ก่อนที่ MacBook Air รุ่นชิป M2 จะได้รับการเปิดตัวทางการ เคยถูกลือว่า จะมีให้เลือกหลากหลายสีสัน แบบเดียวกับ iMac รุ่น 24 นิ้ว แต่ท้ายที่สุด ยังคงมีสีสันที่เรียบง่ายไม่ฉูดฉาดคล้ายกับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป M1 โดยมีสี Midnight ที่เข้มกว่าสี Sspace Gray เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม
Evans Hankey รองประธานฝ่ายออกแบบอุตสาหกรรมของ Apple ให้สัมภาษณ์ว่า สี Midnight ของ MacBook Air รุ่นชิป M2 ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Basalt หรือ หินภูเขาไฟ ที่เกิดจากการเย็นตัวอย่างรวดเร็วของลาวา และถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นหินภูเขาไฟ? Evans Hankey ตอบว่า เพราะคุณพ่อของเธอเป็นนักธรณีวิทยา
Evans Hankey เข้ามารับงานต่อจาก Jony Ive ที่ลาออกไปในช่วงปลายปี 2019 นั่นทำให้เธอมีส่วนร่วมอย่างมากในผลิตภัณฑ์ของ Apple ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการออกแบบ MacBook Air รุ่นชิป M2 ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด และถือเป็นความท้าทายของ Evans Hankey
Evans Hankey เปิดเผยว่า MacBook Air รุ่นชิป M2 ได้รับการออกแบบควบคู่กับ MacBook Pro ไม่ได้แยกโครงการออกไป นั่นทำให้ MacBook Air และ MacBook Pro ใช้ภาษาการออกแบบที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก ถึงแม้ MacBook Air รุ่นล่าสุด จะไม่ได้ใช้จอแสดงผล mini-LED หรือ เทคโนโลยี ProMotion แต่ก็มาพร้อมรอยบากสำหรับติดกล้อง 1080p และยังเพิ่มที่ชาร์จ MagSafe
รองประธานฝ่ายออกแบบอุตสาหกรรมของ Apple คนปัจจุบัน ยังพูดถึง MacBook Air รุ่นแรก โดยกล่าวว่า MacBook Air เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ตื่นเต้นอยู่เสมอ “MacBook Air เครื่องแรกเริ่มต้นในสตูดิโอ เมื่อเราประกอบเคส จอแสดงผล เข้าด้วยกัน จากสิ่งที่ฉันเดาว่าน่าจะเป็น PowerBook ในขณะนั้น”
Kate Bergeron รองประธานฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ ที่ให้สัมภาษณ์ร่วมกัน กล่าวว่า MacBook Air รุ่นแรก กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกในแง่ของดีไซน์ แต่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์สำหรับทุกคน เพราะถูกสร้างมาเพื่อคนที่ชื่นชอบการพกพาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม จากคอมพิวเตอร์เน้นการพกพาเป็นหลัก MacBook Air ในปัจจุบัน ได้กลายมาเป็นคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมคุณสมบัติที่คนส่วนใหญ่ต้องการ ด้วยการออกแบบที่สวยงาม ชิปอันทรงพลัง และ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
ที่มา – 9to5Mac