Apple เปิดตัวสาย Apple Watch รุ่นพิเศษ Pride Edition ครั้งแรกในปี 2016 โดยไม่ได้ผลิตออกมาจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป แต่แจกจ่ายให้กับพนักงานของ Apple ที่เข้าร่วมขบวนพาเหรด Pride ในปีนั้น ก่อนจะเริ่มดีไซน์และผลิตสาย Apple Watch รุ่น Pride Edition สำหรับวางจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไปในปี 2017 จนมาถึงรุ่นใหม่ล่าสุดในปีนี้กับสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition
สาย Apple Watch รุ่น Pride Edition ในปี 2022 ได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นเพื่อร่วมฉลองเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศ (Pride Month) ในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชน LGBTQ+ และการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทั่วโลก โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition มารีวิวให้ชมแล้ว
แกะกล่อง
สาย Apple Watch รุ่น Pride Edition ในปีนี้ ผลิตออกมาด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ สาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว มาในโทนสีขาว ส่วนอีกแบบเป็นสาย Nike Sport Loop รุ่น Pride Edition มาในโทนสีเข้ม
สาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพของสาย Apple Watch ไว้อย่างชัดเจน ด้านหลังกล่องให้รายละเอียดของสาย Apple Watch มีโลโก้ Apple สีแดงที่โดดเด่นขึ้นมา ตามด้วยชื่อ WATCH ที่มีหลากหลายสีสัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นตัวอักษรสีดำ
การเปิดฝากล่องทำได้ง่ายๆ ด้วยการลอกแถบเทปกาวออก จากนั้นก็ดึงแผ่นพับออกมาจากกล่อง เมื่อคลี่ออกมาก็จะพบกับคำแนะนำในการใส่สาย และแน่นอนว่าจะพบสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ถูกแนบมากับแผ่นพับ นอกจากนี้ แผ่นพับยังมีคำแนะนำการทำงานของแอป Clip เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงหน้าปัดนาฬิกาใหม่ที่เข้าคู่กันได้อย่างรวดเร็ว
สาย Sport Loop รุ่น Pride Edition
ต้องยอมรับเลยว่าสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ในปีนี้ ทำออกมาได้สวยงามเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะยังคงธีมสีรุ้งจากธง Pride เอาไว้ แต่ก็ไม่ได้เป็นสีสันที่จัดจ้านจนเกินไป เนื่องจากรูปแบบของสาย Sport Loop ที่ใช้เทคนิคใหม่ มีการนำเอาห่วงที่ถักทอจากไนลอนแบบ 2 ชั้น บนสายออกไป ให้คำว่า Pride โดดเด่นขึ้นมา
มาดูรายละเอียดที่ตัวสายกันสักนิด สาย Sport Loop ได้รับการถักทอด้วยไนลอน 2 ชั้น ผสานกันเป็นสายแบบลูปที่มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่มและระบายอากาศได้ดี แต่ในรุ่น Pride Edition จำเป็นต้องนำวัสดุบางอย่างออกไป เพื่อสร้างสรรค์ตัวอักษร Pride บนสาย เพื่อให้มีความโดดเด่นและสัมผัสได้ถึงรูปทรงแบบ 3 มิติ
ตัวอักษร Pride บนสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ยังเป็นสไตล์ Cursive ตัวหนังสือแบบตวัดหางต่อเนื่องกัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวหนังสือทักทาย “hello” บนหน้าจอ Macintosh เครื่องแรก ในปี 1984 และนำมาปรับโฉมให้ทันสมัยใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ
อีกด้านหนึ่งของสาย มาพร้อมห่วงคล้องสำหรับช่วยยึดสายไว้อย่างแน่นหนา โดยมีแถบหนามเตยช่วยปรับสายให้กระชับพอดีกับข้อมือ ซึ่งสามารถปรับสายได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
สำหรับสีรุ้งบนสาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ประกอบไปด้วยสีสันที่นำมาจากธง Pride ได้แก่ สีฟ้าอ่อน สีชมพู และ สีขาว ซึ่งแสดงถึงบุคคลข้ามเพศและผู้ที่ปราศจากการยึดติดทางเพศ อีกทั้งยังมีสีดำและสีน้ำตาล ที่เป็นสัญลักษณ์ของชุมชนชาวผิวดำและชาวละติน ถือเป็นสีสันที่สะท้อนไปยังผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับ HIV/AIDS หรือเสียชีวิตไปเนื่องจากโรคดังกล่าวอีกด้วย
หน้าปัดนาฬิกา Pride Threads
ในโอกาสเดียวกันนี้ Apple ยังได้เปิดตัวหน้าปัดใหม่ของ Apple Watch เรียกว่า Pride Threads โดยนำสีสันต่างๆ จากธง Pride หลากหลายแบบมาผสมผสานกัน เพื่อแสดงถึงความแข็งแกร่งและการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ของสมาชิกในชุมชน LGBTQ+
หน้าปัด Pride Threads ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับสายถักแบบ Sport Loop แต่ละเส้นของสีสันที่สดใสเป็นส่วนสำคัญในองค์ประกอบโดยรวมของหน้าปัดนาฬิกา เส้นสายของสีสันจะเคลื่อนไหวเมื่อหมุนปุ่ม Digital Crown บน Apple Watch เมื่อมีการแตะหน้าจอ หรือเมื่อผู้สวมใส่ยกข้อมือขึ้น
สำหรับหน้าปัดนาฬิกา Pride Threads พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วเช่นกัน รองรับ Apple Watch Series 4 หรือรุ่นใหม่กว่า ที่ทำงานบน watchOS 8.6 และ iPhone 6s หรือรุ่นใหม่กว่าที่ทำงานบน iOS 15.5
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
ถึงแม้สาย Apple Watch แบบ Sport Loop รุ่น Pride Edition ในปีนี้ ยังคงถูกสร้างมาเพื่อสนับสนุนสมาชิกกลุ่ม LGBTQ+ แต่ก็มีการเพิ่มสีดำและสีน้ำตาลเข้ามา จึงเป็นสาย Apple Watch ที่สนับสนุนทั้งความเท่าเทียมทางเพศและสีผิว จึงเป็นสายที่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย เพราะถือเป็นการให้เกียรติแก่บุคคลข้ามเพศ รวมถึงกลุ่มบุคคลที่อยู่ร่วมกับ HIV/AIDS ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือจากโลกนี้ไปแล้ว นอกจากนี้ สาย Sport Loop รุ่น Pride Edition ยังมีความโดดเด่นที่ตัวอักษร Pride บนสาย ซึ่งใช้รูปแบบตัวอักษรที่สาวก Apple ชื่นชอบ และยังมาพร้อมวิธีการสวมใส่ที่สะดวกรวดเร็ว ปรับขนาดสายให้กระชับได้อย่างง่ายดาย และระบายอากาศได้ดี จึงให้ความสบายกับข้อมือแม้สวมใส่เป็นเวลานานตลอดทั้งวัน
ทั้งนี้ สาย Sport Loop และสาย Nike Sport Loop รุ่น Pride Edition พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ราคาเดียวกัน 1,600 บาท โดยจะมีวาจำหน่ายทางออนไลน์ รวมถึงที่ Apple Central World และ Apple Icon Siam โดยรายได้ส่วนหนึ่ง Apple จะนำไปสนับสนุนการทำงานขององค์กรต่างๆ ที่ให้การช่วยเหลือกลุ่ม LGBT+ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น