แบรนด์สมาร์ทโฟน HONOR พร้อมกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากแยกบริษัทเป็นอิสระ โดยเริ่มต้นยุคใหม่ด้วยการส่งสมาร์ทโฟน X series เข้ามานำร่องก่อน ซึ่งทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิวพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ HONOR X8 และ HONOR X7 ทั้งคู่มาพร้อมชิประดับ 6 นาโนเมตร ของ Qualcomm ทำงานบนพื้นที่ Android 11 ที่สนับสนุน GMS (Google Mobile Services) อย่างเต็มรูปแบบ
สเปก HONOR X7
- จอแสดงผล HD+ ขนาด 6.74 นิ้ว
- กล้องหลัง 48MP AI Quad Camera
- กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680
- ความจำ RAM 4GB + ROM 128GB
- ระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 167.59 x 77.19 x 8.62 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
สเปก HONOR X8
- จอแสดงผล Full HD+ ขนาด 6.7 นิ้ว
- กล้องหลัง 64MP AI Quad Camera
- กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680
- ความจำ RAM 6GB + ROM 128GB
- ระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 163.4 x 74.7 x 7.45 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 177 กรัม
แกะกล่อง
HONOR X7 และ HONOR X8 ถูกจัดส่งมาในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพสมาร์ทโฟนไว้อย่างชัดเจน เผยให้เห็นดีไซน์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้ใต้รูปภาพ และเมื่อยกฝากล่องขึ้นมา ก็จะพบกับสมาร์ทโฟน HONOR X7 และ HONOR X8 วางอยู่ชั้นบนสุด โดยทั้งคู่ถูกเก็บไว้ในซองเพื่อป้องกันริ้วรอยระหว่างการจัดส่ง
นอกจากสมาร์ทโฟน ภายในกล่อง HONOR X7 และ X8 ยังแถมเคสใส และติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว เรียกได้ว่าเปิดกล่องออกมา ใส่ซิมการ์ด ก็พร้อมใช้งานทันที แน่นอนว่าเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด ก็มีอยู่แล้วในกล่อง รวมถึงคู่มือ สายชาร์จ และ อะแดปเตอร์แปลงไฟ 22.5W HONOR SuperCharge
ดีไซน์พรีเมียม
HONOR X8 ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมี่ยม ผลิตจากโลหะผสมอลูมิเนียม น้ำหนักเบา 177 กรัม มาพร้อมจอแสดงผล HONOR FullView Display ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีขอบจอบางเฉียบ 1.1 มิลลิเมตร และเจาะหลุมบนหน้าจอเพื่อวางกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ขณะที่จอแสดงผลของ HONOR X7 ก็เป็นแบบ HONOR FullView Display เช่นกัน แต่มีขนาด 6.74 นิ้ว และติดกล้องหน้าไว้ในรอยบากแบบหยดน้ำ
ด้านหลังของ HONOR X8 มีพื้นผิวเรียบแบน และใช้เทคนิคเคลือบผิวที่ทำให้เกิดเอฟเฟกต์สะท้อนแสงอย่างสวยงาม มาพร้อมระบบกล้องหลัง 4 ตัว จัดวางในรูปแบบตาราง 2 x 2 กล้อง Ultra Wide วางอยู่มุมบนซ้าย, กล้อง Macro วางอยู่มุมบนขวา, กล้องหลัก วางอยู่มุมล่างซ้าย, Depth วางอยู่มุมล่างขวา ส่วนแฟลช LED อยู่ตรงกลาง
HONOR X7 ออกแบบด้านหลังให้มีขอบโค้งมนรับกับฝ่ามือ มาพร้อมระบบกล้องหลัง 4 ตัว ติดตั้งไว้ในกรอบวงกลม 2 วง โดยวางกล้องหลักแยกไว้ในกรอบบน ขณะที่กล้อง Ultra Wide, Depth, Macro วางรวมกับแฟลช LED ที่กรอบล่าง
ขอบด้านข้างของ HONOR X8 มีความบางเพียง 7.45 มิลลิเมตร ดีไซน์เรียบแบน มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มเพาเวอร์ ที่รวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย ส่วนขอบ HONOR X7 มีความโค้งมน และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้กับปุ่มเพาเวอร์เช่นเดียวกัน
มุมมองด้านบนของ HONOR X7 จะพบไมโครโฟนตัวที่ 2 และถาดใส่ซิมการ์ด ขณะที่ HONOR X8 มีไมโครโฟนตัวที่ 2 ที่ด้านบนเช่นกัน แต่ถาดใส่ซิมการ์ดอยู่ด้านขวาของหน้าจอ
ด้านล่างของทั้งคู่ เป็นพื้นที่ของลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟน และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
จอแสดงผล HONOR FullView Display
HONOR X8 มีพื้นที่ขอบจอบางเฉียบ 1.1 มิลลิเมตร ทำให้จอแสดงผลมีความกว้างเกือบชิดขอบตัวเครื่อง และมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.6% ซึ่งทางผู้ผลิตเรียกดีไซน์จอแสดงผลแบบนี้ว่า HONOR FullView Display โดยใช้จอ LCD ที่มีสีสัน 16.7 ล้านสี ความละเอียด 2388 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ให้อัตราส่วนภาพ 19.9:9
จอแสดงผลของ HONOR X7 ใช้ดีไซน์ HONOR FullView Display เช่นกัน โดยใช้จอ LCD 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล ขนาด 6.74 นิ้ว ให้อัตราส่วนภาพ 20:9
นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่น ยังรองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 90Hz และผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ในมาตรฐานการป้องกันแสงสีฟ้าให้มีระดับต่ำ เพื่อถนอมดวงตาผู้ใช้งาน
สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
HONOR X7 และ X8 ใช้วิธียืนยันตัวตนทาง Biometrics ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้กับปุ่มเพาเวอร์ด้านข้าง (Side-mounted Fingerprint Sensor) ทำให้สามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานเมื่อต้องสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ ยังใช้วิธีสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้เช่นกัน โดยอาศัยความสามารถในการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ทำงานร่วมกับกล้องหน้าความละเอียดสูง เพื่อระบุใบหน้าเจ้าของสมาร์ทโฟนได้อย่างแม่นยำ
กล้องหลัง 4 ตัว AI Quad Camera
สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น วางระบบกล้องหลัง 4 ตัว ที่ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง, กล้อง Ultra Wide, Depth และ Macro จึงรองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการมุมมองกว้างพิเศษ, การถ่ายภาพบุคคล หน้าชัดหลังเบลอ หรือ การถ่ายภาพใกล้วัตถุ เพื่อเก็บรายละเอียดขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม HONOR X8 และ X7 มีดีไซน์กล้องหลังแตกต่างกัน และกล้องหลักของรุ่น X8 มีความละเอียดสูงกว่า
กล้องหลัง HONOR X7
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหลัง HONOR X8
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
โดยรวมแล้วสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น มีสเปกกล้องหลังที่คล้ายกันมาก แตกต่างที่กล้องหลักเท่านั้น ขณะที่โหมดถ่ายภาพให้ประสบการณ์แบบเดียวกัน เพราะทั้งคู่ต่างก็ใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นเดียวกัน
เมื่อเปิดเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมด Aperture, Night, Portrait, Photo, Video ส่วนโหมดอื่นๆ รวมไว้ใน More ได้แก่ Pro, Panorama, HDR, Time-lapse, Stickers, Super Macro, Dual-View, High-Res และ Story
โหมด Photo สามารถเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide ได้จากการซูมในระดับแรก และขยายได้สูงสุด 8 เท่า (Digital Zoom) มีฟิลเตอร์ให้เลือกมากมาย เข้าถึงได้จากแถบเครื่องมือด้านบน เช่น Sentimental, Impact, Valencia, Blue, Halo, Nostalgia, Dawn เป็นต้น
โหมด Portrait มาพร้อมฟีเจอร์ Beauty ปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นได้ 10 ระดับ และมีฟีเจอร์ Bokeh สำหรับละลายฉากหลัง ช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาโดดเด่นยิ่งขึ้น
โหมด Aperture สามารถละลายฉากหลังได้อย่างมืออาชีพ ด้วยการปรับค่า F ได้ตั้งแต่ F0.95 ไปจนถึง F16
โหมด Video รองรับฟีเจอร์ Beauty เหมือนกับโหมด Portrait สามารถเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide ได้เช่นกัน และขยายได้สูงสุด 8 เท่า แบบเดียวกับโหมด Photo โดยรองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
กล้องเซลฟี่
HONOR X8 ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 ขณะที่กล้องหน้าของ HONOR X7 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และติดตั้งไว้ในรอยบากแบบหยดน้ำ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ให้ประสบการณ์การใช้งานเหมือนกัน
โหมด Photo ของกล้องหน้า มีฟิลเตอร์ให้เลือกแบบเดียวกับกล้องหลัง และโหมด Portrait ก็ทำงานกับกล้องหน้าด้วย โดยมีฟีเจอร์ Beauty และ Bokeh ที่ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามโดดเด่น
โหมด Video ก็มีฟีเจอร์ Beauty เช่นเดียวกัน รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และด้วยโหมด Dual-View ก็ช่วยให้สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น เปิดใช้งานกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน โดยเลือกแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 หน้าต่าง หรือ เลือกมุมมองแบบซ้อนหน้าต่างได้
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิป Snapdragon 680
ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนระหว่าง HONOR X8 กับ X7 ทั้งคู่ก็ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน Qualcomm Snapdragon 680 ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz (Cortex-A73 2.4GHz Quad-core + Cortex-A53 1.9GHz Quad-core) มาพร้อมจีพียู Adreno 610 ทำงานร่วมกับจอแสดงผลที่ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ช่วยให้ HONOR X8 หรือ X7 ควบคุมเกมได้อย่างลื่นไหลและแม่นยำ
ด้านความจำก็ให้มาไม่น้อย ทั้ง 2 รุ่น มีความจุในตัวสูงถึง 128GB (เหลือใช้งานจริงราว 111GB) ขณะที่ความจำ RAM ของ HONOR X8 ให้มา 6GB และ HONOR X7 ได้รับ RAM 4GB นอกจากนี้ทั้งคู่ ยังสนับสนุน HONOR RAM Turbo ที่สามารถขยายความจำ RAM ได้อีก 2GB โดยยืมพื้นที่มาจาก ROM ช่วยให้การทำงานแบบ Multi-tasking ราบรื่นยิ่งขึ้น
แบตใหญ่ ชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge
HONOR X7 มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถเล่นวิดีโอออนไลน์ได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง หรือ โทรคุยได้นานต่อเนื่อง 49 ชั่วโมง และด้วยฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง ทำให้สมาร์ทโฟนใช้พลังงานเพียง 20% หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมง ดังนั้น HONOR X7 จึงรองรับการใช้งานได้ยาวนานข้ามวันแบบสบายๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็เพียงพอต่อการเล่นเกมนาน 2 ชั่วโมง หรือ ชาร์จเพียง 30 นาที ก็รองรับการชมซีรีส์จบซีซัน หรือ 10 ตอน
สำหรับ HONOR X8 เน้นการออกแบบที่บางเบา จึงมีความจุแบตเตอรี่ 4000mAh แต่ก็ให้อายุการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ที่สำคัญ สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ก็เพียงพอต่อการรับชมวิดีโอนาน 3 ชั่วโมง นอกจากนี้ ท้งคู่ยังแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก
สรุปราคาและการจำหน่าย
HONOR X7 และ X8 มีจุดเด่นที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz ใช้ชิประดับ 6 นาโนเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล รองรับ HONOR RAM Turbo ขยายความจำ RAM ได้อีก 2GB ชาร์จเร็วทันใจด้วยเทคโนโลยี 22.5W HONOR SuperCharge ทำงานบนพื้นฐาน Android 11 พร้อมสนับสนุน Google Mobile Services โดยรุ่น X7 มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความคุ้มค่า ขณะที่รุ่น X8 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นถ่ายภาพ และชื่นชอบงานออกแบบที่สวยงามพรีเมียม
- HONOR X7 ราคา 6,299 บาท
- HONOR X8 ราคา 7,999 บาท
- HONOR X9 ราคา 9,299 บาท
HONOR X series ทั้ง 3 รุ่น จะเปิดให้จับจองในระหว่างวันที่ 12 – 26 กรกฎาคมนี้ พิเศษ!! สำหรับ HONOR X9 รับฟรี!! สายเชื่อมต่อ S-Gear มูลค่า 899 บาท และ Privilege Card ประกันหน้าจอแตก 90 วัน รับการซ่อมบำรุงนาน 2 ปี มูลค่า 4,600 บาท เมื่อสั่งซื้อในช่วงเวลา 12 – 26 กรกฎาคม 2565 สั่งจองได้แล้วที่ HONOR Official Store บน Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงร้านค้าที่ร่วมรายการบนช่องทางออนไลน์
- Lazada: www.lazada.co.th/shop/honorofficialstore/
- Shopee: www.shopee.co.th/honor_official_store
- JD Central : https://m.jd.co.th/shop/1000000601.html