด 8K ที่อัตรา 24 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที
ไฟล์ภาพที่ถ่ายในโหมด 200MP นั้นมีขนาดใหญ่พอสมควรราวๆ 50MB- 80MB ต่อรูปเลยทีเดียว ซึ่งการเปิดดูภาพถ่ายความละเอียดสูง 200 ล้านพิกเซล บนสมาร์ทโฟน Xiaomi 12T Pro ทำได้อย่างลื่นไหล และสามารถขยายภาพได้อย่างราบรื่น เพียงเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง หรือ Double Tap และขณะซูมภาพ ที่มุมล่างขวามือก็ยังแสดงพื้นที่ของภาพด้วยว่ากำลังขยายในส่วนใดของภาพ
แต่ที่น่าสนใจก็คือ Xiaomi 12T Pro ยังมีฟีเจอร์ ProCut ที่ช่วยในการแก้ไขภาพถ่าย 200 ล้านพิกเซล ในสัมผัสเดียว ซอฟต์แวร์ก็จะ Crop ภาพถ่ายให้โดยอัตโนมัติ และได้ภาพที่มีอัตราส่วนแตกต่างกันมาให้เลือกใช้ (เลือกได้สูงสุด 5 ภาพ)
สำหรับกล้องหลังของ Xiaomi 12T ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่คล้ายกับรุ่น Pro ด้วยโหมดถ่ายภาพที่หลากหลายเช่นเดียวกัน แต่ในการถ่ายภาพนิ่ง สามารถจับภาพในความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ Xiaomi 12T ยังมีซอฟต์แวร์การถ่ายภาพกลางคืนที่ทรงพลัง ในโหมด Night และ Ultra Night Video ให้ภาพที่คมชัดและสว่างสดใสในสภาวะที่แสงน้อยมาก โดยรองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล (Samsung ISOCELL HM6) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.67 นิ้ว รูรับแสง f/1.7 ระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/5 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.75 ไมครอน รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า 20MP Selfie Camera
ระบบกล้องของ Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T มีสเปกที่ใกล้เคียงกัน แตกต่างเฉพาะกล้องตัวหลักเท่านั้น ขณะที่กล้อง Ultra Wide และ Macro ใช้โมดูลเดียวกัน รวมถึงกล้องหน้าของทั้งคู่ ก็ใช้สเปกเดียวกันด้วย โดยมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.47 นิ้ว ขนาดพิกเซล 0.8 ไมครอน รูรับแสง f/2.24 และให้มุมมองภาพ 78 องศา
ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ 1080p 60fps พร้อมโหมดบิวตี้และการใส่โบเก้ให้กับฉากหลังได้ รองรับ HDR และใส่ฟิลเตอร์ได้ตามใจ
ตัวอย่างภาพถ่าย Xiaomi 12T
ตัวอย่างภาพถ่าย Xiaomi 12T Pro
ชิปเรือธง Snapdragon 8+ Gen 1
Xiaomi 12T Pro ได้รับชิปประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 ซึ่งเป็นชิปที่แรงที่สุดของ Qualcomm ในปีนี้ โดยใช้กระบวนการผลิตขั้นสูงระดับ 4 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วยซีพียูแกนหลัก Cortex-X2 ความเร็วสูงสุด 3.2GHz + 3x Cortex-A710 ความเร็วสูงสุด 2.75GHz + 4x Cortex-A510 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz ให้ประสิทธิภาพของซีพียูเร็วขึ้น 10% และได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านพลังงานให้ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 8 Gen 1
ชิป Snapdragon 8+ Gen 1 มาพร้อมจีพียู Adreno ใหม่ สามารถทำงานที่ความถี่สูงขึ้น 10% อีกทั้งยังมี AI Engine รุ่นที่ 7 ยังมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 20% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 8 Gen 1 และเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใหญ่ขึ้น 65% และใช้วัสดุกันความร้อนที่ครอบคลุมมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ถึง 125% ทำให้ Xiaomi 12T Pro มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล และมีประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม โดยไม่ส่งผลต่อการกระจายความร้อนอีกด้วย
สำหรับ Xiaomi 12T ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8100-Ultra ของ MediaTek ถูกสร้างด้วยกระบวนการผลิตระดับ 5 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วยซีพียู 4x Cortex-A78 ความเร็วสูงสุด 2.85GHz + 4x Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมอัปเกรดโครงสร้างจีพียูใหม่ Mali-G610 MC6 จึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน นอกจากนี้ ผู้ใช้งาน Xiaomi 12T ยังได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล, การถ่ายภาพหรือวิดีโอ รวมไปถึงการดูหนังและการเลื่อนดูโซเชียลมีเดียต่างๆ
ด้านความจำ Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T ใช้มาตรฐานใหม่ RAM แบบ LPDDR5 จับคู่กับ ROM แบบ UFS 3.1 โดย Xiaomi 12T Pro มาพร้อม RAM 12GB + ROM 256GB ส่วน Xiaomi 12T มาพร้อม RAM 8GB + ROM 256GB
แบตใหญ่ชาร์จเร็ว 120W HyperCharge
Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เท่ากัน 5,000mAh สามารถรับชมวิดีโอได้นานต่อเนื่องถึง 13.5 ชั่วโมง จึงให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน โดยที่ยังเหลือพลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งานก่อนนอน
ที่น่าสนใจก็คือ Xiaomi 12T Series ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 120W HyperCharge สามารถชาร์จเต็มได้ 100% ในเวลาเพียง 19 นาที เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จทิ้งำว้ก่อนนอน แต่สามารถชาร์จตอนตื่นนอน ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม ก่อนที่ผู้ใช้งานจะทำกิจวัตรส่วนตัวในช่วงเช้าเสร็จด้วยซ้ำ (Xiaomi แถมที่ชาร์จ 120W มาให้ในกล่องแล้ว ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก)
สรุปราคาและการจำหน่าย
ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนเรือธงในตลาดเพียงไม่กี่รุ่น ที่มาพร้อมจอแสดงผลระดับ 1 พันล้านสี ส่วนใหญ่จะมีสีสันเพียง 16.7 ล้านสี แต่จอแสดงผลของ Xiaomi 12T Series ให้ความลึกสีสูงถึง 6.8 หมื่นล้านสี จึงให้ความคมชัด มองเห็นทุกรายละเอียด อีกทั้งยังมีอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ประกอบกับระบบเสียงสเตอริโอจากลำโพงคู่ ทำให้ Xiaomi 12T Pro และ Xiaomi 12T เป็นเรือธงที่ให้ความสมบูรณ์แบบทั้งภาพและเสียง
นอกจากนี้ Xiaomi 12T Series ยังมีจุดเด่นที่กล้องถ่ายรูปความละเอียด 200 ล้านพิกเซล สำหรับ Xiaomi 12T Pro และ 108 ล้านพิกเซล สำหรับ Xiaomi 12T มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ชาร์จเต็วไวด้วยเทคโนโลยี 120W HyperCharge จึงพร้อทใช้งานอยู่ตลอดเวลา และยังใช้ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง ตอบสนองการทำงานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
สรุปแล้ว Xiaomi 12T จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ที่มีความโดดเด่นในการถ่ายภาพ ชาร์จไว จอภาพสวยงาม และให้ประสิทธิภาพสูง แต่ถ้าต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดใน Series เดียวกัน Xiaomi 12T Pro จะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าด้วยกล้องความละเอียดสูงกว่า และใช้ชิปประมวลผลที่มีความเร็วแรงกว่า
Xiaomi 12T Series มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue โดยจะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
- Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 25,990 บาท
- Xiaomi 12T รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท
พิเศษ! สำหรับลูกค้า 1,500 คนแรกที่สั่งซื้อ Xiaomi 12T Series ล่วงหน้าระหว่างวันที่ 8 – 21 ตุลาคม 2565 รับฟรี! นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาท