Jabra แบรนด์หูฟังเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน แนะนำหูฟังแบบ True Wireless Earbuds รุ่นใหม่ Jabra Elite 5 ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active Noise Cancellation ไมโครโฟน 6 ตัว ให้เสียงสนทนาชัดเจน ฟังเพลงจาก Spotify ได้ทันใจ ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 36 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC) และยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งทีมงาน @Flashfly ได้รีวิวเรียบร้อยแล้ว เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย
สเปก Jabra Elite 5
- ลำโพงขนาด 6 มิลลิเมตร
- ไมโครโฟน 6 ตัว
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- รองรับผู้ช่วยเสียง Amazon Alexa, Siri, Google Assistant
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP55
- รองรับการชาร์จไร้สาย
- ขนาดหูฟัง 20 x 20.54 x 27 มิลลิเมตร, น้ำหนักข้างละ 5 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ 26 x 38.9 x 64.1 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 40 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Titanium Black และ Gold Beige
แกะกล่อง
Jabra Elite 5 จัดส่งมาในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพหูฟังสีทอง Gold Beige ซึ่งเป็นสีที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว โดยมีการติด QR Code ให้สแกนเพื่อลงทะเบียนรับประกัน (ให้ความคุ้มครองยาวนาน 2 ปี) ขอบล่างบอกจุดเด่นของระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active Noise Cancellation
หลังกล่องพิมพ์รูปภาพให้เห็นว่าภายในกล่องแถมจุกหูฟังซิลิโคนมาให้ 3 ขนาด ใต้รูปภาพระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการ ได้แก่ ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ANC, ไมโครโฟน 6 ตัว ให้เสียงโทรคุยชัดเจน, รองรับการจับคู่กับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน, เรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง และ Spotify Tap ได้ง่ายๆ เพียงแตะ 2 ครั้งที่ด้านหลังของหูฟังข้างซ้าย, แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 27 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC และ ดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ สวมใส่สบาย
ภายในกล่องจะพบกับคู่มือ, สายชาร์จ, จุกหูฟังซิลิโคน 2 คู่ ในขนาดที่แตกต่างกัน (อีกคู่ติดมาให้แล้วจากโรงงาน), เคสชาร์จมีแผ่นพลาสติกห่อหุ้มไว้ และมีหูฟังเก็บไว้ภายในเรียบร้อยแล้ว
ดีไซน์
Jabra Elite 5 เป็นหูฟังไร้สายแบบ True Wireless Earbuds ที่ไม่มีส่วนก้านยื่นออกมา ทำให้ดีไซน์ในภาพรวมดูทันสมัยโฉบเฉี่ยว เพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้สวมใส่ และผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Titanium Black เข้ากับทุกเพศทุกวัย และ สีที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว เป็นสีทอง Gold Beige ให้ความพรีเมียมหรูหรา
ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ผ่านขั้นตอนการสร้างแบบจำลองทางสถิติ และอาศัยฐานข้อมูลการสแกนหูที่ไม่ซ้ำกันนับหมื่น เพื่อให้ Jabra Elite 5 มอบความสบายที่สุดในการสวมใส่เป้นเวลานาน อีกทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูง ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP55 จึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องสายฝนหรือเหงื่อ
เคสชาร์จของ Jabra Elite 5 ใช้สีเดียวกับหูฟัง โดยมีดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะ 1 ดวง ติดตั้งไว้ใต้โลโก้ Jabra
ด้านหลังมีพอร์ตชาร์จ USB-C
ส่วนฐานของเคสชาร์จมีโลโก้ Qi หมายถึงรองรับการชาร์จไร้สาย เพียงวางไว้บนแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับมาตรฐาน Qi Wireless Charging
การควบคุมฟังก์ชันการโทรและฟังเพลง
ผู้ใช้งานสามารถควบคุมฟังก์ชันการโทรและฟังเพลงได้จากการแตะที่ด้านหลังของหูฟังทั้ง 2 ข้าง ตามคำสั่งต่อไปนี้
หูฟังข้างซ้าย – ขณะฟังเพลง
- กดครั้งเดียว เปิดการเปิดโหมด ANC และสลับโหมดฟังเสียงภายนอก
- กด 2 ครั้ง เรียกใช้ผู้ช่วยเสียง หรือ Spotify Tap
- กดค้างไว้ ลดระดับเสียง
หูฟังข้างขวา – ขณะฟังเพลง
- กดครั้งเดียว หยุด/เล่นชั่วคราว
- กด 2 ครั้ง ข้ามไปเพลงถัดไป
- กด 3 ครั้ง ย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า
- กดค้างไว้ เพิ่มระดับเสียง
หูฟังข้างซ้าย – ฟังก์ชันการโทร
- กดครั้งเดียว เพื่อรับสาย, เปิด/ปิดไมโครโฟน
- กด 2 ครั้ง เพื่อวางสาย หรือ ปฏิเสธการรับสาย
- กดค้างไว้ ลดระดับเสียง
หูฟังข้างขวา – ฟังก์ชันการโทร
- กดครั้งเดียว เพื่อรับสาย, เปิด/ปิดไมโครโฟน
- กด 2 ครั้ง เพื่อวางสาย หรือ ปฏิเสธการรับสาย
- กดค้างไว้ เพิ่มระดับเสียง
ระบบตัดเสียงรบกวน
Jabra Elite 5 ให้ผู้สวมใส่รับฟังเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่มเมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid Active Noise Cancellation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างไมโครโฟนด้านในและด้านนอก ช่วยให้หูฟังสามารถกรองเสียงรบกวนรอบข้างในย่านความถี่ที่กว้างขึ้น และสามารถเปิดโหมด ANC ได้ง่ายเพียงแตะที่ด้านหลังหูฟังข้างซ้ายเพียงครั้งเดียว หรือ แตะอีกครั้งจะเปิดโหมดฟังเสียงภายนอก ช่วยให้ผู้สวมใส่ได้ยินเสียงรอบข้าง โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู
โทรคุยได้อย่างชัดเจน
หูฟัง Jabra Elite 5 ประกอบไปด้วยไมโครโฟน 6 ตัว ที่ช่วยดักเสียงลม รวมถึงเสียงรบกวนรอบข้าง ช่วยให้ได้ยินเสียงจากปลายสายได้อย่างคมชัด ขณะเดียวกันยังทำหน้าที่จับเสียงของผู้สวมใส่ที่พูดออกมา เพื่อส่งไปให้ปลายสายได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้การโทรแบบแฮนด์ฟรีขณะอยู่กลางแจ้งหรือขณะมีลมพัดแรงไม่เป็นปัญหา นอกจากนี้ ไมโครโฟนคุณภาพสูงของ Jabra Elite 5 ยังทำให้การเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง (Amazon Alexa, Siri, Google Assistant) มีความแม่นยำ
คุณภาพเสียง
ภายในหูฟัง Jabra Elite 5 ติดตั้งลำโพงขนาด 6 มิลลิเมตร พร้อมรองรับตัวแปลงสัญญาณ SBC, AAC และ Qualcomm aptX จึงให้เสียงที่มีคุณภาพสูง เสียงดังฟังชัด อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียง Equalizer ตามความชอบส่วนตัวได้จากแอปพลิเคชั่น Jabra Sound+ ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน App Store และ Google Play Store (ในแอปมี Equalizer ให้เลือกเป็นค่า Preset อยู่แล้ว 6 แบบ แต่ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่ม + เพื่อปรับต่งเสียง Equalizer ได้ตามต้องการ)
จับคู่อุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง
Jabra Elite 5 รองรับ Google Fast Pair จึงสามารถจับคู่กับอุปกรณ์ Android ได้อย่างรวดเร็วทันใจ (Android 6.0 ขึ้นไป) รวมถึงรองรับ Microsoft Swift Pair สามารถจับคู่กับ Windows PC ได้อย่างง่ายดาย (Windows 10 ขึ้นไป) กรณีจับคู่แบบปกติ ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแตะด้านหลังหูฟังทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน ค้างไว้ราว 3 วินาที แล้วไปที่การตั้งค่า Bluetooth ในสมาร์ทโฟน เพื่อทำการค้นหาและจับคู่กับหูฟัง
Jabra Elite 5 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 8 เครื่อง และรองรับฟีเจอร์ Bluetooth Multipoint สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ขณะรับรับชมความบันเทิงบนแล็ปท็อป แล้วมีสายเรียกเข้า หูฟังก็จะสลับไปจับคู่กับสมาร์ทโฟนทันที เมื่อผู้ใช้งานกดรับสาย
แบตอึดรองรับชาร์จเร็วชาร์จไร้สาย
นอกจากจะเป็นหูฟังที่ยอดเยี่ยมในเรื่องของการฟังเพลงและใช้สนทนา Jabra Elite 5 ยังให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีเทคโนโลยีเกี่ยวกับการชาร์จที่ครบครันทันสมัย เริ่มจากอายุการใช้งานของหูฟัง สามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 275 วัน แต่ถ้าใช้ฟังเพลง จะอยู่ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง เมื่อปิด ANC หรือ 7 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC แต่สามารถขยายอายุการใช้งานในการฟังเพลงได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง ผ่านเคสชาร์จ และปิด ANC หรือ 28 ชั่วโมง ผ่านเคสชาร์จ และเปิด ANC
Jabra Elite 5 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จหูฟังเพียง 10 นาที สามารถใช้ฟังได้นาน 1 ชั่วโมง หากชาร์จจนเต็มจะใช้เวลา 180 นาที และตัวเคสชาร์จยังรองรับการชาร์จไร้สาย กับแท่นชาร์จไร้สายที่ใช้มาตรฐาน Qi
สรุปราคาและการจำหน่าย
Jabra Elite 5 เป็นหูฟังไร้สายที่มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพเสียงและการผลิต มีดีไซน์ที่ทันสมัยถูกใจคนรุ่นใหม่ สวมใส่สบายได้ตลอดทั้งวัน รองรับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน ANC พร้อมไมโครโฟน 6 ตัว โทรคุยได้อย่างชัดเจน และยังมีแบตเตอรี่ที่ให้อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาหูฟัง TWS ระดับเรือธงจากแบรนด์ที่วางใจได้ และมีราคาไม่สูงเกินไป
ทั้งนี้ Jabra Elite 5 ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ Titanium Black และ Gold Beige วางจำหน่ายในราคา 5,290 บาท มาพร้อมการรับประกันนาน 2 ปี สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านค้าชั้นนำอย่าง Gadget by RTB, Munkong Gadget, Banana IT, Studio7, 425 Degree, Mercular, Siam Discovery, Central Online, Lazada และ Shopee