เคยไหมที่ต้องเปิดคอมทำงานด่วน แต่รูป และเนื้อหาอยู่บนสมาร์ทโฟน เคยไหมที่ต้องดูเอกสารหลายๆ ไฟล์พร้อมกันเพื่อตอบคำถามทั้งเจ้านาย ทั้งลูกค้า ในระหว่างประชุม เคยไหมที่อยากชอปปิงออนไลน์ไปด้วย เม้ากับเพื่อนบนจอใหญ่ๆ ให้ช่วยเลือกไปด้วย อีกตาก็แชทไปด้วยในเวลาเดียวกัน ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันบนแต่ละอุปกรณ์อาจเคยทำให้คนเราต้องใช้เวลาเยอะเกินไป หากต้องทำอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน แต่หัวเว่ยเข้าใจสภาวะไลฟ์สไตล์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตของคนสมัยนี้ดี ที่ต้อง work and play anywhere anytime จึงมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่แกะกล่องที่อัจฉริยะกว่าเดิมกับ HUAWEI Super Device ที่ล้ำสมัยโดนใจ เพราะเขาได้ออกแบบให้ดีไวซ์ยอดฮิตหลากหลายรูปแบบที่มั่นใจเลยว่าทุกคนมีมากกว่าหนึ่ง ให้แค่เพียงลากก็เชื่อมต่อแชร์ไฟล์ แชร์จอ กันได้เลยทันที
HUAWEI Super Device คืออะไร
ก่อนหน้านี้หัวเว่ยได้แนะนำกลยุทธ์ 1+8+N โซลูชันการใช้ “ชีวิตเอไอ ไร้รอยต่อ (Seamless AI Life)” ที่มีสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางหรือ “1” เพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ คือ “8” และไปสู่ “N” อีโคซิสเต็มของอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) อีกมากมายในอนาคต ซึ่งอยู่ในรูปแบบของ HUAWEI Share ฟีเจอร์ Multi-screen Collaboration ที่ทำให้จอสมาร์ทโฟนไปปรากฏบนจอของแล็ปท็อปและแท็บเล็ต ส่งไฟล์และทำงานข้ามดีไวซ์ได้อย่างราบรื่น วันนี้หัวเว่ยได้นำเสนอคอนเซ็ปต์
โซลูชันใหม่ HUAWEI Super Device – Super Device – Super Creativity ยกระดับจากการทำงานไร้รอยต่อให้อัจฉริยะไปอีกขั้นแบบ Smart Office
HUAWEI Super Device มาพร้อมการลากเพื่อเชื่อมต่อโดยมีแล็ปท็อปเป็นศูนย์กลาง ขยายขีดความสามารถในการทำงาน ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างการทำงานร่วมกันระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows และ EMUI ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้ เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถเปิดหน้าต่างแอปฯ ได้สูงสุด 3 หน้าต่างบนหน้าจอแล็ปท็อป แชร์ไฟล์รูป วิดีโอ และเอกสารอย่างง่ายดายเพียงลากจากจอโดยตรง รวมถึงใช้งานแอปฯ ของสมาร์ทโฟนด้วยแป้นพิมพ์และเมาส์ของแล็ปท็อป เช่น เปิดแอป Notepad เพื่อจดโน้ต แก้ไขรูปภาพจากในสมาร์ทโฟน และวิดีโอคอล MeeTime ไปได้พร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้อย่างเต็มรูปแบบกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด HUAWEI P50 Pro ซึ่งใช้ได้ทั้งจากการเปิด HUAWEI Super Device บนแล็ปท็อป หรือบน Control Panel ของ HUAWEI P50 Pro เอง
สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่จอที่ใหญ่ขึ้น หรือต้องการใช้งานสองจอในเวลาเดียวกัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การเชื่อมต่อกับมอนิเตอร์อย่าง HUAWEI MateView สามารถใช้ Mirror Mode จับคู่ฉายภาพหน้าจอแล็ปท็อปแบบไร้สาย ขยายการแสดงผลความละเอียดสูง บนหน้าจอที่กว้างกว่า อย่าง HUAWEI MateView ก็รองรับความละเอียดของสีระดับโรงภาพยนตร์ได้เลย และยังใช้ Extend Mode เชื่อมต่อได้ทั้งกับ HUAWEI MateView และ HUAWEI MatePad โดย HUAWEI MatePad นอกจากจะใช้เป็นจอที่สองแบบพกพาได้ ยังสามารถแก้ไขงานด้วย HUAWEI M-Pencil ได้ด้วย ด้านการเชื่อมต่อกับ HUAWEI Vision S สมาร์ทวิชั่นก็จะทำให้การประชุมหรือนำเสนองานสะดวกขึ้นโดยแคสต์หน้าจอไฟล์งาน หรือประชุมออนไลน์ขึ้นจอใหญ่ได้ ในขณะที่ก็ยังสามารถจดบันทึกบนแล็ปท็อปได้ในเวลาเดียวกัน
Ready, Set, Go: เชื่อมต่อ HUAWEI Super Device ง่ายๆ เพียงอึดใจเดียว
เริ่มเชื่อมต่อจากการจับคู่อุปกรณ์เข้าด้วยกันผ่านสัญญาณ Bluetooth และใช้ล็อกอิน HUAWEI ID เดียวกันบนแต่ละอุปกรณ์ โดยหากเชื่อมต่อครั้งแรก ต้องค้นหาอุปกรณ์อื่นผ่าน PC Manager ก่อน แล้วตั้งค่าการเชื่อมต่อเป็น Always Trust หลังจากนั้นครั้งต่อไป ก็เชื่อมต่อโดยตรงผ่าน Super Device ได้เลย แค่ลากเพื่อเชื่อมต่อ ทั้งกับสมาร์ทโฟน HUAWEI P50 Pro, HUAWEI MateView, HUAWEI MatePad และ HUAWEI Vision S สมาร์ทวิชั่น พร้อมมั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อจะรวดเร็วและปลอดภัย แชร์ข้อมูล แชร์จอ ได้แบบไร้กังวล เพียงแค่ add device และ connect ก็ใช้งานได้ทันที
(เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเสร็จแล้ว พร้อมกดอนุญาตการแชร์จอแบบ Multi-Screen Collaboration)
(คลิกที่ไอคอน HUAWEI Super Device (Device+) และหน้าจอของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อก็จะปรากฎขึ้น)
หลังจากจับคู่อุปกรณ์ไปแล้วในครั้งแรก ครั้งต่อไปในการเชื่อมต่อ ผู้ใช้สามารถคลิกที่ไอคอน Control Panel บริเวณ Task Bar จากนั้นคลิกที่ไอคอนของ HUAWEI Super Device (Device+) จะทำให้หน้าต่างอีโคซิสเต็มของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อปรากฏขึ้น โดยมีไอคอนแล็ปท็อปตรงศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยไอคอนอุปกรณ์อื่นๆ ผู้ใช้เพียงลากไอคอนที่อุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าหาไอคอนแล็ปท็อป จากนั้นก็เริ่มใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ แบบสร้างสรรค์งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด และทำงานแบบ Smart Office ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีโคซิสเต็ม 1+8+N ไม่ได้มีแค่การเชื่อมต่อผ่าน HUAWEI Super Device เท่านั้น แต่ยังมี Pop-up Pairing[2] ฟีเจอร์เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT อัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย ลำโพง เมาส์ หรือคีย์บอร์ดบลูทูธ จะปรากฎการเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อเจออุปกรณ์ใกล้ๆ
สัมผัสเทคโนโลยีอันชาญฉลาดได้แล้ววันนี้
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 หัวเว่ยได้เปิดตัว HUAWEI MateBook D Series รุ่นอัปเกรดใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย HUAWEI MateBook D 14 New และ HUAWEI MateBook D 15 New ที่รองรับฟีเจอร์ HUAWEI Super Device ให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลองสัมผัสการทำงานแบบ Smart Office เป็นครั้งแรก โดย HUAWEI MateBook D 15 New รุ่น i5 11th Gen 8GB+256GB ราคา 22,990 บาท, HUAWEI MateBook D 15 New รุ่น i5 11th Gen 8GB+512GB ราคา 24,990 บาท และ HUAWEI MateBook D 14 New รุ่น i5 11th Gen 8GB+512GB ราคา 24,990 บาท, HUAWEI MateBook D 14 New รุ่น i5 11th Gen 16GB+512GB ราคา 27,990 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม รับฟรีสายรัดข้อมืออัจฉริยะ HUAWEI Band 6 และกระเป๋าสะพาย HUAWEI Backpack มูลค่ารวม 2,989 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าภายในวันที่ 25 มีนาคม 2565 ถึง 15 เมษายน 2565 ที่ เว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่นี่ พร้อมทั้งติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery
#HUAWEIMateBookD #SuperDeviceSuperCreativity
[1]รองรับการใช้งานกับ HUAWEI P50 Pro หรือสมาร์ทโฟนที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ EMUI 12 ขึ้นไป
HUAWEI MateBook D หรือ แล็ปท็อปรองรับ PC Manager 12.0.2 ขึ้นไป
HUAWEI MatePad 11 หรือแท็บเล็ตที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Harmony OS เวอร์ชั่นล่าสุด
HUAWEI MateView ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS พร้อมเฟิร์มแวร์อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด HUAWEI Vision ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS เวอร์ชั่นล่าสุด
[2] รองรับการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวเฉพาะในหูฟังบางรุ่นและแล็ปท็อปบางรุ่นที่ใช้ PC Manager 12.0.2 หรือใหม่กว่าเท่านั้น โดย HUAWEI FreeBuds 4 และ HUAWEI FreeBuds Pro เป็นหูฟังสองรุ่นแรกที่รองรับการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว ทั้งนี้ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ในรุ่นอื่นๆ ในอนาคต