สมาร์ทโฟนของ OPPO ได้ชื่อว่ามีดีไซน์ที่สวยงามไม่แพ้ใคร จึงไม่น่าแปลกใจที่ OPPO ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการออกแบบมาสู่แท็บเล็ตด้วยกับ OPPO Pad Air แท็บเล็ตที่มีดีไซน์สวยงามถูกใจบรรดาแฟชั่นนิสต้า มาพร้อมสโลแกน “ดีไซน์บาง โฉบเฉี่ยว สนุกได้ไม่จำกัด” โดดเด่นที่รูปทรงเพรียวบาง หน้าจอคมชัดขนาดใหญ่ และมีระบบเสียงคุณภาพสูง เปิดตัวพร้อมหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds “ดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียง” ซึ่งทีมงาน @Flashfly ขออนุญาตรีวิวทั้งคู่ไปพร้อมกัน
สเปก OPPO Pad Air
- จอแสดงผล 2K HD eye care ขนาด 10.36 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform
- ความจำ RAM 4GB จับคู่กับ ROM 64GB
- รองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 512GB
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1, USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1
- แบตเตอรี่ 7,100 mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 18W Fast Charge
- ขนาดตัวเครื่อง 245.08 x 154.84 x 6.94 มิลลิเมตร
- น้ำหนักประมาณ 440 กรัม
- สีเทา (Fog Gray)
แกะกล่อง OPPO Pad Air
OPPO Pad Air ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพตัวเครื่องให้เห็นอย่างชัดเจน และเน้นชื่อ Pad ที่มุมบน โดยระบุชื่อ OPPO Pad Air ไว้ที่ด้านบนกล่อง
เมื่อยกฝากล่องออกไป จะพบกับแท็บเล็ต OPPO Pad Air เป็นอย่างแรก โดยมีแผ่นพลาสติกห่อหุ้มไว้ ช่วยป้องกันริ้วรอยระหว่างขนส่ง
หลังจากหยิบแท็บเล็ตออกมา จะเจอกับซองใส่เอกสารวางอยู่ในช่องที่ทำไว้พอดี ภายในมีคู่มือ, ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ เข็มช่วยถาดช่องใส่การ์ด
ชั้นล่างเป็นที่เก็บสายชาร์จ และ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 18W Power Adapter
ดีไซน์บางโฉบเฉียว
OPPO นำจุดเด่นในการดีไซน์สมาร์ทโฟนมาใช้กับแท็บเล็ตได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ OPPO Pad Air เป็นแท็บเล็ตที่มีรูปลักษณ์สวยงามโดดเด่น โดยเฉพาะแผงหลังแบบ metal splicing ที่เกิดจากการผสานกันอย่างประณีตระหว่างแผ่นโลหะกับอนุภาคทราย ทำให้ด้านหลังมีเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน 2 สไตล์อย่างชัดเจน
ส่วนบนของตัวเครื่องที่เป็นแถบยาว มาพร้อมพื้นผิวแบบ Sunset Dune เกิดจากเทคนิคการออกแบบ Reno Glow ที่คุ้นเคยกันดีในสมาร์ทโฟนของ OPPO ผ่านการเคลือบผิว 5 ชั้น และยังเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่มีการนำเทคโนโลยี 3D finishing มาใช้จนทำให้แถบบนดูเหมือนเนินทรายที่มีแสงจากดวงอาทิตย์กำลังสาดส่องลงมาบนผิวทราย ทำให้เกิดมิติที่สวยงาม
พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝาหลัง ใช้กระบวนการ Sandblast ด้วยอนุภาคของทรายละเอียดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.15 มิลลิเมตร ทำให้รูปลักษณ์แบบโลหะมีความโดดเด่นขึ้นมา เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ชื่นชอบแฟชั่น สามารถจับคู่ OPPO Pad Air ให้เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว
นอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย OPPO Pad Air ยังมีรูปทรงที่เพรียวบาง จับถือได้อย่างถนัดด้วยน้ำหนักเบาเพียง 440 กรัม ผ่านการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ขั้นสูง ช่วยให้ผู้ใช้งานจับถือได้อย่างสะดวกสบาย และป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือได้อย่างดี โดยมีความบางเป็นพิเศษเพียง 6.94 มิลลิเมตร
ด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล 2K HD eye care ขนาด 10.36 นิ้ว ส่วนขอบจอบางเพียง 8 มิลลิเมตร เท่ากันรอบด้าน ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83.5% และยังเป็นจอภาพที่ช่วยถนอมดวงตา ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland
ขอบด้านบนมีปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่มลดระดับเสียง, ไมโครโฟน 2 ตัว วางแยกห่างกัน และมีถาดใส่การ์ด MicroSD รองรับความจุสูงสุด 512GB
ขอบล่างไม่มีองค์ประกอบใดๆ เผยให้เห็นดีไซน์ที่บางเฉียบขอบเรียบแบน
ปุ่มเพาเวอร์ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านข้าง พร้อมลำโพง 2 ตัว และโลโก้ Dolby Atmos
อีกข้างมีลำโพงอีก 2 ตัว และพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
หน้าจอคมชัดระดับ 2K พันล้านสี ถนอมดวงตา
จอแสดงผลเป็นอีกจุดเด่นของ OPPO Pad Air โดยมีความละเอียดระดับ 2K (2000 x 1200 พิกเซล) ขนาด 10.36 นิ้ว ให้สีสันคมชัดสมจริงด้วยความลึกสีมากกว่า 1 พันล้านสี ความสว่างสูงสุด 360 นิต ให้มุมมองกว้างชัดเจนด้วยเทคโนโลยี IPS และยังให้ประสบการณ์ในการรับชมที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากมีพื้นที่ขอบจอบาง 8 มิลลิเมตร เท่ากันรอบด้าน จนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 83.5%
ไม่เพียงแต่ให้สีสันที่สวยงามคมชัด จอแสดงผลของ OPPO Pad Air ยังช่วยดูแลดวงตาของผู้ใช้งานด้วย Smart backlight สามารถลดแสงได้ถึง 2,048 ระดับ พร้อมปรับค่าความสว่างได้ เพื่อให้แสงที่นุ่มนวลและมีความสว่างน้อยลงในเวลากลางคืน นอกจากนี้ ยังผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ในด้านมาตรฐานลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ช่วยลดอาการเมื่อยล้าหรือปวดตา เมื่อจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานาน
หน้าจอ OPPO Pad Air ยังรองรับปากกา OPPO Smart Life Intelligent Stylus ซึ่งรองรับแรงกด 4,096 ระดับ มีความหน่วงต่ำพิเศษอีกด้วย
ระบบเสียงคุณภาพสูง Dolby Atmos
แท็บเล็ต OPPO Pad Air สามารถตอบสนองความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยมทั้งภาพและเสียง นอกเหนือจากจอแสดงผล 2K ขนาดใหญ่ ที่ให้สีสันคมชัดสมจริง ด้านเสียงก็มาพร้อมลำโพง 4 ตัว Dolby Atmos ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านข้าง ฝั่งละ 2 ตัว เพื่อให้เสียงที่ขับออกมามีความสมดุล ช่วยขยายเสียงรอบทิศทางให้ดังก้องกังวาน โดยใช้ลำโพง Symmetrical 1W full-range ทั้ง 4 ตัว ประกอบกับ Sound Chamber ขนาดใหญ่ 0.8cc ให้เสียงสเตอริโอที่ชัดใส รองรับทุกย่านความถี่
OPPO Pad Air ยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมเทคโนโลยี Dolby Audio decoding ช่วยให้เสียง 3D เพิ่มความสมจริง เมื่อรับชมวิดีโอที่สนับสนุนเอฟเฟกต์เสียง Dolby หรือ Dolby Atmos
ประสิทธิภาพชิป Snapdragon 680
OPPO Pad Air ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 Mobile Platform ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz (Cortex-A73 2.4GHz Quad-core + Cortex-A53 1.9GHz Quad-core) พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 ความเร็วสูงสุด 1.1GHz แสดงกราฟิกได้อย่างราบรื่นและเสถียร และยังมี AI System Booster 2.1 ช่วยให้การทำงานแบบ Multitasking ลื่นไหล
ด้านความจำ มาพร้อม RAM 4GB แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM 64GB แบบ UFS 2.2 และยังสนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 512GB
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1
OPPO Pad Air ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS (ColorOS 12.1) ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสำหรับแท็บเล็ต จึงมี UI/UX ที่แตกต่างไปจาก ColorOS บนสมาร์ทโฟนเล็กน้อย เพื่อรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Super recording เมื่อบันทึกหน้าจอ สามารถใช้ฟังก์ชั่น screen-off note เพื่อทำเครื่องหมายได้ทันที เพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาสำคัญ สามารถแทรกรูปภาพด้วยฟังก์ชั่น image marking และยังสามารถแปลงข้อความเพื่อส่งออกเป็นไฟล์ Word เหมาะกับงานบันทึกการประชุมอย่างมาก
OPPO Pad Air มีโหมด Eye Comfort ที่จะเปลี่ยนการแสดงผลของหน้าจอให้เป็นขาวดำ เหมาะสำหรับการอ่านอีบุ๊ค อ่านข่าวสาร หรือ บทความ เหมือนใช้งานบนหน้าจอ E-ink screen ทำให้สบายตามากขึ้น
ColorOS ยังช่วยให้ OPPO Pad Air รองรับการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ สำหรับการใช้งาน 2 แอปพร้อมกัน ผ่านการควบคุมด้วยคำสั่งนิ้วที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว และยังมี Smart Sidebar สำหรับเปิดแอป Notes ได้อย่างสะดวก
ระบบปฏิบัติการ ColorOS for Pad สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นด้วยฟีเจอร์ Multi-Screen Connect เพื่อใช้ประโยชน์จากหน้าจอขนาดใหญ่ของแท็บเล็ต แก้ไขงานหรือพิมพ์ข้อความของสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังสามารถแชร์คลิปบอร์ดร่วมกันได้ระหว่างสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ต รวมถึงการถ่ายโอนไฟล์ข้ามอุปกรณ์ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงลากแล้ววาง
แบตเตอรี่ 7,100 mAh
ถึงแม้จะมีส่วนขอบที่บางเฉียบ 6.94 มิลลิเมตร แต่ OPPO Pad Air ก็มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,100 mAh สามารถใช้วิดีโอคอลลผ่าน Zoom ได้นานถึง 15 ชั่วโมง หรือรับชมวิดีโอระดับ HD 1080p ได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง จึงรองรับการใช้งานทั่วไปได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charge ผ่าน USB Power Delivery (9V/2A)
กล้องหน้า 5MP กล้องหลัง 8MP
OPPO Pad Air ติดตั้งกล้องมาให้ 2 ตัว แยกเป็นกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ชุดเลนส์ 4P ให้มุมมองภาพ 80 องศา มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Video, Photo, Portrait, Panorama, Time-lapse และ Text scanner (โหมด Panorama ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อถือตัวเครื่องในแนวนอน)
สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 3P ให้มุมมองภาพ 77 องศา รองรับโหมดถ่ายภาพแบบเดียวกับกล้องหลัง และยังสนับสนุนเทคโนโลยีจดจำใบหน้า จึงสามารถปลดล็อคแท็บเล็ตด้วยการสแกนใบหน้าได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds
หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก OPPO มาพร้อมสโลแกน Diving Into The Scene – ดำดิ่งสู่ห้วงมิติแห่งพลังเสียง ชูจุดเด่นที่ไดรเวอร์คุณภาพสูง รองรับระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC) ดีไซน์สวยงาม น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย และให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้ความบันเทิงได้ตลอดทั้งวัน
สเปก OPPO Enco Air2 Pro
- Titanized diaphragm driver ขนาด 12.4 มม.
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC)
- โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode)
- ไมโครโฟนคู่ AI อัจฉริยะตัดเสียงรบกวนขณะโทร
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, USB Type-C
- ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP54 (เฉพาะหูฟัง)
- แบตเตอรี่หูฟัง 43 mAh
- แบตเตอรี่เคสชาร์จ 440 mAh
- น้ำหนักหูฟังข้างละ 4.3 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ 66.84 x 51.45 x 25.04 มิลลิเมตร
- น้ำหนักคสชาร์จ 41.8 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ White และ Gray
แกะกล่อง OPPO Enco Air2 Pro
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ OPPO Enco Air2 Pro ยืนพื้นด้วยสีขาว ตัดด้วยขอบสีดำที่ด้านล่าง หน้ากล่องพิมพ์ชื่อ OPPO Enco ในแนวตั้ง พร้อมรูปภาพหูฟังและเคส ส่วนชื่อ Air2 Pro วางอยู่ที่มุมล่าง
หลังกล่องบอกจุดเด่นไว้ 6 อย่าง ได้แก่ ดีไซน์เคสแบบ Refractive Bubble Case, มีโหมดตัดเสียงรบกวนแบบ ANC, แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 28 ชั่วโมง, ใช้ไดรเวอร์เคลือบไทเทเนียม Titanized Diaphragm Driver ขนาด 12.4 มิลลิเมตร, มี AI ช่วยตัดเสียงรบกวนระหว่างการโทร และ รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 พร้อมการส่งผ่านสัญญาณเสียงด้วยการส่งสัญญำณ Bluetooth 5.2 แบบ Binaural ความหน่วงต่ำ
หลังจากยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับเคสชาร์จที่ถูกพันด้วยแผ่นพลาสติก ซึ่งทีมงาน @Flashfly ได้รับสีขาวมารีวิว (มีสีเทาเป็นอีกตัวเลือก) และแน่นอนว่าในเคสมีหูฟังมาให้แล้ว
ภายในกล่องยังพบคู่มือ, สายชาร์จ และ แถมจุกหูฟังซิลิโคนมาให้ 3 ขนาด (ติดตั้งขนาด M มาให้แล้วจากโรงงาน)
ดีไซน์โดดเด่น ดึงดูดทุกสายตา
OPPO Enco Air2 Pro มาพร้อมเคสที่สวยงามสะดุดตา ด้วยรูปทรงโค้งมน ขนาดกะทัดรัด โดดเด่นที่ฝาเคสแบบ Refractive Bubble Case ที่ใช้การออกแบบ 2 ชั้น ให้ชั้นบนมีความโปร่งแสงซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากฟองอากาศ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แกา สีขาว และ สีเทา
เมื่อเปิดฝาขึ้นมาก็จะพบกับความโค้งมนเหมือนรอยยิ้ม ซึ่ง OPPO เรียกว่า Smiling Curve Design ช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นหูฟังที่จัดเก็บไว้ได้มากถึง 77% จากรุ่นก่อนที่มองเห็นเพียง 55% จึงสามารถหยิบหูฟังออกจากตัวเคสได้ง่ายขึ้น
หูฟังทั้ง 2 ข้าง ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยมีโครงสร้างในแนวทแยงแบบพิเศษ รูปทรงเพรียวบาง ถึงแม้จะมีไดรเวอร์ไดอะแฟรมขนาดใหญ่ แต่ก็ยังมีเอียร์บัดขนาดเล็กกะทัดรัด เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบาย อีกทั้งยังมาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคน 3 ขนาด ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ เพื่อให้พอดีกับช่องหูของแต่ละบุคคลมากที่สุด
ส่วนบนของก้านหูฟัง มีเซ็นเซอร์รับการสัมผัส โดยการเซาะร่องไว้ เพื่อให้รับกับปลายนิ้ว เพิ่มความแม่นยำในการสัมผัส และสามารถควบคุมการใช้งานด้วยคำสั่งต่อไปนี้
- แตะครั้งเดียว เพื่อเล่นเพลงหรือหยุดเล่นชั่วคราว
- แตะ 2 ครั้ง เพื่อข้ามไปเล่นเพลงถัดไป รวมถึงใช้วางสายหรือปฏิเสธการรับสาย
- แตะ 3 ครั้ง เพื่อเรียกใช้ผู้ช่วยเสียง Breeno
- แตะค้าง 1 วินาที เพื่อสลับระหว่างโหมด ANC กับ Transparency
- แตะค้าง 4 วินาที เพิ่ม/ลดเสียง หรือสลับอุปกรณ์ที่เขื่อมต่อกับหูฟัง
เมื่อเชื่อมต่อ OPPO Enco Air2 Pro กับสมาร์ทโฟนของ OPPO ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.3 ขึ้นไป สามารถใช้หูฟังเป็นรีโมทสั่งถ่ายภาพในแอปกล้องได้ด้วย เพียงแตะ 2 ครั้ง และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าระบบควบคุมด้วยการสัมผัสได้จากแอปพลิเคชั่น HeyMelody
หูฟัง OPPO Enco Air2 Pro ทั้ง 2 ข้าง ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อน้ำและฝุ่นในระดับ IP54 จึงสามารถสวมใส่ได้อย่างไร้กังวลแม้อยู่ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปราย รวมถึงป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกายหรืออยู่กลางแจ้งที่แดดแรงจัด (อย่างไรก็ตาม ตัวเคสไม่ได้รับมาตรฐาน IP54 จึงต้องทำความสะอาดหูฟังให้แห้งก่อนเก็บไว้ในเคส)
คุณภาพเสียง
OPPO Enco Air2 Pro ได้รับการติดตั้งไดรเวอร์เคลือบไทเทเนียม Titanized diaphragm driver ขนาด 12.4 มิลลิเมตร เสียงเบสมีความทุ้มลึกทรงพลังมากขึ้น ไดนามิกสูง เสียงกลางสมดุล และเสียงแหลมที่ละเอียดอ่อน เรียกได้ว่าสามารถเก็บรายละเอียดเสียงได้ครบถ้วนทุกความถี่ สมจริงเหมือนยืนอยู่ในคอนเสิร์ต
อย่างไรก็ตาม OPPO Enco Air2 Pro เอาใจผู้ฟังที่ชอบเสียงเบสเป็นพิเศษ ด้วยการใช้ Chamber หลังขนาดใหญ่ ถูกใจคอเพลงแนวร็อค ป๊อป แดนนซ์ และยังสามารถปรับเสียงเบสได้อีกผ่านเอฟเฟกต์เสียง Enco Live ซึ่งเลือกได้ว่าต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นหรือ สมดุลเป็นธรรมชาติให้เสียงคมชัด
โหมดตัดเสียงรบกวน
นอกจากใช้ไดรเวอร์คุณภาพสูงแล้ว OPPO Enco Air2 Pro ยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ANC (Active noise cancellation) เปิดใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแตะหลังหูฟังค้างไว้ 1 วินาที หูฟังก็จะช่วยคอยตรวจจับเสียงความถี่ต่ำและความถี่สูง เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียงรถยนต์บนท้องถนน เสียงงานก่อสร้างอาคาร เพื่อให้ผู้สวมใส่รับฟังเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม
มีโหมด ANC แล้ว โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode) ก็มีมาให้เช่นกัน (แตะหลังหูฟังค้างไว้ 1 วินาที เพื่อสลับระหว่างโหมด ANC กับ Transparency) ในโหมดนี้จะทำงานตรงกันข้ามกับโหมด ANC ช่วยให้ผู้สวมใส่ได้ยืนเสียงรอบข้าง โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู จึงสามารถพูดคุยกับคนรอบข้างได้อย่างสะดวก หรือ ได้ยินเสียงประกาศขณะฟังเพลงระหว่างรอคิว
สำหรับการโทรคุยแบบแฮนด์ฟรี OPPO Enco Air2 Pro ก็ให้ผู้สวมใส่สื่อสารได้อย่างชัดเจน ผ่านไมโครโฟนคู่ ทำงานร่วมกับ AI ช่วยตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา
ใช้งานได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมง
หูฟัง OPPO Enco Air2 Pro สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง และสามารถฟังเพลงได้นานถึง 28 ชั่วโมงเมื่อใช้กับเคสชาร์จ และปิดโหมด ANC แต่ถ้าเปิดโหมด ANC จะให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 5 ชั่วโมง (หูฟัง) หรือ 20 ชั่วโมง (เมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ) นอกจากนี้ ยังรองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จหูฟังเพียง 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นาน 2 ชั่วโมง
สรุปราคาและการจำหน่าย
OPPO Pad Air เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมดีไซน์ Sunset dune มีสวยงามพรีเมียมและน้ำหนักเบา ให้ความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทั้งภาพและเสียง ผ่านจอแสดงผล 2K ให้สีสันถึง 1 พันล้านสี ลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน และรองรับการทำงานร่วมกับปากกาสไตลัส เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นแท็บเล็ตไว้ดูหนัง ฟังเพลง รวมถึงใช้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้
สำหรับ OPPO Enco Air2 Pro มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์เคส ส่วนหูฟังก็ใช้ไดรเวอร์เคลือบไทเทเนียม Titanized diaphragm driver ขนาดใหญ่ ให้เสียงเบสหนักแน่น ระบบตัดเสียงรบกวน Active noise cancellation (ANC) ให้ผู้สวมใส่หลุดเข้าไปในโลกของเสียงเพลง รองรับการฟังเพลงที่ยาวนานถึง 28 ชั่วโมง และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน สลับการจับคู่ได้ง่ายๆ
OPPO Pad Air และ OPPO Enco Air2 Pro นั้นมีราคาวางจำหน่ายที่ OPPO Pad Air ราคา 9,999 บาท และ OPPO Enco Air2 Pro True Wireless Noise Cancelling Earbuds ราคา 2,499 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นไปที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
- สามารถติดตามรายละเอียด OPPO Pad Air เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3z5FlB9
- สามารถติดตามรายละเอียด OPPO Enco Air2 Pro เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3Qa7FcL
#OPPOPadAir #ดีไซน์บางโฉบเฉี่ยวสนุกได้ไม่จำกัด #OPPOEncoAir2Pro #DivingIntoTheScene