Sony เปิดตัวหูฟังไร้สาย Truly Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด LinkBuds S ซึ่งมีชื่อคล้ายกับหูฟังมีรู LinkBuds ที่ทีมงาน @Flashfly เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ แต่มีดีไซน์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ที่จะทำให้ผู้สวมใส่สามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงคุณภาพสูง โดยที่ไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ส่วนจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง เลื่อนลงมาชมรีวิวกันได้เลย
สเปก Sony LinkBuds S
- ขนาดไดรเวอร์ 5 มิลลิเมตร
- ชิปประมวลผล Integrated Processor V1
- Adaptive Sound Control ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสถานการณ์รอบตัวโดยอัตโนมัติ
- Speak-to-Chat หยุดเล่นเพลงทันที เมื่อเริ่มสนทนากับคนรอบข้าง
- Precise Voice Pickup ให้เสียงโทรชัดเจน
- DSEE Extreme เพิ่มสเกลไฟล์เพลงดิจิตอลที่บีบอัดแบบเรียลไทม์
- 360 Reality Audio เทคโนโลยีจำลองเสียงให้ออกมาสมจริง
- Google Fast Pair จับคู่กับอุปกรณ์ Android ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
- ป้องกันน้ำในระดับ IPX4
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ นานสูงสุด 20 ชั่วโมง
- น้ำหนักหูฟังข้างละ 4.8 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ 42.8 x 60 x 27.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนักเคสชาร์จประมาณ 35 กรัม
- มี 3 สี ให้เลือก ได้แก่ สีดำ สีขาว และ สีครีม
แกะกล่อง Sony LinkBuds S
Sony จัดส่งหูฟัง LinkBuds S มาในกล่องสีขาว พันด้วยแผ่นกระดาษที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างใน พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้เหนือรูปภาพหูฟัง เมื่อแกะแผ่นกระดาษออกไป ก็จะพบกับกล่องบรรจุภัณฑ์จริงๆ ที่สามารถเปิดฝากล่องออกมาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น ที่ประกอบไปด้วยขั้นตอนสแกน QR Code เพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect, สวมหูฟัง และ เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ใต้คำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น เป็นช่องเก็บเคสชาร์จที่ถูกพันด้วยแผ่นกระดาษช่วยกันริ้วรอยระหว่างขนส่ง และมีลิ้นช่วยให้ดึงเคสชาร์จออกจากกล่องได้สะดวก ส่วนหูฟังถูกบรรจุไว้ในเคสชาร์จเร็ยบร้อยแล้ว
ชั้นล่างมีการกล่องแบนๆ สำหรับเก็บเอกสารต่างๆ อย่างคู่มือ บัตรรับประกัน และ โค้ดสำหรับทดลองใช้งาน 360 Reality Audio
นอกจากจุกหูฟังที่ติดตั้งมาให้แล้วจากโรงงาน ภายในกล่องยังแถมจุกหูฟังมาให้อีก 3 คู่ ที่มีขนาดแตกต่างกัน เพื่อให้เลือกขนาดที่พอดีกับหูแต่ละคนมากที่สุด
และสุดท้ายเป็นสาย USB-C to USB-A สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กล่องบรรจุภัณฑ์ของ LinkBuds S จึงไม่มีวัสดุที่เป็นพลาสติก ขณะที่วัสดุหูฟัง เลือกใช้วัสดุพลาสติกที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์
ดีไซน์
การออกแบบ LinkBuds S ของ Sony มีความแตกต่างจาก LinkBuds อย่างชัดเจน ตั้งแต่ตัวเคสชาร์จที่ LinkBuds ถูกออกแบบมาให้เปิดฝาในแนวนอน แต่ในรุ่นใหม่ LinkBuds S จะเปิดฝาในแนวตั้ง โดยผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว และ สีครีม
เคสชาร์จของ LinkBuds S ทำมาจากพลาสติกที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเป็นของเก่าแต่อย่างใด พื้นผิวมีความเรียบเนียนและดูเหมือนใช้วัสดุที่มีความพรีเมียมด้วยซ้ำ โดยมีน้ำหนักประมาณ 35 กรัม
ด้านหน้าเคสชาร์จมีแถบไฟ LED (เขียว/ส้ม/น้ำเงิน) ติดตั้งอยู่ตรงฝาปิด ซึ่งมีบานพับที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงเมื่อเปิดหรือปิด
ด้านหลังเคสชาร์จมีปุ่มสำหรับเชื่อมต่อ Bluetooth ใกล้กันเป็นพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
เมื่อเปิดฝาเคสขึ้นมา แน่นอนว่าจะพบกับหูฟังไร้สายทั้ง 2 ข้างที่จัดเก็บไว้ด้านใน โดยอาศัยพลังแม่เหล็กในการยึดเกาะหูฟัง ช่วยป้องกันหูฟังหล่นหายระหว่างเปิดฝาเคส (ลองคว่ำและเขย่าตัวเคส หูฟังก็ยังไม่หลุดออกมา)
หูฟัง LinkBuds S มีขนาดใหญ่กว่ารุ่น LinkBuds เล็กน้อย แต่เล็กกว่ารุ่น WF-1000XM4 อย่างชัดเจน เรียกได้ว่ามีขนาดกะทัดรัดกำลังพอดี สวมใส่สบายแทบไม่รับรู้ถึงน้ำหนัก เพราะเบาเพียงข้างละ 4.8 กรัม เท่านั้น อีกทั้งยังออกแบบมาให้ทนน้ำในระดับ IPX4 สามารถสวมใส่ระหว่างออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเหงื่อ
นับตั้งแต่เปิดตัวหูฟังอินเอียร์รุ่นแรกของโลกในปี 1982 ทาง Sony ก็มีการเก็บข้อมูลรูปทรงหูของผู้ใช้งานมาโดยตลอด เพื่อประเมินความไวของหูแต่ละแบบ แล้วนำมาปรับใช้ในการออกแบบหูฟัง LinkBuds S เพื่อให้เข้ากับรูปทรงหูของคนส่วนใหญ่มากที่สุด ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้สวมใส่ได้กระชับขึ้น และยังคงความรู้สึกสบาย สวมใส่ได้นานตลอดทั้งวัน
ด้านในของหูฟังแต่ละข้าง ระบุตัวอักษร L และ R ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้สวมใส่ได้ถูกข้าง ใกล้กันเป็นหมุดแม่เหล็กสำหรับยึดเกาะภายในเคสพร้อมชาร์จแบตเตอรี่ และมีเซ็นเซอร์ Infrared สำหรับตรวจจับการสวมใส่ นอกจากนี้ หูฟังข้างซ้าย (L) จะมี Tactile dot สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางสายตา สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นหูฟังข้างซ้าย
ด้านหลังของหูฟังทั้ง 2 ข้าง มี Touch sensor เป็นพื้นผิวแบนราบวงกลม ใช้ในการควบคุมหูฟังด้วยระบบสัมผัส ถัดลงมาเป็นตำแหน่งของไมโครโฟน
ค่าเริ่มต้นในการควบคุม Touch sensor ของหูฟังข้างซ้าย
- แตะครั้งเดียว เพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนกับโหมดฟังเสียงรอบข้าง
- แตะ 2 ครั้ง เพื่อรับหรือวางสาย
- แตะค้างไว้ เพื่อเปิดโหมด Quick Attention (ฟังเสียงรอบข้างแบบชั่วคราว)
ค่าเริ่มต้นในการควบคุม Touch sensor ของหูฟังข้างขวา
- แตะครั้งเดียว เพื่อเล่นหรือหยุดเพลงชั่วคราว
- แตะ 2 ครั้ง เพื่อข้ามไปเล่นเพลงถัดไป
- แตะ 3 ครั้ง เพื่อย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า
- แตะค้างไว้ เพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง (เช่น Google Assistant)
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเปลี่ยนคำสั่งการควบคุม Touch sensor ของหูฟังแต่ละข้าง ได้ที่แอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect
ปรับเสียงตามสถานที่อัตโนมัติ
หูฟัง LinkBuds S ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่มีกิจกรรมให้ทำได้ตลอดทั้งวัน จึงเน้นให้สวมใส่หูฟัง LinkBuds S ได้ยาวนานที่สุด โดยไม่ต้องถอดเก็บ ด้วยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ น้ำหนักเบา มองความสบายขณะสวมใส่เป็นเวลานาน และที่สำคัญ ยังมาพร้อม Adaptive Sound Control ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออกจากหู
Adaptive Sound Control เป็นฟีเจอร์อัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้และจดจำสถานที่โปรดของผู้ใช้งาน เช่น ที่ทำงาน ร้านกาแฟที่นั่งประจำ เพื่อปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะสมที่สุด แต่จะทำงานได้อย่างแม่นยำ ก็ต่อเมื่อมีการใช้งานหูฟังไปสักระยะ หลังจากนั้นระบบอัจฉริยะ จะปรับค่าเสียงให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
Speak-to-Chat
เนื่องจากหูฟัง LinkBuds S มีขนาดเล็กกะทัดรัด อาจทำให้คนรอบข้างเข้ามาทักทาย เพราะไม่ทันสังเกตว่ากำลังฟังเพลงผ่านหูฟังอยู่ โดยเฉพาะผู้ใช้งานไว้ผมยาวจนปิดใบหู และถ้าต้องการตอบโต้กลับหรือจะทักทายคนอื่นก่อน ก็ไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหูหรือกดหยุดเล่นเพลงให้ยุ่งยาก เพียงแค่เอ่ยคำพูดออกมา ฟีเจอร์ Speak-to-Chat ก็จะเริ่มทำงานทันที ด้วยการหยุดเล่นเพลงชั่วคราว เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน
เมื่อการสนทนาจบลง เพลงที่ถูกหยุดไว้ก็จะกลับมาเล่นต่อโดยอัตโนมัติ (ถ้าหากต้องการฟังเพลงต่อทันที ให้แตะที่ Touch sensor ข้างใดก็ได้) อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งาน LinkBuds S ต้องมั่นใจว่าฟีเจอร์ Speak-to-Chat เปิดใช้งานอยู่ โดยเข้าไปตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชั่น Sony Headphones Connect นอกจากนี้ หูฟัง LinkBuds S ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ จึงสามารถหยุดเล่นเพลงทันทีเมื่อถอดหูฟังออกจากหู และเพลงจะกลับมาเล่นอีกครั้ง เมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไป
รบบตัดเสียงรบกวนและโหมดฟังเสียงรอบข้าง
Sony LinkBuds S มาพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน (Noise canceling) กับโหมดฟังเสียงรอบข้าง (Ambient Sound Mode) ที่ใช้งานง่ายมาก เพียงแตะ Touch sensor ของหูฟังข้างซ้ายขณะสวมใส่ ก็จะเป็นการเปิดระบบตัวเสียงรบกวนทันที เหมาะสำหรับใช้งานขณะฟังเพลงอยู่กับที่ เช่น บ้าน, ที่ทำงาน, ร้านอาหาร หรือ กาแฟ เพื่อให้ได้ยินเสียงเพลงอย่างชัดเจนที่สุด
และถ้าต้องการฟังเพลงไปด้วยขณะเดินทาง สามารถแตะ Touch sensor ของหูฟังข้างซ้ายอีกครั้ง เพื่อเปิด Ambient Sound Mode ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่ยังได้ยินเสียงรอบข้าง เพื่อความปลอดภัยขณะเดินทาง และสามารถรับฟังเสียงประกาศจากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานที่รถไฟ หรือ อยู่ในศูนย์การค้า รวมถึง ระหว่างรอคิวเพื่อเข้ารับบริการต่างๆ
นอกจากโหมดฟังเสียงรอบข้าง (Ambient Sound) ยังมีโหมด Quick Attention มาให้ใช้งานด้วย ซึ่งทำงานแบบเดียวกับโหมด Ambient Sound แต่ใช้เพื่อฟังเสียงรอบข้างแบบชั่วครู่เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ขณะนั่งฟังเพลงอยู่ในรถไฟ และได้ยินเสียงประกาศแว่วเข้ามา สามารถแตะ Touch sensor ของหูฟังข้างซ้ายค้างไว้ เสียงเพลงก็จะลดลงทันที เพราะเปิดรับเสียงจากภายนอกมากขึ้น
คุณภาพเสียง Hi-Res Audio
หูฟัง LinkBuds S ของ Sony มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 5 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับชิปประมวลผล Integrated Processor V1 ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียง ระบบตัดเสียงรบกวน และลดการบิดเบือนของเสียงให้น้อยที่สุด ทำให้เสียงเพลงที่ถูกขับออกมามีเสียงร้องที่ชัดใส เสียงเบสหนักแน่น
LinkBuds S สนับสนุนไฟล์เสียงความละเอียดสูงแบบไร้สายด้วย LDAC เทคโนโลยีการเข้ารหัสสัญญาณเสียงในอุตสาหกรรมของ Sony ซึ่งสามารถรับส่งข้อมูลได้มากกว่าเสียง Bluetooth ดั้งเดิมถึง 3 เท่า และยังมีเทคโนโลยี DSEE Extreme ช่วยขยายไฟล์เพลงดิจิทัลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มีคุณภาพเสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
โทรคุยได้อย่างชัดเจน
นอกจากใช้ฟังเพลงแล้ว Sony LinkBuds S ยังรองรับการสนทนาทางโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีได้อย่างดี โดยติดตั้งไมโครโฟนมาให้ที่หูฟังทั้ง 2 ข้าง ซ่อนอยู่ในโครงสร้างตาข่าย และควบคุมไมโครโฟนด้วยเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ทำให้เสียงสนทนามีความมีความคมชัด ปราศจากเสียงรบกวน และด้วยฟีเจอร์ Speak-to-Chat และเทคโนโลยี Precise Voice Pickup ยังทำให้หูฟัง LinkBuds S สามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง อย่าง Google Assistant ได้อย่างแม่นยำ
เชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว
Sony LinkBuds S รองรับ Google Fast Pair ช่วยทำหน้าที่ในการจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ Android ของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และยังมีอีกฟีเจอร์ใหม่ Swift Pair สำหรับจับคู่หูฟังกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แล็ปท็อป และ แท็บเล็ต ที่รันบน Window 11 หรือ Window 10 ได้อย่างง่ายดาย
แบตเตอรี่ใช้งานนานสูงสุด 20 ชั่วโมง
Sony LinkBuds S สามารถให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 20 ชั่วโมง ขณะฟังเพลงและเปิดโหมดการตัดเสียงรบกวน โดยหูฟังทั้ง 2 ข้าง สามารถเล่นเพลงนานต่อเนื่องสูงสุด 6 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเพิ่มเติมได้อีก 14 ชั่วโมง ผ่านเคสชาร์จ (หากปิดโหมดตัดเสียงรบกวน หูฟัง LinkBuds S จะสามารถฟังได้นานถึง 9 ชั่วโมง หรือใช้สนทนาได้นานสูงสุด 3.5 ชั่วโมง)
เมื่อถึงเวลาชาร์จแบตเตอรี่ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม แต่ถ้าต้องการใช้งานด่วน Sony LinkBuds S ก็รองรับเทคโนโลยี Quick Charge ใช้เวลาชาร์เพียง 5 นาที สามารถใช้ฟังเพลงแบบต่อเนื่องได้นานถึง 1 ชั่วโมง
สรุปราคาและการจำหน่าย
หูฟัง LinkBuds S ถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการหูฟังไร้สายแบบ TWS ที่มีเทคโนโลยีครบครัน ให้เสียงคุณภาพสูง โทรคุยได้ชัดเจน และยังเป็นมิตรกับคนรอบข้าง ไม่ตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกแบบหูฟังประเภทครอบหู โดย Sony พร้อมวางจำหน่ายหูฟัง LinkBuds S ในประเทศไทยแล้ว ราคา 7,490 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีครีม