Redmi Note 11 พร้อมทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยเลือกใช้ชิปประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตรของ Qualcomm จอแสดงผล 90Hz FHD+ AMOLED DotDisplay แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 4 ตัว กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล และทั้งหมดถูกรวมไว้ในตัวเครื่องที่มีดีไซน์สวยงามทันสมัย ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ทีมงาน @Flashfly ได้รีวิวมาให้อ่านแล้ว
สเปก Redmi Note 11
- จอแสดงผล AMOLED (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz
- กล้องหลัง 50MP AI Quad Camera
- กล้องหน้า 13MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680
- ความจำ RAM 4GB + ROM 64GB, RAM 4GB + ROM 128GB, RAM 6GB + ROM 128GB
- รองรับการ์ด microSD สูงสุด 1TB
- การเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0, NFC, IR Blaster, USB Type-C, 3.5 mm Headphone Jack
- สแกนนิ้วด้านข้าง (Side Fingerprint Sensor)
- สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค (AI Face Unlock)
- ลำโพงคู่
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 13 (บนพื้นฐาน Android 11)
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W Pro Fast Charging
- ขนาดบอดี้ 159.87 x 73.87 x 8.09 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 179 กรัม
แกะกล่อง Redmi Note 11
Redmi Note 11 ถูกจัดส่งมาในกล่องสีขาว หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ เห็นดีไซน์ด้านหน้าชัดเจน วางทับด้านหลัง ระบุชื่อรุ่นไว้ใต้รูปภาพ และติดโลโก้ Mi ไว้ที่มุมบน
ข้างกล่องพิมพ์ชื่อ Redmi Note 11 ด้วยตัวอักษรสีทอง ถัดลงมามีข้อความระบุว่า “สามารถเข้าถึงแอปของ Google ได้อย่างง่ายดาย” ข้างกล่องที่เป็นด้านแคบ ติดฉลากให้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ชื่อรุ่น สีสัน ตัวเลือกความจำ รวมถึงข้อมูลการผลิต หมายเลขประจำเครื่อง และ หมายเลขอีมี่
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบซองเอกสารสีขาว มีข้อความ Powered by Redmi พอแกะซองออกจะเห็นว่ามีเข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ดแนบมาให้ด้วย ภายในมีคู่มือ Quick Start Guide และแถมเคสใสมาให้ 1 อัน
ชั้นถัดมาจะเจอกับสมาร์ทโฟน Redmi Note 11 นอนอยู่ในซองพลาสติก พร้อมบอกจุดเด่นไว้ 4 รายการ ได้แก่ ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680, จอแสดงผล 90Hz FHD+ AMOLED พร้อมลำโพงคู่, แบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W และ ระบบกล้องหลัง 4 ตัว 50MP AI Quad Camera
หลังจากแกะซองที่ห่อหุ้มตัวเครื่อง จะพบว่า Redmi Note 11 ได้รับการติดฟิล์มป้องกันหน้าจอมาให้แล้ว
ชั้นล่าสุดเป็นช่องเก็บสายชาร์จแบตเตอรี่ USB Type-C และอีกช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 33W Power Adapter
ดีไซน์ใหม่สวยล้ำ
Redmi Note 11 ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม ให้ภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย เน้นสัมผัสสบายมือและจับถือได้อย่างสะดวก ด้วยความบางเพียง 8.09 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 179 กรัม ถึงแม้จะมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh โดยผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Gray, Twilight Blue และ Star Blue
ทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Twilight Blue มารีวิว มีพื้นผิวด้านเช่นเดียวกับสี Graphite Gray ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก ขณะที่สี Star Blue ใช้เทคนิคไล่ระดับสี และมีพื้นผิวแวววาวราวกับแสงดาว แต่ไม่ว่าจะเลือกสีอะไร ก็ได้รับการผลิตอย่างมีคุณภาพเท่าเทียมกัน และยังถูกสร้างมาให้ป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP53 หมายความว่า Redmi Note 11 สามารถกันฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดีในระดับ 5 (ระดับสูงสุดอยู่ที่เลข 6) และทนน้ำได้ในระดับ 3 ป้องกันแค่ละอองน้ำหรือสายฝนเบาๆ เท่านั้น ไม่สามารถนำไปแช่เล่นในน้ำได้แบบ IP68
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผลแบบ DotDisplay ซึ่งหมายถึงมีการเจาะหลุมเพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ โดยมีพื้นที่ขอบจอบางรอบด้าน โดยใช้จอแสดงผล AMOLED ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.43 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
ขอบจอแสดงผลด้านบนมีความบางกว่าขอบจอด้านอื่น แต่ก็มียังมีพื้นที่พอสำหรับติดตั้งลำโพงหูฟังไว้ในแนวตะแกรง (อยู่เหนือกล้องหน้า)
ด้านหลังจะพบกับระบบกล้อง 4 ตัว 50MP AI Quad Camera พร้อมแฟลช LED วางอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขอบมุมโค้งมน ส่วนล่างจะเห้นว่ามีการติดโลโก้ Redmi ในแนวตั้ง
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.09 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มปรับระดับเสียง ไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์ โดยปุ่มเพาเวอร์ยังมีการซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมการ์ด (Dual Nano-SIM) และยังมีช่องสำหรับใส่การ์ด microSD ได้อีกช่อง รองรับความจุสูงสุด 1TB
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ลำโพงสเตอริโอ, อินฟราเรด และ ไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างประกอบไปด้วย ลำโพง (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน), พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ไมโครโฟนตัวหลัก
จอแสดงผล AMOLED รีเฟรช 90Hz
Redmi Note 11 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.43 นิ้ว ให้ภาพคมชัดสีสันสดใสด้วยมาตรฐานสี DCI-P3 และยังมีความสว่างสูงสุด 1000 นิต มองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจนแม้ใช้งานกลางแจ้ง
จอแสดงผลของ Redmi Note 11 ยังรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 180Hz ช่วยให้การสัมผัสหน้าจอมีความลื่นไหลและแม่นยำ เหมาะสำหรับการเล่นเกม อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ ช่วยให้การรับชมภาพยนตร์และเล่นเกมมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
Redmi Note 11 ได้รับเทคโนโลยียืนยันตัวตนทาง Biometrics ทั้ง 2 วิธี ได้แก่ สแกนลายนิ้วมือ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือรวมไว้กับปุ่มเพาเวอร์ที่ขอบด้านข้าง สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงที่ COVID-19 ยังคงระบาด ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันอยู่ตลอดเวลา
อีกวิธีคือการสแกนใบหน้า (AI Face Unlock) อาศัยเทคโนโลยี AI มาช่วยในการจดจำใบหน้า ผสานการทำงานร่วมกับกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเมื่ออยู่ภายในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัว ที่ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย
กล้องหลัง 3 ตัว 50MP
สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในระดับเดียวกัน ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัว แต่ Redmi Note 11 จัดมาให้ถึง 4 ตัว เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีกล้อง ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide มุมมองกว้างถึง 118 องศา, กล้อง Macro ช่วยถ่ายภาพในระยะใกล้ได้ครบทุกรายละเอียด และ กล้อง Depth ใช้เซ็นเซอร์สำหรับถ่ายโหมด Portrait ให้มีมิติดูเป็นธรรมชาติ
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 118 องศา
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
เปิดเข้ามาในแอปกล้องของ Redmi Note 11 จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Pro, Video, Photo, Portrait และเมื่อแตะไปที่ More จะพบกับโหมดถ่ายภาพที่เหลือ ได้แก่ Night, 50M, Short video, Panorama, Document, Slow motion, Time-lapse และ Edit
โหมด Photo สามารถซูมแบบดิจิทัล ได้ในช่วง 1 – 10 เท่า สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนภาพถ่ายได้ ตั้งเวลาถ่ายภาพล่วงหน้าอัตโนมัตินานสูงสุด 10 วินาที และมีโหมด Macro มาให้ใช้งานด้วย สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้
โหมดภาพสะท้อนคาเลโดสโคป (Kaleidoscope) เป็นเอฟเฟกต์ที่ซ่อนอยู่ในโหมด Short video ทำให้วิดีโอออกมาเหมือนสไตล์กล้อง Kaleidoscope โดยมีเอฟเฟกต์ให้เลือก 6 แบบโหมดสุดฮิตอย่าง Vlog ที่จะทำการถ่ายภาพทุกวันเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น
โหมดถ่ายภาพกลางคืน Night Mode 2.0 ช่วยให้กล้องหลังของ Redmi Note 11 ถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยกล้องหลักที่มีขนาดรูรับแสง f/1.8
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลัง ของ Redmi Note 11 สามารถซูมแบบดิจิทัล ได้สูงสุด 6 เท่า รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และยังมีโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Slow motion กับ Time-lapse มาให้ใช้งานด้วย
กล้องหน้า 13MP
Redmi Note 11 ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนจอแสดงผล โดยมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 รองรับโหมดถ่ายภาพต่างๆ แบบเดียวกับกล้องหลัง โดยเฉพาะโหมด Portrait ที่ช่วยให้ภายเซลฟี่ดูดีเหมือนถ่ายจากกล้องโปร และโหมด Short video ก็ช่วยให้วิดีโอที่ถ่าายจากกล้องหน้ามีความสนุกสนานน่าสนใจมากขึ้น ส่วยการถ่ายวิดีโอปกติ รองรับความละเอียดสูงสุด 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Snapdragon 680
Redmi Note 11 ใช้ชิปประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตร Qualcomm Snapdragon 680 ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz (Cortex-A73 2.4GHz Quad-core + Cortex-A53 1.9GHz Quad-core) พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น และด้วยจอแสดงผลที่ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส 180Hz ก็ช่วยให้ควบคุมเกมได้อย่างลื่นไหลและแม่นยำ
ด้านความจำของ Redmi Note 11 มี 3 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 4GB + ROM 64GB, RAM 4GB + ROM 128GB และสูงสุด RAM 6GB + ROM 128GB ทั้ง 3 ตัวเลือก ยังสนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 1TB เรียกได้ว่ามีพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่างจุใจ
แบตเตอรี่ 5,000mAh ชาร์จเร็ว 33W
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่โดยรวมให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 20% อีกทั้ง Redmi Note 11 ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh จึงให้อายุการใช้งานนานข้ามวันได้อย่างสบาย และเมื่อถึงเวลาต้องเติมพลัง ก็พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Pro Fast Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 ถึง 100% ภายในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และยังแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 33W Power Adapter มาให้ในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่ม
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
สมาร์ทโฟน Redmi Note 11 ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างรอบด้านด้วยความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ให้สีสันคมชัดและยังตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรช 90Hz ชิปประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตร Snapdragon 680 ของ Qualcomm ก็ถือเป็นชิประดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม และยิ่งมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ก็ส่งผลให้ Redmi Note 11 รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงได้ตลอดทั้งวัน โดยที่ไม่ต้องรอชาร์จนานเกินไป เพราะสนับสนุนชาร์จเร็ว 33W
นอกจากนี้ Redmi Note 11 ยังมาพร้อมระบบกล้องหลังคุณภาพสูงทั้ง 4 ตัว โดยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพออกมาอย่างสวยงามทั้งสภาพแสงตอนกลางวันและยามค่ำคืน อีกทั้งยังมีกล้อง Ultra Wide, Macro และ Depth ช่วยให้ถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพมุมกว้างพิเศษ ภาพระยะใกล้วัตถุ และภาพถ่ายบุคคลหน้าชัดหลังละลาย สรุปแล้ว Redmi Note 11 ถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาสุดคุ้มที่มีความสามารถครบเครื่องอีกรุ่นหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางในราคาเป็นมิตร
Redmi Note 11 เปิดราคาทางการในประเทศไทยเพียง 6,299 บาทในรุ่นความจุ 4GB+128GB และราคา 6,999 บาทในรุ่นความจุ 6GB+128GB เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 วางจำหน่ายที่ Xiaomi stores ทุกสาขาและร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 5-28 กุมภาพันธ์ 2565 จะได้รับ Canvas Tote bag มูลค่า 590 บาท