HUAWEI ถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายแรกที่ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่ง Samsung ในตลาดสมาร์ทโฟนพับจอได้อย่างแท้จริง นับตั้งแต่บริษัทใหญ่จากเกาหลีใต้เปิดตัว Galaxy Z Fold คู่แข่งรายใหญ่จากประเทศจีนก็ส่ง Mate X ออกมาท้าชน ซึ่งทั้ง 2 รุ่น เรียกว่าเป็นแท็บเล็ตพับได้ก็ไม่ผิดนัก แต่เป็นแท็บเล็ตที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวกเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม HUAWEI P50 Pocket กับ Samsung Galaxy Z Flip 3 กำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ด้วยดีไซน์ฝาพับแบบตลับแป้ง ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงก่อนที่สมาร์ทโฟนจะแจ้งเกิดในตลาด เพียงแต่เมื่อกางอุปกรณ์ออกมาจะพบว่าภายในเป็นจอแสดงผลทั้งหมด ไม่ได้แบ่งส่วนหน้าจอกับปุ่มกดตัวเลขเหมือนในอดีต ดังนั้น จุดเด่นของ HUAWEI P50 Pocket และ Galaxy Z Flip 3 คือ ความสะดวกในการพกพา เพราะเมื่อถูกพับเก็บจะมีขนาดเล็กกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่นอกเหนือจากนี้ แต่ละรุ่นจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ทีมงาน @Flashfly ได้นำทั้งคู่มาเปรียบเทียบให้ชมแล้ว
เปรียบเทียบสเปก
P50 Pocket | Galaxy Z Flip 3 | |
จอแสดงผลหลัก | ขนาด 6.9 นิ้วรีเฟรช 120Hz | ขนาด 6.7 นิ้วรีเฟรช 120Hz |
จอแสดงผลด้านนอก | ขนาด 1.05 นิ้ว | ขนาด 2.0 นิ้ว |
กล้องหลัง | กล้อง 3 ตัว 40+13+32MP | กล้องคู่หลัง 12+12MP |
กล้องหน้า | 10.7MP | 10MP |
ชิปประมวลผล | Snapdragon 888 4G | Snapdragon 888 5G |
ความจำ RAM | 8GB, 12GB | 8GB |
ความจำในตัว | 256GB, 512GB | 128GB, 256GB |
แบตเตอรี่ | 4,000mAh | 3,300mAh |
การชาร์จเร็ว | 40W | 15W |
ซอฟต์แวร์ | EMUI 12 | One UI 3.1.1 |
ดีไซน์
ในฐานะที่เปิดตัวออกมาก่อน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า Samsung เป็นผู้นำเทรนด์ในดีไซน์สมาร์ทโฟนฝาพับ และ Galaxy Z Flip 3 ก็เป็นรุ่นที่ 3 ของ Series นี้แล้ว แต่ดีไซน์โดยรวมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นแรก อย่างไรก็ตาม Galaxy Z Flip 3 ได้รับการปรับปรุงวัสดุใหม่โดยใช้อลูมิเนียมที่มีความทนทานมากกว่าเดิม 10% และป้องกันรอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus (ทนต่อการตกหล่นจากที่สูง 2 เมตร และทนต่อการขีดข่วนได้มากกว่าถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับกระจกอะลูมิโนซิลิเกต)
Samsung Galaxy Z Flip 3 ดูเรียบง่ายในทันที เมื่อเทียบกับ HUAWEI P50 Pocket ด้วยการทำพื้นผิวให้มีลวดลาย 3D ทำให้ภาพรวมดูหรูราพรีเมียม อีกทั้งยังมีลาดลายที่แตกต่างกันด้วยระหว่างสีขาวกับสีทอง โดยสีทองยังถือเป็นรุ่นพิเศษ เรียกว่า HUAWEI P50 Pocket Premium Edition และลวดลาย 3D ที่พริ้วไหวบนตัวเครื่องสีทอง ก็ได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์แฟชั่นระดับโลก Iris Van Herpen ที่มองว่าเทคโนโลยีมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดนิ่ง
ไม่เพียงแต่ลวดลาย 3D ที่ทำให้ HUAWEI P50 Pocket มีความโดดเด่นกว่า HUAWEI ยังให้ความสำคัญกับบานพับด้วย เพราะถือเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทโฟนดีไซน์ฝาพับ นั่นทำให้ HUAWEI คิดค้นระบบกลไกบานพับขึ้นมาใหม่ เพื่อทำให้จอแสดงผลหลักเกิดรอยพับได้ยากที่สุด และมองไม่เห็นรอยต่อของบานพับ โดยใช้โลหะเหลวที่มีส่วนประกอบหลักจากเซอร์โคเนียม (Zirconium-based liquid metal) และเหล็กแข็งแรงพิเศษ 2,100MPa Ultra-high Strength Steel ทำให้ HUAWEI P50 Pocket พับได้อย่างเรียบเนียนไร้รอยต่อ และยังมีความทนทานสูง
เมื่อถูกพับ HUAWEI P50 Pocket จะพับได้อย่างแนบสนิท ทำให้มิติตัวเครื่องเกิดความสมมาตร และเมื่อกางออกจอแสดงผลหลักก็แทบไม่เกิดรอยพับ ขณะที่จอแสดงผลหลักของ Samsung Galaxy Z Flip 3 ยังมองเห็นรอยพับอยู่ และยังมีช่องว่างของอุปกรณ์เมื่อถูกพับ จึงมีโอกาสที่เศษฝุ่นจะเข้าไปสร้างความเสียหายให้กับหน้าจอได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เพราะบานพับของ Galaxy Z Flip 3 ผ่านการทดสอบถูกพับถึง 200,000 ครั้ง รับรองโดย Bureau Veritas
ขณะที่ HUAWEI P50 Pocket ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี (สีขาว, สีทอง) ในลวดลายที่แตกต่างกัน แต่ Samsung Galaxy Z Flip 3 มีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ Cream, Green, Lavender, Phantom Black, Gray, White และ Pink อย่างไรก็ตาม สี Gray, White และ Pink สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ Samsung เท่านั้น
จอแสดงผล
HUAWEI P50 Pocket และ Samsung Galaxy Z Flip 3 มาพร้อมจอแสดงผลหลักที่พับได้ และยังมีจอแสดงผลด้านนอกเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด จอแสดงผลหลักของ Galaxy Z Flip 3 ใช้จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 22:9 รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz ได้รับการป้องกันด้วยแผ่นฟิล์ม PET (Polyethylene Terephthalate) ซึ่งมีความทนทานมากกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนถึง 80%
จอแสดงผลหลักของ HUAWEI P50 Pocket ใช้เทคโนโลยีจอภาพ OLED ความละเอียด 2790 x 1188 พิกเซล ขนาดใหญ่ 6.9 นิ้ว ให้สีสันมากถึง 1.07 พันล้านสี รองรับขอบเขตสีระดับ P3 ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz อัตราตอบสนองการสัมผัสหน้าจอ 300Hz เหมาะสำหรับการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ และมีอัตราเฟรม PMW Dimming Control ที่ 1440Hz ช่วยลดอาการเหนื่อยล้าของสายตา แม้ใช้งานในที่แสงน้อย
สำหรับจอแสดงผลด้านนอก HUAWEI P50 Pocket ใช้เทคโนโลยีจอภาพ OLED ความละเอียด 340 x 340 พิกเซล ขนาด 1.04 นิ้ว ขณะที่จอแสดงผลด้านนอกของ Samsung Galaxy Z Flip 3 ใช้เทคโนโลยีจอภาพ Super AMOLED ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล ขนาด 1.9 นิ้ว
ดูเหมือนจอแสดงผลหลักของ HUAWEI P50 Pocket ได้เปรียบกว่าคู่แข่งทั้งขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ความลึกสีมากกว่าระดับ 10-bit และยังให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า ด้วยการออกแบบบานพับใหม่ทำให้เกิดรอยพับได้ยากกว่าคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม Galaxy Z Flip 3 มีจอแสดงผลด้านนอกที่ดีกว่า ด้วยขนาดใหญ่กว่าและเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนจอแสดงผลด้านนอกของ HUAWEI P50 Pocket เป็นกรอบวงกลม แต่ก็เป็นจอสัมผัส สามารถตรวจสอบการแจ้งเตือน รับสาย ถ่ายภาพเซลฟี่ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีวิดเจ็ตของแอปต่างๆ มาให้ใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องกางจอหลัก
ระบบกล้อง
Samsung Galaxy Z Flip 3 มาพร้อมกล้องคู่หลัง ประกอบด้วยกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 รองรับ Dual Pixel AF มีระบบกันสั่น OIS และกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ให้มุมมองกว้าง 123 องศา ส่วนกล้องเซลฟี่ติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอหลัก โดยมีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4
สมาร์ทโฟนระดับเรือธงของ HUAWEI เป็นผู้นำในการถ่ายภาพมาหลายปีติดต่อกัน ทำให้ HUAWEI P50 Pocket ไม่ได้รับอนุญาตให้มีประสิทธิภาพกล้องด้อยลงไปกว่าคู่แข่ง ดังนั้น จึงจัดเต็มด้วยระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 40MP True-Chroma รูรับแสง f/1.8, กล้อง 13MP Ultra-Wide รูรับแสง f/2.2 และกล้อง 32MP Ultra Spectrum รูรับแสง f/1.8 สำหรับกล้องเซลฟี่ ถูกซ่อนไว้ในหลุมบนหน้าจอหลักเช่นเดียวกัน โดยมีความละเอียด 10.7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
นอกจากฮาร์ดแวร์ของโมดูลกล้องจะเหนือกว่าคู่แข่งแล้ว ด้านซอฟต์แวร์กล้องของ HUAWEI P50 Pocket ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพถ่ายออกมามีคุณภาพมากกว่า จากการเปรียบเทียบภาพถ่ายในหลากหลายสถานการณ์
ภาพถ่ายจาก HUAWEI P50 Pocket เน้นความสมจริงและให้สีสันที่แม่นยำ ด้วยการใช้ True-Chroma Image Engine ทําให้กล้องของ HUAWEI P50 Pro สามารถบันทึกสีสันรอบตัวได้อย่างถูกต้อง อย่างเช่นภาพถ่ายบุคคลที่ให้โทนสีผิวมีความเที่ยงตรง ขณะที่กล้องของ Galaxy Z Flip 3 ให้ภาพออกไปในโทนสีเหลืองและสีเขียวเล็กน้อย ถึงแม้จะถ่ายในฉากและสภาพแสงเดียวกัน
กล้องของ HUAWEI P50 Pocket ยังทำได้ดีกว่าเมื่อใช้บันทึกภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน ซึ่งต้องขอบคุณ XD Fusion Pro ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานในแสงน้อยให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ภาพถ่ายในที่มืดของ HUAWEI P50 Pro สามารถควบคุมแสงและแสดงรายละเอียดของภาพได้ดีกว่าอย่างชัดเจน
แบตเตอรี่และการชาร์จ
อีกจุดหนึ่งที่ HUAWEI P50 Pocket ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง นั่นก็คือ การจัดการพลังงาน สมาร์ทโฟนของ HUAWEI มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh ขณะที่ Galaxy Z Flip 3 มีความจุแบตเตอรี่ 3,300mAh และทั้งคู่ยังใช้ชิปประมวลผลเดียวกัน Snapdragon 888 (แตกต่างที่ Galaxy Z Flip 3 รองรับ 5G) สเปกจอแสดงผลก็ใกล้เคียงกัน นั่นทำให้แบตเตอรี่ของ HUAWEI P50 Pocket มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับการชาร์จเต็มหนึ่งรอบ
ที่สำคัญก็คือ HUAWEI P50 Pocket ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W SuperCharge ขณะที่ Galaxy Z Flip 3 รองรับชาร์จเร็ว 15W ส่งผลให้ HUAWEI P50 Pocket มีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า และยังใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่น้อยกว่าอีกฝ่ายด้วย
ซอฟต์แวร์
HUAWEI P50 Pocket เวอร์ชั่นที่ส่งไปทำตลาดทั่วโลก ยังคงทำงานบนพื้นฐาน Android แต่ครอบทับด้วย EMUI 12 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบนิเวศของ HUAWEI โดยเฉพาะเทคโนโลยี Distributed File System ทำให้อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีบัญชีผู้ใช้ HUAWEI เดียวกัน และเชื่อมต่อบนเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน สามารถเข้าถึงเอกสาร รูปภาพ และไฟล์ต่างๆ ใน P50 Pocket ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายให้ยุ่งยาก เพียงเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth เปิดใช้ฟีเจอร์ Multi-Device File Browsing ซึ่งคุณสมบัตินี้ไม่รองรับบนอุปกรณ์ Samsung
HUAWEI P50 Pocket ยังมีร้านค้าแอปพลิเคชั่นที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่าง AppGallery ซึ่งมีแอปพลิเคชั่นที่คุ้นเคยพร้อมให้ติดตั้งได้โดยตรง ขณะที่ Samsung Galaxy Z Flip 3 ยังคงรองรับ Google Mobile Services อย่างเต็มรูปแบบ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นจาก Google Play Store ได้โดยตรง แต่ HUAWEI P50 Pocket ก็มีทางอ้อมอย่าง GSpace (ดาวน์โหลดได้จาก AppGallery) ที่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นและบริการของ Google ได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, YouTube, Gmail, Google Drive, Google Classroom รวมไปถึงแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่คุ้นเคยใน Google Play Store
สรุปราคาและรุ่นไหนเหมาะกับใคร
Samsung Galaxy Z Flip 3 และ HUAWEI P50 Pocket ต่างก็เป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์ฝาพับที่มีความคล้ายกัน แต่ความแตกต่างก็คือ สมาร์ทโฟนของ Samsung เน้นความเรียบง่าย ขณะที่ HUAWEI P50 Pocket ให้ความหรูหรา และออกแบบบานพับได้ดีกว่า มองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อพับอุปกรณ์ จะพบว่าสมาร์ทโฟนของ HUAWEI ปิดได้เรียบสนิท เมื่อกางออกก็ยังไร้รอยพับบนหน้าจอ ขณะที่ Galaxy Z Flip 3 เมื่อถูกพับยังมีช่องว่างให้เศษฝุ่นรอดเข้าไปได้ และยังสังเกตเห็นรอยพับบนหน้าจออยู่บ้าง
ในส่วนของประสิทธิภาพ ทั้งคู่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน แตกต่างที่ HUAWEI P50 Pocket ไม่ได้รับชิปโมเด็ม 5G การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงถูกจำกัดไว้ที่ 4G แต่ก็ชดเชยด้วยการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 นอกจากนี้ ยังทำได้ดีกว่าคู่แข่งทั้งในด้านการถ่ายภาพ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่
สรุปแล้ว Samsung Galaxy Z Flip 3 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความเรียบง่าย มีให้เลือกหลายสี แข็งแกร่งกว่าในส่วนของซอฟต์แวร์ ขณะที่ HUAWEI P50 Pocket มีดีไซน์ที่หรูหรากว่า โดดเด่นกว่าทั้งในเรื่องบานพับ ระบบกล้อง และแบตเตอรี่ ทั้งนี้ Samsung Galaxy Z Flip 3 มีวางจำหน่ายแล้วในราคาเริ่มต้น 34,900 บาท สำหรับรุ่นแรม 8GB ความจุ 128GB และราคา 36,900 บาท สำหรับความจุ 256GB ขณะที่ HUAWEI P50 Pocket เปิดราคาทางการในไทยเริ่มต้นที่ 46,990 บาทมาพร้อมแรม 8GB ความจุ 256GB และรุ่นสีทองสุดหรู Premium Edition ราคา 57,990 บาท แรม 12GB ความจุ 512GB