Samsung Galaxy S22 Ultra 5G เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา และสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นแรกของ Galaxy S Series ที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ที่เรียกได้ว่าเป็นการรวมร่างของ Galaxy Note ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงและพัฒนาด้านกล้องการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ Nightographyที่สามารถถ่ายภาพกลางคืนหรือที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และตอนนี้เครื่องก็มาอยู่ในมือของทีมงาน @flashfly แล้ว สำหรับรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามรีวิวกันเลย
สเปก Samsung Galaxy S22 Ultra 5G
- ขนาดตัวเครื่อง 77.9 x 163.3 x 8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก
- หน้าจอ Dynamic AMLOED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz อัตราการสนองสูงสุด 240Hz (ใน Game Mode) ความสว่างสูงสุด 1,750 นิต รองรับ Vision Booster ครอบคลุม DCI-P3 100%
- รองรับการใช้งานปากกา S Pen Latency ต่ำเพียง 2.8 มิลลิวินาที
- กล้องหลังกล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS, กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล และ วางกล้อง Telephoto มาให้ 2 ตัว ความละเอียดเท่ากัน 10 ล้านพิกเซล แต่รองรับออปติคัลซูมต่างกัน 3x และ 10x
- กล้องหน้าความละเอียด 40 ล้านพิกเซล
- ชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ระดับ 4 นาโนเมตร
- หน่วยความจำ RAM 8GB + 128GB / RAM 12GB+256GB / RAM 12 + 512GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 One UI 4.1
- รองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 4 ครั้ง
- รองรับอัปเดตความปลอดภัยนาน 5 ปี
- การเชื่อมต่อ 5G, LTE, Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 45W ชาร์จไร้สาย 15W รองรับ Wireless PowerShare ชาร์จไฟไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุง
- มี 4 สีให้เลือก Phantom Black, Phantom White, Green และ Burgundy
ดีไซน์เรียบหรู DNA จาก Galaxy Note Series
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Note Series ที่ตัวเครื่องมีความเรียบแบน และโดดเด่นด้วยการจัดวางเลนส์กล้องแบบผสมผสานรวมกับกรอบโลหะได้อย่างลงตัว ตัวเครื่องทำจากกระจก Corning Gorilla Victus ที่มีความแข็งแกร่งและทนทาน ยังให้ความหรูหรา และมีผิวสัมผัสด้านแบบ Haze finish ที่ให้สมผัสที่ดีเวลาหยิบจับ มีให้เลือก 4 สี Phantom Black, Phantom White, Green และ Burgundy
ด้านหน้ามาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ซึ่งมีดีไซน์ขอบหน้าจอโค้งทั้ง 2 ข้าง ขอบหน้าจอบางเฉียบเพิ่มพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่โดยที่ขนาดตัวเครื่องยังสามารถหยิบจับถือได้ถนัดมือ รองรับการปลดล้อคหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอและการปลดล็อคด้วยใบหน้า
และหน้าจอยังมาในรูปแบบ Infinity-O Display เจาะรูตรงกลางหน้าจอเพื่อฝังกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 40 ล้านพิกเซลเอาไว้ โดยการเจาะรูฝังกล้องหน้าแบบนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่การแสดงผลและไม่เกะกะสายตาเวลาใช้งาน และขอบด้านบนของหน้าจอแสดงผลก็จะมีลำโพงสนทนาวางเรียบชิดกับขอบตัวเครื่อง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ จะโชว์บอดี้ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีเดียวกับกับฝาหลัง ให้ความสวยงามและหรูหรา โดยเฉพาะสีแดง Burgundy ที่เป็นสีใหม่ทำให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็น Samsung Galaxy S22 Ultra 5G
พลิกมาดูด้านขวาของตัวเครื่องก็จะพบกับปุ่มปรับระดับเสียงสนทนาและปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่อง โดยจะใช้ร่วมกับปุ่มพาวเวอร์
ด้านบนของตัวเครื่องก็มาในรูปแบบแบนเรียบ ทำให้นึกถึงดีไซน์ของ Galaxy Note Series มากขึ้นไปอีก และมีเพียงรูไมโครโฟนเท่านั้น
สุดท้ายด้านล่างของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับ S Pen, ลำโพงสปีกเกอร์, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟน, ถาดใส่ซิมการ์ด โดยจะมาในดีไซน์แบนเรียบเช่นเดียวกันกับด้านบนของตัวเครื่อง
ปากกา S Pen ที่มาใน Samsung Galaxy S22 Ultra 5G นี้ ก็จะเป็นลักษณะเดียวกันกับที่ใช้งานใน Galaxy Note โดยสามารถคลิกที่ด้ามปากกาแล้วดึงออกมาใช้งานได้ โดยตัวปากกาจะเป็นสีดำด้าน ส่วนท้ายปากกาจะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง
หน้าจอ 6.8 นิ้ว 120Hz สว่าง 1,750 นิต
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มาพร้อมกับหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ มีความสว่างสูงสุด 1,750 นิต ครอบคลุม DCI-P3 100% ที่มอบสีสันสดใสและแม่นยำสมจริง รองรับอัตราการรีเฟรชไดนามิก 1-120Hz ซึ่งจะมีการปรับการใช้งานตามความเหมาะสมให้อัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังรองรับ Vision Booster ที่จะปรับค่าความสว่างตามแสงรอบตัวให้โดยอัตโนมัติเพื่อให้หน้าจอแสดงผลได้คมชัดไม่ว่าจะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้ง
ในส่วนของการสัมผัสหน้าจอก็รองรับอัตราการตอบสนองสูงสุด 240Hz ใน Game Mode เพื่อทำให้การตอบสนองเป็นไปได้อย่างทันท่วงที ไม่มีดีเลย์ ซึ่งการตอบสนองหน้าจอที่รวดเร็วนั้นมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเล่นเกม
ปากกา S Pen จดโน้ตและวาดเขียนที่สมบูรณ์มากขึ้น
ปากกา S Pen ได้รับการปรับปรุงให้มีค่าเวลาแฝง หรือ Latency ต่ำ เพียงแค่ 2.8 มิลลิวินาที โดยเร็วกว่า S Pen ของ Galaxy Note 20 Ultra ที่มีค่า Latency อยู่ที่ 9 มิลลิวินาที นั่นหมายความว่า S Pen ของ Samsung Galaxy S22 Ultra 5G จะตอบสนองการวาดเขียน จดโน้ตได้ราบรื่นและรวดเร็วกว่า ให้ประสบการณ์การใช้งานที่สมจริงมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้รับปรับปรุงฟีเจอร์การเขียนด้วยลายมือเป็นข้อความให้รองรับถึง 88 ภาษา และยังคงมาพร้อมฟีเจอร์ Quick Note ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจดโน้ตได้อย่างรวดเร็ว
กล้อง 108MP ซูม 100x ถ่ายภาพที่แสงน้อยดีมากขึ้น
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ที่วางตำแหน่งกล้องได้โดดเด่น นูนจากตัวเครื่องเล็กน้อย ประกอบด้วย กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8, กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2, กล้อง Telephoto 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 และกล้อง กล้อง Telephoto อีกตัว 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F4.9 ถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K Super HDR มีเทคโนโลยี Adaptive Pixel และยังอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพของ AI แบบใหม่ ที่มอบความสามารถ Space Zoom ซูมได้สูงสุด 100 เท่า รวมถึงโหมด Portrait ที่จะทำให้ทุกภาพถ่ายดูสวยงามเป็นธรรมชาติพร้อมกับการตกแต่งโบเก้ตามสไตล์ของทางซัมซุง
ด้วยกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 2.4 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟนซัมซุงเคยมีมา ทำให้เลนส์กล้องสามารถจับแสงและรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยเลนส์ Super Clear Glass ที่ติดตั้งในกล้องหลังก็จะช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและวิดีโอในเวลากลางคืนได้อย่างคมชัดไม่มีแสงแฟลร์ ซึ่งซัมซุงเรียกทั้งหมดนี้ว่า ฟีเจอร์ Nightography นอกจากนี้ฟีเจอร์วิดีโอ อย่าง Auto Framing ที่จะเข้ามาช่วยจัดเฟรมของวิดีโอให้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าคนในภาพจะอยู่คนเดียวหรือ 10 คนก็ตาม
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G สามารถบันทึกภาพในรูปแบบ RAW ได้สูงถึง 16 บิต พร้อมปรับแต่งเพิ่มเติมได้ภายหลังผ่านแอปพลิเคชัน Expert RAW ที่มีชุดเครื่องมือแบบครบครันติดตั้งมาพร้อมกับตัวกล้อง ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่า ISO และความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed) เพื่อเพิ่มความมืดหรือความสว่าง พร้อมปรับสมดุลย์แสงขาว (White balance) หรือโฟกัสวัตถุด้วยตนเองได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าสามารถรับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับกล้อง DSLR ได้เลย
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ก็มาในความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้การเซลฟี่ได้สว่างและคมชัด พร้อมกับโหมด Portrait ที่ช่วยปรับใหบหน้าให้สวมงามอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน
ชิป Snapdragon 8 Gen 1 ระดับ 4 นาโนเมตร
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยครั้งนี้จะใช้งานชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ระดับ 4 นาโนเมตร รองรับการใช้งาน 5G ตั้งแต่แกะกล่อง โดยจะทำงานร่วมกับ AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) ในการประมวลผลการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป, จดโน้ต วาดเขียน หรือการเล่นเกม
ด้านความจำมีด้วยกัน 3 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 8GB + 128GB, RAM 12GB + 256GB, RAM 12GB + 512GB มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับโดย One UI 4.1 ที่มีหน้าตา UI สวยงามและใช้งานง่าย ใครที่ใช้ซัมซุงมาอยู่แล้วก็ไม่ต้องปรับตัวใดๆ ส่วนใครที่เพิ่งจะมาใช้ซัมซุงก็ปรับตัวไม่นาน
นอกจากนี้ซัมซุงยังการันตีอัปเกรดระบบปฏิบัติการนานถึง 4 ครั้งด้วยกัน นั่นหมายความว่าจะสามารถอัปเกรดได้ถึง Android 16 เป็นอย่างน้อย และมีการการันตีอัปเดตความปลอดภัยนานถึง 5 ปี ใครที่คิดว่าจะใช้งานแบบยาวๆ ก็อุ่นใจได้เลย ไม่มีแถมแพแน่นอน
วัดประสิทธิภาพด้วย Geekbench ก็ถือว่าทำคะแนนได้ในระดับสูง โดยได้ 1174 คะแนนสำหรับ Single-Core และ 2952 สำหรับ Multi-Core ขณะที่คะแนนทดสอบจาก AnTUTU ได้ 839,990 คะแนนอยู่ในอันดับ 3 ของตาราง ถือว่าสูงพอสมควร
แบตเตอรี่ 5,000mAh ใช้งานยาวนานตลอดวัน
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่5,000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน รวมถึงการรองรับการชาร์จเร็ว 45W และรองรับชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15W ชาร์จ 10 นาทีถ่ายวิดีโอต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 นาที นอกจากนี้ยังรองรับ Wireless PowerShare ชาร์จไฟไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นๆ อาทิ Galaxy Watch และ Galaxy Buds ได้
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เกิดการร่วมร่างระหว่าง Galaxy S และ Galaxy Note ได้อย่างสมบูรณ์ จัดเต็มด้านการถ่ายภาพและวิดีโอที่ทำได้ดีมากขึ้น และยังรองรับการทำงานที่มากขึ้นด้วยปากกา S Pen ในตัว สามารถดึงออกมาจากตัวเครื่องเพื่อใช้งานได้ทันที และเก็บเข้าตัวเครื่องเพื่อพกพาไปใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ได้ ในด้านสเปกก็จัดเต็มมาแบบระดับเรือธง หน้าจอ 6.8 นิ้วก็มีขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มตาม แต่ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่บางยังจับได้ถนัดมือ ฟีเจอร์ที่ให้มาก็ครบครัน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความสุดของทุกด้าน
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท พิเศษสำหรับช่วงพรีออเดอร์ระหว่างวันนี้ – 3 มีนาคม 2565 กับส่วนลดสูงสุดถึง 15,000 บาทเมื่อจองผ่าน AIS ,dtac และ True หรือ รับฟรีความจุเพิ่ม 2 เท่า มูลค่าสูงสุด 4,000 บาท พร้อมประกันจอแตก 1 ปี ไม่มีชาร์จเพิ่มมูลค่า 3,499 บาท ยิ่งกว่านั้น กับแคมเปญเก่าแลกใหม่ ให้ราคาเกรด A และรับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมิน 5,000 บาท แม้สภาพไม่สมบูรณ์อีกด้วย เมื่อจองผ่าน samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ พิเศษรับเพิ่ม! เครดิตเงินคืนสูงสุด 20% ผ่านบัตรเครดิต SCB และ e-voucher มูลค่า 1,000 บาท เฉพาะที่ samsung.com, Samsung Experience Store เท่านั้น
Samsung Galaxy S22 Ultra 5G มาในตัวเลือก 4 สี ได้แก่ สีแดงเบอร์กันดี สีดำ Phantom Black สีขาว Phantom White และสีเขียว โดย
- Galaxy S22 Ultra (8/128) วางจำหน่ายในราคา 39,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/256) วางจำหน่ายในราคา 43,900 บาท
- Galaxy S22 Ultra (12/512) วางจำหน่ายในราคา 47,900 บาท
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s22-ultra/buy