vivo เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด vivo X Note โดยชูจุดเด่นที่จอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ใช้วัสดุ E5 ของ Samsung ความละเอียด 3080 x 1440 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 21:10 ให้ความสว่างสูงสุด 1,500 นิต ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 112% รองรับการใช้งานแบบ Multitasking และรับชมความบันเทิงได้อย่างเต็มตา
ใต้จอแสดงผลของ vivo X Note ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic รุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcomm เรียกว่า 3D Sonic Max ซึ่งมีพื้นที่สแกนลายนิ้วมือที่ใหญ่ขึ้น จนรองรับการอ่านลายนิ้วมือได้ 2 นิ้วพร้อมกัน ทำให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นถึง 50,000 เท่า เมื่อเทียบกับการสแกนนิ้วเดียว
vivo X Note ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 และยังมีชิปด้านความปลอดภัย SPU (Secure Processing Unit) เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ 47,132 ตารางมิลลิเมตร ด้านกราฟิกรองรับเทคโนโลยี MEMC ช่วยเพิ่มเฟรมเรท ลดภาระของจีพียู
อีกจุดเด่นของ vivo X Note อยู่ที่ระบบกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Samsung ISOCELL GN1, กล้อง Telephoto แบบ Periscope รองรับซูมออปติคัล 5 เท่า (ซูมดิจิตัล 60 เท่า), กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663 รองรับซูมออปติคัล 2 เท่า และกล้อง Ultrawide 48 ล้านพิกเซล ให้มุมมองกว้าง 114 องศา
ระบบกล้องของ vivo X Note ยังใช้เลนส์คุณภาพสูงจาก ZEISS และมาพร้อมชิป V1 ซึ่งเป็น ISP ที่ออกแบบและพัฒนาโดย vivo ช่วยให้กล้องสามารถตรวจจับใบหน้าเมื่อถ่ายภาพหมู่ได้มากถึง 30 คน
vivo X Note มีความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W และชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับ 10W สำหรับเติมพลังงานให้อุปกรณ์อื่น เริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2022 เป็นต้นไป โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ RAM 8GB + ROM 256GB, RAM 12GB + ROM 256GB และ RAM 12GB + ROM 512GB ราคาเริ่มต้น 5,999 หยวน หรือราว 31,690 บาท
ในโอกาสเดียวกันนี้ vivo ยังได้เปิดตัว vivo X Fold และ vivo Pad ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนจอพับได้และแท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์