Nokia Lumia 920 เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย แต่เทคโนโลยีเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่จะนำสมาร์ทโฟนก้าวสู่อีกขั้นของความสมบูรณ์แบบในการใช้งาน คือ PureMotion HD+ นวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการก้าวกระโดดของประสิทธิภาพหน้าจอสมาร์ทโฟนครบสี่ประการ ได้แก่
หน้าจอที่เร็วที่สุด
ถึงแม้ว่าฮาร์ดแวร์และระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันสามารถรองรับวิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหวในอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที (FPS) แต่หน้าจอของสมาร์ทโฟนเอง ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นหน้าจอ LCD และ OLED กลับไม่สามารถรองรับได้ ทำให้เกิดภาพแตกหรือเบลอขณะใช้งาน ทั้งในขณะเลื่อนหน้าจอ ท่องเว็บไซต์ เล่นเกมส์ หรือใช้เป็น viewfinder
โดยหลักการแล้ว การแสดงภาพเคลื่อนไหวในอัตรา 60 เฟรมต่อวินาทีโดยไม่เกิดภาพเบลอนั้น หน้าจอ liquid crystals จะต้องแสดงเฟรมก่อนหน้าให้เสร็จสิ้นก่อนขึ้นเฟรมต่อไป เทคโนโลยี PureMotion มอบศักยภาพในการแสดงภาพเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง โดยเสริมประสิทธิภาพการตอบสนองให้กับ liquid crystals ทั้งนี้ หน้าจอที่มีเทคโนโลยี PureMotion จะแสดงภาพในเฟรมก่อนหน้าได้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่เฟรมต่อไปจะปรากฏขึ้นมา ช่วยลดการเบลอของภาพขณะใช้งานหน้าจอแจ่มชัดที่สุด
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนรู้ดีว่า หน้าจอมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการใช้งาน แต่ปัญหาที่ทุกคนเผชิญก็คือ หน้าจอส่วนใหญ่จะไม่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ขณะอยู่กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อความ ท่องเน็ต หรือแม้แต่การโทรเข้า-รับสาย อันเนื่องมาจากแสงที่ตกสะท้อนลงบนหน้าจอ
ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ โนเกียได้แนะนำเทคโนโลยี ClearBlack ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลดการสะท้อนของหน้าจอเมื่อใช้โทรศัพท์กลางแจ้ง และในปีนี้ โนเกียได้ต่อยอดด้วยเทคโนโลยี PureMotion HD+ ซึ่งช่วยเพิ่มความสว่างของหน้าจอ โดยอาศัยการทำงานอัตโนมัติของเซ็นเซอร์รับแสงบนสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยปรับความคมชัดและความสว่างของหน้าจอเมื่อใช้งานกลางแจ้งโดยอัตโนมัติ
ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า หน้าจอ PureMotion ของ Nokia Lumia 920 จะใช้ backlight ในตัวเครื่องทำให้หน้าจอ WXGA (1280×768) มีความเรืองแสงสูงสุด พร้อมปรับ contrast หน้าจอโดยอัตโนมัติให้สอดรับกับความเรืองแสงของหน้าจอ ผู้ใช้งาน Nokia Lumia 920 จึงได้ทั้งการลดแสงสะท้อนและความแจ่มชัดถึงขีดสุดในขณะใช้งาน
ตอบสนองได้ทันใจ
คุณเคยจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนขณะสวมถุงมือหรือไม่ เช่น ใช้บันทึกหมายเลขติดต่อของลูกค้ารายใหม่ขณะ
ออกรอบตีกอล์ฟ หรือใช้ถ่ายรูปขณะท่องเที่ยวท่ามกลางอากาศหนาวในต่างประเทศ หรือเคยลองใช้ปากกาธรรมดา
(ไม่ใช่ปากกาดิจิตอล) เพื่อสั่งการหน้าจอขณะนั่งในห้องประชุม ก่อนหน้านี้ เราไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้กับสมาร์ทโฟนได้
แต่ด้วยเทคโนโลยี PureMotion HD+ ผนวกกับหน้าจอซูเปอร์ เซ็นซิทีฟ ที่ตอบสนองทั้งปากกา ถุงมือ หรือกุญแจรถ
ทุกอย่างก็เกิดขี้นได้บน Nokia Lumia 920
โนเกียเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกที่นำหน้าจอซูเปอร์ เซ็นซิทีฟ และหน้าจอสัมผัสที่ดีที่สุด มาใช้บนสมาร์ทโฟน
แม้แต่คุณผู้หญิงที่ไว้เล็บยาว ซึ่งปกติต้องวางนิ้วมือในมุมต่างๆ เพื่อใช้งานหน้าจอสัมผัส แต่ด้วย Nokia Lumia 920
สาวๆ ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด นั่นคือ การใช้เล็บสวยๆ สั่งการบนหน้าจอ
จำนวนพิกเซลมากขึ้นด้วย HD+
หน้าจอ PureMotion HD+ มีความละเอียดหน้าจอ 1280×768 หรือที่เรียกว่า WXGA และมีอัตราส่วน 15:9 ซึ่งมีความละเอียดมากกว่าหน้าจอปกติ ที่เรียกว่า 720p (720×1280) ถึงร้อยละ 7 โดยมากกว่าทั้ง iPhone 5 (640×1136) และ
Samsung Galaxy S3 (720×1280) นอกจากนี้จำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้วยังสูงกว่าอีกด้วย โดยหน้าจอเรตินามีจำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้วเพียง 326 ppi ขณะที่หน้าจอ HD+ ของ Nokia Lumia 920 มีจำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้วที่ 332 ppi
HD+ มอบความสมดุลย์ในการดูคอนเทนท์บนมือถือ และการใช้ user interface บนหน้าจอสัมผัส คุณจะได้รับคอนเทนท์ครบถ้วนสมบูรณ์บนหน้าจอเดียว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ ดูรูปภาพ และดูวิดีโอ อัตราส่วน 15:9 เป็นอัตราส่วนที่มอบประสบการณ์การใช้งานบนสมาร์ทโฟนที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วน 16:9 ด้วยอัตราส่วน 15:9 จะทำให้ส่วนบนสุดของหน้าจอสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงใช้นิ้วหัวแม่มือของมือที่ถือโทรศัพท์
คนทั่วไปมักจะคุ้นเคยกับหน้าจอ 16:9 ซึ่งพบได้ทั่วไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์ แต่โทรศัพท์มือถือมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างออกไป หากนำอัตราส่วน 16:9 มาใช้กับโทรศัพท์หน้าจอขนาดใหญ่ จะทำให้ระยะการทำงานของหน้าจอใหญ่เกินไป แต่ด้วยอัตราส่วน 15:9 คุณจะเข้าถึงหน้าจอได้ง่ายทั้งด้านบนและด้านล่างจอด้วยหัวแม่มือของมือที่ถือโทรศัพท์ เรียกได้ว่า อัตราส่วน 15:9 เป็นอัตราหน้าจอที่สอดคล้องกับการใช้งานโทรศัพท์ด้วยมือมากที่สุด
ดังนั้น ด้วยเทคโนโลยี PureMotion HD+ คุณจะสามารถใช้สมาร์ทโฟนได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกรูปแบบที่คุณต้องการ
ภาพเปรียบเทียบการแสดงผลหน้าจอ DVGA หน้าจอ 720p และหน้าจอ WXGA HD+
ที่มา – Nokia