สายรัดข้อมือดิจิทัลของ Xiaomi เป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีการอัปเกรดรุ่นใหม่ในทุกๆ ปี ซึ่งในปีนี้เป็นช่วงเวลาของ Smart Band 7 โดยเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และใช้เวลาไม่นานในการสร้างยอดขายทะลุ 1 ล้านเครื่อง ก่อนจะเปิดตัวในระดับโลกในเดือนต่อมา และล่าสุดพร้อมทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ซึ่งทีมงาน @Flashfly ก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้ชม
สเปก
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ PPG
- เซ็นเซอร์ PPG heart rate sensor, Accelerometer (3 แกน), Gyroscope (3 แกน)
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
- รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 6.0 หรือใหม่กว่า และ iOS 10 หรือใหม่กว่า
- ป้องกันน้ำในระดับ 5ATM
- แบตเตอรี่ 180mAh
- ขนาด 46.5 x 20.7 x 12.25 มิลลิเมตร (ไม่รวมสาย)
- น้ำหนัก 13.5 กรัม (ไม่รวมสาย)
แกะกล่อง
Xiaomi Smart Band 7 ถูกเก็บไว้ในกล่องสีดำ ที่พิมพ์รูปภาพผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจนบนหน้ากล่อง พร้อมระบุชื่อ Xiaomi Smart Band 7 ไว้ที่มุมบนซ้าย อีกมุมเป็นโลโก้ Xiaomi หลังกล้องระบุสเปกเบื้องต้น และข้างกล่องบอกจุดเด่นในการติดตามสุขภาพและการออกกำลังกาย
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Xiaomi Smart Band 7 สามารถแกะออกได้ง่ายๆ จากด้านบน จากนั้นจะพบถาดกระดาษสีขาวที่มีลิ้น ช่วยให้ดึงถาดออกจากกล่อง
Xiaomi Smart Band 7 ได้รับการติดสายรัดข้อมือมาให้แล้ว และถูกเก็บไว้ในซองอย่างดี ใกล้กันมีช่องเล็กๆ สำหรับเก็บสายชาร์จแบบแม่เหล็ก และอีกช่องที่ใหญ่กว่าสำหรับเก็บคู่มือเล่มหนาให้รายละเอียดครบถ้วนแน่นอน
ดีไซน์
ดีไซน์โดยรวมของ Xiaomi Smart Band 7 ยังคงดูคุ้นตาเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็คือ Xiaomi Smart Band 7 ถูกขยายจอแสดงผลให้ใหญ่ขึ้น จากขนาด 1.56 นิ้ว ในรุ่นก่อน มาเป็น 1.62 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่หน้าจอใหญ่ขึ้นถึง 25% และยังรองรับโหมด AOD (Always-on Display) สามารถดูเวลาได้ทันที โดยไม่ต้องปลุกหน้าจอ
ด้านหลังมีเซ็นเซอร์สำหรับติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และ วัดระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด รวมถึงมีหมุดแม่เหล็ก 2 จุด สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ที่แถมมาให้ในกล่อง ซึ่งแม่เหล็กของที่ชาร์จมีพลังในการยึดเกาะที่แข็งแรงดีมาก
และยังคงได้รับมาตรฐานกันน้ำในระดับ 5ATM หรือ แรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่ในขณะที่ว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น หรือ ระหว่างอาบน้ำอย่างไร้กังวล
สายรัดข้อมือของ Xiaomi Smart Band 7 ผลิตจากวัสดุ TPU ซึ่งเป็นยางที่มีความยืดหยุ่นสูง มีขนาด 160 – 224 มิลลิเมตร รองรับข้อมือตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ และยังใช้หมุดโลหะเป็นตัวล็อคสายเหมือนสายของรุ่นก่อนๆ แต่มั่นใจได้ว่าจะมีผู้ผลิตอุปกรณ์วางจำหน่ายสายแบบอื่นๆ มาให้เลือกซื้ออย่างแน่นอน เนื่องจาก Smart Band ของ Xiaomi ถือเป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย
ถ้าหากใครเคยใช้ Xiaomi Smart Band 6 มาแล้ว และมีสายเดิมเก็บไว้ สามารถนำมาใช้กับ Xiaomi Smart Band 7 ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นสายที่มีความยืดหยุ่น
จอ AMOLED ขนาดใหญ่กว่าเดิม
Xiaomi Smart Band 7 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 192 x 490 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 326 พิกเซลต่อนิ้ว ความสว่างสูงสุด 500 นิต ทำให้จอแสดงผลของ Xiaomi Smart Band 7 มีความคมชัด และมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่ออยู่ในภายนอกอาคาร ในส่วนของดีไซน์อาจจะยังดูเหมือนเดิม แต่ Xiaomi Smart Band 7 มีการขยายขนาดจอแสดงผลให้ใหญ่ขึ้นเป็น 1.62 นิ้ว ใหญ่กว่ารุ่นก่อนที่มีขนาด 1.56 นิ้ว ทำให้มีพื้นที่มองเห็นกว้างถึง 25% และยังใช้กระจกนิรภัยพร้อมเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ
การควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ทำได้ง่ายๆ ผ่านจอแสดงผลระบบสัมผัส ที่มีความแม่นยำและราบรื่น จากหน้าจอหลักสามารถปัดไปด้านข้างเพื่อดูข้อมูลสภาพต่างๆ รวมถึงรายงานสภาพอากาศ ถ้าปัดหน้าจอลงมาจะพบกับการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ (ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน) รวมถึงข้อความ ซึ่งรองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ถ้าปัดนิ้วขึ้น ก็จะพบกับฟีเจอร์การใช้งานทั้งหมด แสดงผลด้วยไอคอนขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน และถ้าต้องการย้อนกลับไปหน้าจอที่แล้ว ให้ปัดนิ้วไปทางขวามือ
จอแสดงผลของ Xiaomi Smart Band 7 ยังรองรับโหมด AOD (Always-on Display) ที่จะแสดงนาฬิกาบอกเวลาขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ทันที ไม่ต้องปลุกหน้าจอ จึงใช้งานแทนนาฬิกาข้อมือได้สบาย (สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของโหมด AOD ได้หลากหลาย) อีกทั้งยังมาพร้อมหน้าปัดที่ปรับเปลี่ยนได้มากกว่า 100 แบบ
Xiaomi Smart Band 7 ยังได้รับการปรับปรุง GPU ช่วยให้การแสดงผลของแอนิเมชั่นต่างๆ ราบรื่นขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง UI และ UX ยังได้รับการออกแบบใหม่หมด มีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น และใช้งานง่ายขึ้น
วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็นฟีเจอร์พื้นฐานอยู่แล้วสำหรับ Xiaomi Smart Band 7 ซึ่งสามารถทำการตรวจวัดได้ง่ายๆ เพียงสวมอุปกรณ์ให้พอดีกับข้อมือไม่หลวมเกินไป จากนั้นวางแขนบนโต๊ะ แล้วปัดนิ้วขึ้นจากหน้าจอหลัก แตะเข้าไปที่ไอคอนรูปหัวใจสีขาวบนวงกลมสีแดง จากนั้นแตะปุ่มเริ่ม (ไอคอนเล็กๆ ด้านล่าง) ระหว่างการตรวจวัดต้องวางแขนให้นิ่งๆ และใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา
วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
ต่อเนื่องจากการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เมื่อเข้ามาในฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถปัดนิ้วไปทางซ้าย เพื่อสลับไปวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้ทันที และใช้วิธีการวัดแบบเดียวกับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ แต่ก่อนเริ่มจะมีคำแนะนำให้รัดสายแน่นๆ และวางแขนให้นิ่งๆ ระหว่างการตรวจวัด
กรณีทั้ผู้สวมใส่ต้องการวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย ไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจอีกครั้ง เนื่องจากการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจไปพร้อมกันด้วย จึงทำให้การวัดค่า SpO2 ใช้เวลานานกว่าการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ แต่จะมีแถบสีแดงแสดงความคืบหน้าของการวัด ทั้งนี้ ฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด สามารถตั้งค่าให้ตรวจวัดโดยอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง และค่อยกลับมาอ่านค่าในภายหลังได้
ติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 110 รูปแบบ
ในส่วนของฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกาย Xiaomi Smart Band 7 สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 110 รูปแบบ ครอบคลุมทุกชนิตกีฬาที่ได้รับความนิยมของคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งกลางแจ้ง, วิ่งบนลู่วิ่ง, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง, ปั่นจักรยานด้วยเครื่องออกกำลังกาย, เดิน, เดินบนเครื่องออกกำลังกาย, กระโดดเชือก, แบดมินตัน, โยคะ รวมไปถึงว่ายน้ำในสระ โดย Xiaomi Smart Band 7 ได้รับการออกแบบมาให้กันน้ำในระดับ 5ATM หรือ แรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่เพื่อติดตามการว่ายน้ำได้อย่างไร้กังวล
วิเคราะห์การออกกำลังกายแบบมืออาชีพด้วย VO2 Max
สำหรับผู้ที่รักการออกกำลังอย่างจริงจัง Xiaomi Smart Band 7 ก็สามารถวิเคราะห์การออกกำลังกายแบบมืออาชีพด้วย VO2 Max หรือ วัดค่าอัตราการใช้ออกซิเจนสุงสุดระหว่างการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการคำนวณอัตราสัมพัทธ์ในหน่วยมิลลิลิตรของออกซิเจนต่อกิโลกรัมมวลกายต่อนาที
Xiaomi Smart Band 7 ยังมาพร้อมกับ 3 ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ได้แก่ รูปแบบการออกกำลังกาย (Training load), ระยะเวลาพัก (Recovery duration) และผลการฝึก (Training effect) ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถประเมินและปรับตารางการออกกำลังกายเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างง่ายดาย
ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าไปดูบันทึกสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชั่น Mi Fitness บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่กับ Xiaomi Smart Band 7
ติดตามคุณภาพการนอนหลับ
เจ้าของ Xiaomi Smart Band 7 สามารถสวมใส่ก่อนเข้านอนเพื่อตรวจจับคุณภาพของการนอนหลับได้อย่างละเอียด นอกจากการแสดงระบะเวลานอนหลับโดยรวม ยังสามารถเลื่อนดูช้อมูลที่ซับซ้อนได้อีก ทั้งระยะเวลาการหลับลึก, หลับตื้น และ วงจรในการหลับลึก (REM) อีกทั้งยังสามารถตรวจจับการหายใจขณะนอนหลับได้อีกด้วย
อายุการใช้งานนานสูงสุด 14 วัน
Xiaomi Smart Band 7 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 180mAh ที่ให้อายุการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน หรือประมาณ 2 สัปดาห์ สำหรับการใช้งานทั่วไป ส่วนการสวมใส่เพื่อติดตามสุขภาพและการออกกำลังการในแต่ละวัน ก็ให้พังงานยาวนานเพียงพอเกือบทั้งสัปดาห์ ซึ่งไม่เพียงแต่รองรับการใช้งานตลอดทั้งวัน แต่ยังใช้สวมใส่ตลอดทั้งคืน เพื่อติดตามคุณภาพการนอนหลับ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระดับแบตเตอรี่คงเหลือ ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของอุปกรณ์ประเภทสายรัดข้อมือดิจิทัลที่ทำได้ดีกว่าสมาร์ทวอทช์
สรุปราคาและการจำหน่าย
Xiaomi Smart Band 7 ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย อาทิ ติดตามสุขภาพของผู้หญิง, วัดความเครียด, ฝึกการหายใจ, ไฟฉาย, นาฬิกาปลุก, จับเวลา, นับถอยหลัง, ควบคุมเครื่องเล่นเพลง (เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน), ค้นหาตำแหน่งสมาร์ทโฟน และใช้เป็นชัตเตอร์ระยะไกล สั่งถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนได้ นั่นหมายความว่า Xiaomi Smart Band 7 ถือเป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพที่ให้ความคุ้มค่าอย่างมาก เมื่อเทียบกับราคา
เหมาะสำหรับผู้รักการออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพ ที่กำลังมองหาสายรัดข้อมือดิจิทัลเครื่องใหม่ ที่สามารถตวรจวัดสุขภาพได้อย่างแม่นยำ รองรับโหมดออกกำลังกายที่ครอบคลุมทุกชนิดกีฬา และไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่เกือบทุกวันแบบสมาร์ทวอทช์
Xiaomi Smart Band 7 สีดำ จะวางจำหน่ายในราคา 1,390 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 7-31 กรกฎาคม 2565 สามารถหาซื้อได้ในราคาเพียง 1,290 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ