realme ยังคงตอกย้ำความที่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เอาใจคนรักการถ่ายภาพด้วยการส่งสมาร์ทโฟน realme 9 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 108MP ProLight Camera ภายใต้สโลแกน “Capture the spark” ชูจุดเด่นที่กล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และมีดีไซน์บางเพียง 7.99 มิลลิเมตร ซึ่งทีมงาน @Flashfly ได้สัมผัสกับตัวจริงเรียบร้อยแล้ว สำหรับแกะกล่องพรีวิวอ่านได้ที่นี่
สเปก realme 9 4G
- จอแสดงผล 90Hz Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว
- กล้องหลัง 108MP AI Triple Camera
- กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- สนับสนุนการ์ด microSD
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 5 (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.1, USB Type-C, 3.5mm Earphone Jack
- เซ็นเซอร์ Acceleration Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor, Gyro-meter, Magnetic Induction Sensor
- ระบบนำทาง GPS, BeiDou, Galileo, GLONASS
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 3.0 บนพื้นฐาน Android 12
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W Dart Charge
- ขนาดตัวเครื่อง 160.2 x 73.3 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 178 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Sunburst Gold, Stargaze White และ Meteor Black
Ripple Holographic Design
ดีไซน์โดยรวมของ realme 9 ให้ความรู้สึกหรูหรา โดยเฉพาะสีทอง Sunburst Gold ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว รวมถึงสีขาว Stargaze White ซึ่งใช้ดีไซน์ Ripple Holographic ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากระลอกคลื่นในทะเลทราย โดยผ่านกระบวนการเคลือบ Plasma Atom ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และกระบวนการพิมพ์ด้วย UV-Nano Imprinting จนเกิดพื้นผิว 3D จากเอฟเฟกต์แสงลูกฟูกแบบไดนามิก
นอกจากสีทอง กับ สีขาว realme 9 ยังมีสีดำ Meteor Black เป็นอีกทางเลือก สำหรับผู้ใช้งานที่ชอบความสวยงามคลาสสิค และจับถือได้อย่างสะดวกด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 178 กรัม
ด้านหน้าเป็นพื้นที่ของจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว มีขอบจอบางเฉียบ จนทำให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90.8% และยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
จอแสดงผลของ realme 9 ถูกเจาะหลุมเล็กๆ ไว้ที่มุมบน เพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ และวางลำโพงหูฟังไว้สุดขอบด้านบนใต้จอแสดงผลยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย และไม่ได้ทำหน้าที่เพียงปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แบบเดียวกับที่พบใน realme 9 Pro+
ดีไซน์ด้านหลังให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมียม และสะดุดตากับระบบกล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งจัดวางอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยง
ส่วนขอบด้านข้างมีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร พร้อมติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 3 ช่อง สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM ได้พร้อมกัน 2 ช่อง และอีกช่องสำหรับใส่การ์ด microSD ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนจะพบตำแหน่งของไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพง
ภายใต้ดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมี่ยม realme 9 ยังได้รับการออกแบบและผลิตอย่างมีคุณภาพ โดยออกแบบมาเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับส่วนมุมของตัวเครื่อง ช่วยลดความเสี่ยงหน้าจอแตก อีกทั้งยังออกแบบอินเทอร์เฟซทั้งหมดของตัวเครื่องให้มีความแน่นหนา เพื่อป้องกันน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
สมาร์ทโฟน realme 9 ยังผ่านกระบวนการหล่อขอบ Microcrack เพื่อขจัดรอยแตกเล็กๆ มากมายบนพื้นผิวกระจกหน้าจอ ที่เกิดขึ้นหลังจากถูกเจียรด้วยแกนล้อเจียร CNC เพราะถ้าหากมี Microcrack หนาแน่นเกินไป อาจทำให้หน้าจอแตกได้ง่าย เมื่อได้รับแรงจากภายนอก นอกจากนี้ realme 9 ยังถูกทดสอบอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดต่างๆ รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C เพื่อให้มั่นใจว่าสมาร์ทโฟนมีความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว หรือแม้แต่ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง
หน้าจอ Super AMOLED รีเฟซ 90Hz
realme 9 มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ให้สีสันสวยงามคมชัดบนความละเอียด Full HD+ (1,080 x 2,400 พิกเซล) ขนาด 6.4 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 409 พิกเซลต่อนิ้ว ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต และสามารถปรับระดับความสว่างได้สูงสุดถึง 10,240 ระดับ ตามแสงของสภาพแวดล้อม เพื่อให้สบายตามากที่สุด
จอแสดงผลของ realme 9 ยังมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90.8% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่ขอบจอรอบด้านบางเฉียบ และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่สำคัญคือ รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ถือว่ามีอัตราการรีเฟรชที่สูงกว่า 50% เมื่อเทียบกับจอแสดงผลทั่วไปซึ่งอยู่ที่ 60Hz และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 360Hz ถือเป็นจอภาพที่ตอบสนองการเลื่อนดูหน้าจอได้อย่างลื่นไหล ควบคุมการเล่นเกมได้ทันใจ และยังให้ประสบการณ์ที่ดีสำหรับการรับชมคอนเท้นต์วิดีโอ
สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
realme 9 ใช้ระบบยืนยันตัวตนทางไบโอเมทริกซ์ทั้งวิธีสแกนลายนิ้วมือและใบหน้า โดยติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล ให้ประสบการณ์แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง สามารถอ่านลายนิ้วมือและปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอของ realme 9 ไม่ได้มีไว้เพื่อปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนเท่านั้น แต่ยังรองรับฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และสามารถบันทึกประวัติอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อตรวจสอบย้อนหลังได้อีกด้วย โดยไม่ต้องจำเป็นต้องใช้สมาร์ทวอทช์หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก
นอกจากนี้ realme 9 ยังสามารถปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าได้เช่นกัน โดยอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่าง AI กับกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ช่วยในการระบุใบหน้าเจ้าของสมาร์ทโฟนได้อย่างถูกต้อง
กล้องหลัง 108MP ProLight Camera
ระบบกล้องหลังถือเป็นไฮไลท์สำคัญของสมาร์ทโฟน realme 9 เพราะมาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังใช้เซ็นเซอร์รับภาพ ISOCELL HM6 ของ Samsung ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Nonapixel Plus ซึ่งเป็๋นการรวมพิกเซลแบบ 9-in-1 ส่งผลให้ความไวแสงในที่มืดต่ำ และสามารถควบคุม Noise หรือจุดรบกวนได้ดีขึ้นอย่างมาก ผสานการทำงานร่วมกับอัลกอริทึม ISO อัจฉริยะ ทำให้กล้องหลักของ realme 9 ถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสว่างในสภาพแวดล้อมที่มืดได้มากขึ้น 1.6 เท่า
เซ็นเซอร์ ISOCELL HM6 ไม่ได้ช่วยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อยเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพในการจับโฟกัสได้รวดเร็วกว่าระบบโฟกัสแบบ PDAF ถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ HM2 ส่งผลให้กล้องหลังของ realme 9 สามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและถ่ายภาพได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีกล้อง Ultra Wide และ กล้อง Macro คอยรองรับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์
- กล้องหลัก 108MP ProLight Camera รูรับแสง f/1.75
- กล้อง 8MP Ultra Wide รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองกว้าง 120 องศา
- กล้อง 2MP Macro รูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพใกล้วัตถุในระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร
เมื่อเข้ามาในแอปกล้องของ realme 9 จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, 108MP ส่วนโหมดอื่นๆ ถูกรวมอยู่ใน More ได้แก่ Pro, Pano, Ultra Macro, Movie, Slo-mo, Time-Lapse, Text Scanner และ Tilt-shift
โหมด Photo รองรับการซูมในช่วง 0.6x – 10x โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีซูมพิเศษในเซ็นเซอร์ ISOCELL HM6 ที่สามารถสร้างภาพซูมเข้าได้อย่างสวยงามด้วยเทคโนโลยี Ultra-Zoom จนสามารถเข้าใกล้รายละเอียดได้มากขึ้น และจัดองค์ประกอบภาพในแบบที่ต้องการ
ในโหมด Photo ยังมีฟีเจอร์สำหรับใช้งาน Retouch และ Filters ที่มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ Natural, Sweet, Delight, Crystal, Misty, Warm, Candy, B&W, Monochrome, Country, Modern gold, Cyberpunk และ Flamingo
โหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ตามต้องการ พร้อมด้วยฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับความงามบนใบหน้า และมี Filters ที่น่าสนใจอย่าง Dynamic bokeh และ Bokeh Flare Portrait ที่ให้เอฟเฟกต์ดวงไฟโบเก้แบบเดียวกับที่พบในกล้องมืออาชีพ
โหมด Street เป็นอีกจุดเด่นของสมาร์ทโฟนจาก realme และใน realme 9 ได้พัฒนามาถึง Street photography 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพแนวสตรีทได้อย่างง่ายดายเหมือนเป็นช่างภาพมืออาชีพ โดนมีฟิลเตอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่าง 90’s Pop ให้ภาพถ่ายออกมาในแนวคลาสสิกร่วมสมัย และมีฟีเจอร์ Peek & Zoom ช่วยให้ควบคุมตำแหน่งการซูมและโฟกัสได้ง่ายขึ้น
โหมด 108MP สำหรับการถ่ายภาพนิ่งในความละเอียดสูงสุด 108 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยระบุฉากหรือวัตถุที่กล้องระบุได้ เพื่อช่วยปรับค่ากล้องให้อัตโนมัติ
โหมด Night สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ซึ่งสามารถเพิ่มความโดดเด่นได้จากการเพิ่ม Filters ต่างๆ เช่น Modern gold, Cyberpunk, Flamingo, Astral และ Dazzle อีกทั้งยังสามารถซูมภาพได้ในช่วง 0.6x – 10x ซึ่งหมายถึงเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide ในโหมด Night ได้
โหมด Video สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p รองรับการซูมในช่วง 0.6x – 10x เช่นเดียวกัน แต่มี Filters ที่ต่างออกไป อย่างเช่น Crimson, Forest green และ Sky blue
กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
realme 9 ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมขนาดเล็ก ที่เจาะไว้บริเวณมุมบนของจอแสดงผล โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 รองรับโหมดถ่ายภาพ Photo พร้อมฟีเจอร์ Retouch ที่ปรับแต่งใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง
กล้องหน้ารองรับการถ่ายเซลฟี่ในยามค่ำคืนหรือในที่แสงน้อยด้วยโหมด Night พร้อมฟีเจอร์ Retouch ช่วยเสริมความงามบนใบหน้า ขณะที่โหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้เช่นกัน รวมถึงฟีเจอร์ Retouch และเพิ่ม Filters ได้หลายแบบ
สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า ก็มีฟีเจอร์ Retouch และ Filters แบบเดียวกับโหมด Photo สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นผิว, แก้ม, ขนาดดวงตา, จมูก ขณะที่ Filters ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบเหมือนกับกล้องหลัง โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p เช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิป Snapdragon 680
realme 9 ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 ที่ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิต 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-core (Cortex-A73 2.4GHz Quad-core + Cortex-A53 1.9GHz Quad-core) ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 25% สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้น พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 10% (เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 662) ผสานการทำงานร่วมกับจอแสดงผลที่ให้อัตราการรีเฟรชสูง 90Hz ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 ยังให้ประสิทธิภาพด้าน AI เพิ่มขึ้น 25% และด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ยังมีส่วนทำให้การใช้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ ส่งผลให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น โดยใช้พลังงานน้อยลง 62% และให้ประสิทธิภาพมากกว่า 46% เมื่อเทียบกับชิประดับ 12 นาโนเมตร
ด้านความจำของ realme 9 มากับ RAM สูงสุด 8GB แบบ LPDDR4x dual-channel จับคู่กับ ROM 128GB แบบ UFS 2.1 และยังรองรับการ์ด microSD จึงมีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งาน และยังเพิ่ม RAM แบบ RAM Expansion ได้สูงสุด 5GB อีกด้วย
แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 33W Dart Charge
realme 9 รองรับการใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนเข้านอน ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh สามารถเปิดเครื่องสแตนด์บายได้ยาวนาน 914 ชั่วโมง, ใช้โทรศัพท์ได้นานต่อเนื่อง 56 ชั่วโมง หรือ ใช้รับชมวิดีโอได้นานถึง 18 ชั่วโมง
เมื่อถึงเวลาเติมพลังงาน ก็ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป เพราะ realme 9 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Dart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh จนเต็ม 100% ภายในเวลา 75 นาที หรือ ชาร์จถึงระดับ 50% ภายในเวลาเพียง 31 นาทีเท่านั้น
ถึงแม้ realme จะให้ความสำคัญในเรื่องของการชาร์จเร็ว แต่ความปลอดภัยของผู้ใช้งานต้องมาก่อน ทำให้ระบบการชาร์จของ realme 9 ได้รับการป้องกันถึง 5 ชั้น ตั้งแต่อุปกรณ์ชาร์จ (Power Adapter) จนถึงสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลังของอุปกรณ์ชาร์จ, ระบบป้องกันขณะชาร์จเร็ว, ป้องกันกระแสไฟเกิน และ แรงดันไฟฟ้าเกิน
realme UI 3.0
realme 9 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย realme UI 3.0 ซึ่งได้รับการออกแบบ User Interface ใหม่ในสไตล์ที่เรียกว่า Fluid Space จัดวางอย่างเป็นระเบียบ สบายตา มาพร้อมไอคอน 3D ที่ดูสดใสมากยิ่งขึ้น โดยเน้นเส้นขอบที่ชัดเจน ผสานการใช้โทนสีแบบกึ่งโปร่งแสง เพื่อเพิ่มความสวยงามสบายตาและดูมีชีวิตชีวาสไตล์คนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน เอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ได้รับการพัฒนาขึ้น โดย AI Animation Engine จะตั้งรูปแบบการเปลี่ยนแปลงภาพโดยกำหนดตามการเคลื่อนไหวและความโค้งของวัตถุ และเอฟเฟ็กต์ของแอนิเมชั่นจะสอดคล้องตามการปัดหน้าจอที่เน้นความ “สะดวกง่ายดาย” มากขึ้น ทำให้รู้สึกลื่นไหลมากขึ้นด้วย
realme UI 3.0 ได้อัปเดทมาตรฐานความเป็นส่วนตัว เพื่อรับประกันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานจะมีความปลอดภัยมากขึ้น และยังมีการนำ AI มาช่วยให้การทำงานราบรื่นในทุกฟีเจอร์ เพิ่มประสิทธิภาพการเปิดแอปพลิเคชันในภาพรวมได้ถึง 10% และช่วยลดการใช้พลังงานเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ถึง 12% นอกจากนี้ AI ยังช่วยบีบอัดหน่วยความจำ เพื่อให้สามารถเปิดโปรแกรมการทำงานที่แตกต่างกันได้อย่างราบรื่น รวมถึงการจัดลำดับการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม จนสามารถลดการใช้หน่วยความจำเครื่องได้ถึง 30%
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
realme 9 ถูกสร้างมาเพื่อเน้นตอบโจทย์การใช้งานด้านการถ่ายภาพ ด้วยกล้องความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ช่วยให้ผู้ใช้งานเก็บภาพสวยๆ ได้ไม่แพ้สมาร์ทโฟนระดับเรือธง อีกทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลที่ให้สีสันสวยงามจากเทคโนโลยี Super AMOLED ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz นอกเหนือจากนี้ realme 9 4G ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงามหรูหรา ประสิทธิภาพคุ้มราคา รองรับการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น และยังใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 33W Dart Charge
สรุปแล้ว realme 9 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนไว้ถ่ายภาพ รองรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นไหล และไม่ได้เน้นการเชื่อมต่อ 5G เพราะ 4G กับ Wi-Fi 5 ก็เพียงพอแล้ว และที่ลืมไม่ได้ก็คือ realme 9 4G ยังมีจุดเด่นที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ สามารถใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อีกด้วย ถือเป็นอีกตัวเลือกที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด
realme 9 มาพร้อมความจุ 8+128GB ราคา 8,999 บาท
· เฉพาะช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ JD Central จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดย 300 คนแรก จะได้รับ ลำโพง realme Speaker 3W มูลค่า 499 บาท (เฉพาะ 5-15 พ.ค.เท่านั้น)
· สำหรับช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่าย วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป และจะได้รับ realme gift box มูลค่า 1,299 บาท (จำนวนจำกัด)
พิเศษ! สำหรับความจุ 6+128 เอ็กคลูซีฟเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น เหลือเพียง 7,499 บาท จากราคา 7,999 บาท เปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 5-15 พ.ค.นี้เท่านั้น โดย 300 คนแรก จะได้รับ ลำโพง realme speaker 3W, ร่ม และ realme gift box รวมมูลค่ากว่า 1,800 บาท