ASUS ได้ทำตลาด ASUS Vivobook 13 Slate OLED แล็ปท็อปแบบ 2-in-1 ไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแล็ปท็อปรุ่นนี้มีจุดเด่นที่สามารถพกพาได้สะดวก และถอดคีย์บอร์ดออกเพื่อปรับเข้ากับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย มีหน้าจอ OLED ให้สีสันที่สดใสและยังรองรับหน้าจอสัมผัสรวมถึงรองรับการใช้ปากกา Stylus จดโน๊ตหรือวาดเขียนได้ สำหรับแล็ปท็อป 2-in1 รุ่นนี้จะเป็นอย่างไร มาติดตามรีวิวจากทีมงาน @Flashfly กันเลย
สเปก
- ขนาดตัวเครื่อง 30.99 x 19.00 x 0.79 ~ 0.79 เซ็นติเมตร
- น้ำหนัก 0.78 กิโลกรัม
- หน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด FHD (1920 x 1080) หน้าจอสัมผัส, รองรับการใช้งานปากกา Stylus อัตราส่วน 16:9 พื้นที่แสดงผลต่อตัวเครื่อง 83% ขอบเขตสี 100% DCI-P3 ผ่านมาตรฐาน VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500 ถนอมสายตา SGS Eye Care Display
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- ชิป Intel® Pentium® Silver N6000 Processor 1.1 GHz (4M Cache, up to 3.3 GHz, 4 cores)
- Intel® UHD Graphics
- 4GB LPDDR4X / 8GB LPDDR4X (ออนบอร์ด)
- 128G eMMC / 256GB M.2 NVMe™ PCIe® 3.0 SSD
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home
- 2 x USB 3.2 รุ่น 2 Type-C รองรับการแสดงผล/การป้อนไฟ
- ช่องต่อชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ระบบเสียง Smart Amp Technology ลำโพงสเตอริโอ 4 ทางในตัว
- พอร์ต Micro SD card reader
- Wi-Fi 6(802.11ax)
- Bluetooth 5.2
- แบตเตอรี่ 50WHrs
- สีดำ
แกะกล่อง
กล่องของ ASUS Vivobook 13 Slate OLED นั้นจะมาในรูปแบบรักษ์โลกใช้กระดาษรีไซเคิลเป็นหลัก และเมื่อไม่ได้ใช้งานแล้วก็สามารถนำกล่องเหล่นี้กลับไปรีไซเคลิได้อีก ภายในจะมีการใช้ชิ้นส่วนพลาสติกน้อยมากๆ เพื่อคงคอนเซ็ปท์ในการรักษ์โลก ตัวหน้ากล่องมีพิมพ์ชื่อซีรีส์ ASUS Vivobook พร้อมกับข้อความ WOW THE WORLD ส่วนด้านหลังก็จะมีชื่อรุ่นและรายละเอียดเกี่ยวตัวเครื่องเล็กน้อย พร้อมสัญลักษณ์ intel inside ที่สื่อถึงการใช้ชิปของทาง Intel นั่นเอง และสติ๊กเกอร์ Microsoft Office Student ที่ติดมากับตัวเครื่อง
ภายในจะมาพร้อมกล่องอีกชั้น โดยกล่องนี้จะมีการตกแต่งสวยงาม มีการกล่องใสที่เผยให้เห็นซองกันกระแทกสีเงินด้านใน เมื่อเลื่อนออกมา ในซองก็จะใส่อุปกรณ์เสริมอย่างแป้นคีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับแทรคแพดและขาตั้งสำหรับใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อป
ขาตั้งจะมาในรูปแบบแผ่นที่มีแม่เหล็กติดเข้ากับด้านหลังตัวเครื่อง โดยมีการเจาะรูเว้นไว้สำหรับกล้องหลัง และสามารถพับได้ถึง 170 องศา
แป้นคีย์บอร์ดจะเป็นแบบแม่เหล็กที่ติดตั้งและถอดออกได้ง่ายดาย เป็นคีย์บอร์ดแบบเต็ม มาพร้อมแทรคแพดและปุ่มฟังก์ชันสำหรับการใช้งานต่างๆ และมีการออกแบบปุ่ม Enter ที่มีลวดลายเหมือน Slate ในวงการภาพยนตร์อีกด้วย โดยปุ่มจะมีระยะการกด 1.4 มิลลิเมตร ความสูงปุ่ม 19.05 มิลลิเมตร รอยเว้าปุ่ม 0.2 มิลลิเมตร
และเมื่อนำซองอุปกรณ์เสริมออก ก็จะพบกับตัวเครื่องที่วางอยู่ด้านล่างสุด โดยมีกระดาษที่พิมพ์ว่า THE VIVOBOOK + ENVIRONMENT ที่สื่อถึงการรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมวางปิดตัวเครื่องไว้
ภายในก็จะมีเพียงซองใส่เอกสารต่างๆ อาทิ คู่มือการใช้งาน, ใบแนะนำจาก ASUS และใบรับประกันอยู่ข้างใน
นอกจากนี้ยังมีกล่องอื่นๆ ที่ใส่อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 65W และปากกา ASUS Pen 2.0 มาให้ใช้งานเพิ่มเติมด้วย โดยหัวปากกาสามารถเปลี่ยนได้ 4 ระดับ ได้แก่ 2H, H, HB, B ซึ่งมีแถมมาให้ภายในกล่อง สามารถดึงด้ามปากกาขึ้นเพื่อชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ได้ และมีที่วางสไตลัสสำหรับติดแบบแม่เหล็กเข้ากับตัวเครื่องมาให้
นอกจากนี้ ASUS ยังแถมกระเป๋าสำหรับใส่พกพา ASUS Vivobook 13 Slate OLED มาให้ ถือเป็นข้อดีมากๆ ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องไปหาซื้อกระเป๋าสำหรับพกพาเพิ่มเติม แถมยังออกแบบมาดูดี และมีสายคาดสำหรับหยิบจับได้แบบถนัดมือมากขึ้น หรือจะนำไปใส่ในกระเป๋าเป้ต่างๆ ก็อุ่นใจในเรื่องของการปกป้องริ้วรอย
ASUS Vivobook 13 Slate OLED จัดเต็มกับอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับชุดจำหน่ายเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าแค่แกะกล่องออกมาก็พร้อมใช้งานได้แบบสมบูรณ์โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเลย
ดีไซน์แบบ 2-in1
ASUS Vivobook 13 Slate OLED เป็นแล็ปท็อปแบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้เมื่อไม่ได้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งและแป้นคีย์บอร์ดที่แถมมาให้ในชุดจัดจำหน่าย โดยตัวเครื่องนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแนวนอนเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้งานในแนวตั้งเหมือนกับแท็บเล็ตทั่วไปได้ โดยมีหน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว เป็นหน้าจอสัมผัส ความละเอียด FHD (1920 x 1080) พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูไมโครโฟนที่ไว้สำหรับใช้งานวิดีโอคอล วางอยู่บนหน้าจอด้านบนเหนือหน้าจอแสดงผล
ด้านหลังมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยมีดีไซน์ที่โดดเด่นกว่าส่วนอื่นๆ พร้อมกับป้ายสติ๊กเกอร์ที่บอกถึงชิป Intel Pentium, Microsoft Office Student และป้าย Perfect Waranty จากทาง ASUS
ด้านบนจะมีปุ่ม Power โดยจะใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ พร้อมกับดีไซน์ตามแนวกล้องหลัง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มม., พอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต โดยสามารถชาร์จไฟได้, พอร์ต MicroSD reader และลำโพงสปีกเกอร์
ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับลำโพงสปีกเกอร์ ซึ่งรวมกับด้านซ้ายก็จะเป็นลำโพงสเตอริโอที่มีระบบเสียง Dolby Atmos และปุ่มปรับระดับเสียงวางอยู่
ด้านล่างจะมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ด โดยจะเป็นการดูดแบบแม่เหล็กที่ติดตั้งได้รวดเร็วและถอดออกได้แบบง่ายดาย
แล็ปท็อปและแท็บเลต
ASUS Vivobook 13 Slate OLED เป็นอุปกรณ์ 2-in1 สามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ โดยสามารถใช้งานในลักษณะแท็บเล็ตผ่านการสัมผัสหน้าจอ หรือใช้เพียงขาตั้งที่ติดตั้งเข้าด้านหลังตัวเครื่องเพื่อใช้งานในแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ โดยขาตั้งด้านหลังนั้นสามารถพับได้ถึง 170 องศา จึงทำให้การปรับมุมองศาของหน้าจอทำได้หลากหลายและมีความยืดหยุ่น
และเมื่อประกอบขาตั้งและแป้นคีย์บอร์ดพร้อมแทรคแพดเข้าด้วยกันก็จะทำให้สามารถใช้งานในรูปแบบแล็ปท็อปได้ โดยสามารถพับปิดหน้าจอและพกพาได้สะดวก ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความสะดวกของผู้ใช้งานแต่ละคนว่าชื่นชอบการใช้งานในลักษณะไหน
หน้าจอ
ASUS Vivobook 13 Slate OLED ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 16:9 ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล มีพื้นที่แสดงผลต่อตัวเครื่องมากถึง 83% สนับสนุนขอบเขตสี 100% DCI-P3 ผ่านมาตรฐาน VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500 ถนอมสายตา SGS Eye Care Display ใช้งานโดยไม่ต้องกังวลว่าสายตาจะล้าหรือทำร้ายดวงตา หน้าจอสัมผัส ความเร็วในการตอบสนอง 0.2 ms
และรองรับการใช้งานปากกา ASUS Pen 2.0 ระดับแรงกด 4096 ขั้น sampling rate 266Hz ทำให้การจดโน๊ตและการวาดเขียนสามารถทำได้ง่ายดาย โดยตัวปากกาสามารถคลิกที่ท้ายด้ามเพื่อเรียกใช้งานโปรแกรม Microsoft Whiteboard ได้ทันที ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับผู้ที่ทำงานและต้องการจดโน๊ตระหว่างประชุมหรือนักเรียนนักศึกษาที่เรียนออนไลน์อีกด้วย
ประสิทธิภาพ
ขุมพลังของ ASUS Vivobook 13 Slate OLED นั้นใช้ชิปประมวลผล Intel® Pentium® Silver N6000 Processor 1.1 GHz (4M Cache, up to 3.3 GHz, 4 cores) และ Intel® UHD Graphics พร้อม RAM แบบ LPDDR4X ออนบอร์ด 8GB LPDDR4X พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB โดยจะมีรุ่น RAM 4GB + 128GB eMMC ให้เลือกด้วย โดยสเปกที่ให้มานี้เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้านเอกสาร Microsoft Office หรือใช้งานทั่วไป และเล่นเกมที่กราฟิกไม่สูงมากยังพอไหว รองรับ WiFi 6 ที่ทำให้การเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วและสเถียรขึ้น
และใน MyASUS ยังสามารถปรับตั้งค่าประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบตเตอรี่, การเปิดระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างของไมโครโฟน รวมถึงการปรับการแสดงผลของหน้า และอื่นๆ อีกมากมาย
แบตเตอรี่
ด้านแบตเตอรี่ก็ให้มา 50WHrs สามารถใช้งานได้เกือบตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จ รองรับชาร์จเร็ว 65W ชาร์จถึง 60% ในเวลาเพียง 39 นาที โดยมีอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟมาให้ในชุดจัดจำหน่าย และสามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C ได้
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
เป็นแล็ปท็อปที่มีความอเนกประสงค์ สามารถถอดคีย์บอร์ดออกได้อย่างง่ายดายเพื่อปรับให้เข้ากับการทำงานต่างๆ ได้ หน้าจอสัมผัสและรองรับการใช้งานปากกาก็ทำให้สะดวกต่อการจดโน๊ตในที่ประชุมหรือการเรียนออนไลน์ต่างๆ อีกทั้งหน้าจอ OLED ขนาด 13.3 นิ้วก็ยังรองรับ Dolby Vision และมีระบบเสียง Dolby Atmos ทำให้ใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่มมากขึ้น ใครที่กำลังมองหาแล็ปท็อปที่ใช้งานได้แบบหลากหลายเพื่อเอามาทำงานทั่วไป หรือเรียนออนไลน์ ASUS Vivobook 13 Slate OLED ก็ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและมีราคาไม่สูงมาก
ASUS Vivobook 13 Slate OLED วางจำหน่ายแล้ว มี 2 รุ่นให้เลือก โดยมีราคาดังนี้
T3300KA-LQP92WS
• CPU: Intel® Pentium® Silver N6000 Processor
• Graphics: Intel® UHD Graphics
• RAM: 8GB LPDDR4X | Storage: 256GB SSD
Price 27,990 บาท
T3300KA-LQP11WS
• CPU: Intel® Pentium® Silver N6000 Processor
• Graphics: Intel® UHD Graphics
• RAM: 4GB LPDDR4X | Storage: 128G eMMC
Price 23,990 บาท
– 2 Years international warranty รับประกันครอบคลุม 57 ประเทศ
– 1 Year Perfect warranty ประกันอุบัติเหตุปีแรก
ข้อมูลเพิ่มเติม
T3300 : https://th.asus.click/AflJv8
หาซื้อได้ที่
ASUS online store : https://th.asus.click/4ywwgf
JD : https://bit.ly/3rz2k3E
Shopee : https://th.asus.click/yiNAqn
Lazada : https://th.asus.click/2ZVLF8
ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ : https://th.asus.click/eGOg5r