อายุครบรอบ 10 ปีแล้ว สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning ของ Apple นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกกับ iPhone 5 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2012 ซึ่งถือเป็น iPhone รุ่นแรกที่มีการเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อแบบ 30 พิน มาเป็น Lightning ที่มีขนาดเล็กและใช้งานสะดวกกว่า
Phil Schiller อดีตหัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Apple กล่าวว่า “Lightning เป็นขั้วต่อที่ทันสมัยสำหรับทศวรรษหน้า และขณะนี้ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว”
นับตั้งแต่ iPhone 5 พอร์ตเชื่อมต่อ Lightning ยังคงถูกนำมาใช้งานต่อไปจนถึงรุ่นล่าสุด iPhone 14 แต่มีรายงานว่า iPhone 15 หรือ iPhone ในปี 2015 จะไม่มีการใช้พอร์ต Lightning อีกแล้ว โดยจะเปลี่ยนไปใช้ USB-C ตามกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ต้องใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C เป็นมาตรฐานเดียวกันภายในปี 2024 ไม่เช่นนั้น จะไม่ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายในยุโรป และมีแนวโน้มว่าภูมิภาคอื่นๆ ก็จะผลักดันออกกฎหมายแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของ Apple เริ่มนำพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C มาใช้งานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Mac และ iPad (ยกเว้น iPad รุ่นประหยัด ที่มีข่าวลือว่าจเปลี่ยนมาใช้ พอร์ต USB-C เช่นเดียวกัน) รวมถึง Studio Display, Pro Display XDR และ หูฟังบางรุ่นภายใต้แบรนด์ Beats
ขั้วต่อ Lightning สามารถเสียบได้ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งมาก่อน USB-C ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อ แต่ USB-C กลายเป็นมาตรฐานการชาร์จที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในตลาด โดยมีจุดเด่นที่ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล สามารถทำได้สูงถึง 5 – 10Gbps หรือแม้กระทั่ง สูงสุด 40Gbps หากอุปกรณ์สนับสนุน Thunderbolt 3 ขณะที่ Lightning บน iPhone 13 หรือรุ่นเก่ากว่า ให้ความเร็วสูงสุดที่ 480Mbps
ที่มา – MacRumors