realme Band 2 สมาร์ตแบรนด์อัจริยะรุ่นใหม่ของทาง เรียลมี ที่เปิดตัวมาในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา มีจุดเด่นที่หน้าจอใหญ่ 1.4 นิ้ว รองรับกีฬาได้ 90 โหมด วัดระดับออกซิเจนในเลือด การเต้นหัวใจ กันน้ำลึกระดับ 50 เมตร มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย ใครที่กำลังพิจารณาสมาร์ตแบรนด์อัจริยะรุ่นนี้อยู่ มาติดตามรีวิวจากทีมงาน @flashfly เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเพิ่มเติมกันได้เลย
สเปก realme Band 2
- ขนาด 259.86 x 24.67 x 12.15 มม.
- น้ำหนัก 27.3 กรัม
- หน้าจอสีแบบ TFT-LCD ขนาดใหญ่ 1.4 นิ้ว มอบความละเอียดสูง 167×320 พิกเซล ความสว่างหน้าจอสูงสุด 500nit
- สั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัส
- รองรับ 90 Sport Mode
- ฟังก์ชันการควบคุมอัจฉริยะ Smart AIoT Control
- วัดระดับออกซิเจนในเลือด
- วัดอัตราการเต้นหัวใจ
- กันน้ำลึกระดับ 50 เมตร
- แบตเตอรี่ 204mAh ใช้งานได้ยาวนาน 12 วัน
- ราคา 1,499 บาท
แกะกล่อง
กล่องของ realme Band 2 มาในกล่องสีเหลือขนาดกะทัดรัด พร้อมกับรูปตัวสมาร์ตแบรนด์วางบนหน้ากล่อง ด้านข้างจะมีการบอกจุดเด่นไว้ อาทิ หน้าจอใหญ่ 1.4 นิ้ว, วัดระดับออกซิเจนในเลือด การเต้นหัวใจ, รองรับกีฬาได้ 90 โหมด, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 12 วัน, กันน้ำลึกระดับ 50 เมตร และรองรับ Smart AIoT Control
ส่วนด้านหลังกล่องจะมาพร้อมกับรายละเอียดผลิตภัณฑ์ภาษาไทย
เมื่อเปิดออกมา ก็จะพบกับ realme Band 2 วางอยู่ด้านในกล่อง เมื่อภานในกล่องสีขาวก็จะมาพร้อมกับสายชาร์จแบบแม่เหล็ก รวมถึงคู่มือการใช้งานและคู่มือการรับประกัน
ดีไซน์
realme Band 2 มาในหน้าจอสีแบบ TFT-LCD ขนาด 1.4 นิ้ว มีดีไซน์หน้าจอเป็นแบบแนวตั้ง มีความละเอียด 167×320 พิกเซล ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 500nit ให้สีสันที่สวยงามและมองเห็นหน้าจอชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง และเมื่อเทียบกับ realme Band รุ่นแรกที่มากับหน้าจอเพียง 0.96 นิ้วและปุ่มกดเพื่อสั่งงานต่างๆ จะเห็นได้ชัดว่า realme Band 2 มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่กว่าและสัมผัสอย่าง Full-Screen แถมน้ำหนักเบา27.3 สวมใส่สบายตลอดการใช้งาน
ขอบตัวเรือนมาในสีเทามีความโค้งมนไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ เพราะการสั่งงานผ่านการสัมผัสหน้าจอ
ด้านหลังตัวเรือนมาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งรองรับการระดับออกซิเจนในเลือด ซึ่งมีการวางในรูปแบบเนวตั้งเหมือนกับตัวเรือน ส่วนสายใช้วัสดุ TPU สีดำ ขนาด 18 มม. โดยเป็นแบบเข็มขัดปรับระดับได้เหมือนกับสายนาฬิกาทั่วไป และสามารถถอดออกได้ง่ายเพียงแค่ดึงสลักที่ด้านหลัง
และบนสายก็มีเขียนคำว่า DARE TO LEAP สโลแกนของ realme ไว้อย่างสวยงาม ซึ่งถ้าไม่ได้กระทบแสงหรือไม่ได้สังเกตุก็จะมองไม่เห็นคำนี้บนสาย
เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน realme Link
ก่อนที่จะใช้งานจะต้องทำการเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชัน realme Link บนสมาร์ทโฟนเสียก่อน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store สำหรับ iOS และ Google Play Store สำหรับ Android โดยจะต้องทำการสแกน QR Code เพื่อทำการจับคู่ให้เรียบร้อย
realme Link จะเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ AIoT ของทาง realme เพื่อจัดการและควบคุมการทำงานต่างๆ รวมไปถึงการดูข้อมูลต่างๆ ของแต่ละอุปกรณ์ และข้อมูลของสมาร์ทแบนด์รุ่นนี้ได้ในเมนูสุขภาพ
ควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอสัมผัส
realme Band 2 จะไม่มีปุ่มด้านข้างตัวเรือน โดยสามารถสั่งงานและควบคุมการใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการแตะเพื่อเข้าเมนู เลื่อนขึ้น เลื่อนลง เพื่อดูเมนูต่างๆ และปัดจากด้านบนลงมาเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ และมีปุ่มย้อนกลับแบบสัมผัสอยู่ใต้หน้าจอแสดงผล
realme Band 2 ยังสามารถเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้ โดยมีให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเลือกได้จากแอปพลิเคชัน realme Link
รองรับโหมดออกกำลังกาย 90 โหมด
realme Band 2 มาพร้อมกับโหมดออกกำลังกายมากถึง 90 โหมด โดยการออกกำลังกายหลักๆ อย่างการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักยาน, ว่ายน้ำ, ฝึกเทรนนิ่ง, ฟิตเนส นั้นรองรับการติดตามและบันทึกข้อมูลการออกำลังกายแบบรายวันและรายสัปดาห์ ซึ่งสามารถดูข้อมูลแบบระเอียดผ่านแอปพลิเคชัน realme Link
นอกจากนี้ realme Band 2 ยังมีการตรวจจับก้าวเดิน, แคลอรี่ที่เผาผลาญ, เวลาการออกกำลังกาย และระยะเวลาการยืนในแต่ละวัน รวมถึงการแจ้งเตือนเมื่อเรานั่งอยู่กับที่นานๆ เพื่อให้มีการขยับตัว เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะกับชาวออฟฟิศที่เสี่ยงต่อการเป็นออฟฟิศซินโดรมจากการนั่งอยู่กับที่นานๆ
วัดระดับออกซิเจนในเลือด วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
realme Band 2 มาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับความแม่นยำขั้นสูง ทำให้สามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือดแบบเรียลไทม์ขณะสวมใส่เพื่อตรวจสอบ “ภาวะบกพร่องออกซิเจน” ซึ่งจะสะท้อนถึงระบบทางเดินหายใจโดยทั่วไป ค่าที่วัดออกมายิ่งสูงจะยิ่งดี หากใครที่มีค่าระดับออกซิเจนในเลือดต่ำจะบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสูง
และยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถกำหนดช่วงเวลาตรวจจับได้ตั้งแต่ 5 นาที/ 10 นาที/ 20 นาที/ 30 นาที ได้ตามต้องการ ซึ่งสามาถดูข้อมูลในรูปแบบวัน, สัปดาห์, เดือน และปี ได้จากในแอปพลิเคชัน realme Link จะทำให้เห็นกราฟของข้อมูล
ติดตามการนอนหลับ
รองรับการตรวจจับการนอนหลับพร้อมบันทึกข้อมูลการหลับของผู้ใช้เพียงแค่สวมใส่ realme Band 2 เข้านอน โดยระบบจะจับทำการตรวจจับการนอนหลับแบบอัตโนมัติเพื่อนำมาวิเคราะห์การนอนหลับว่ามีคุณภาพหรือไม่ และสามารถดูรายละเอียดคุณภาพการนอนหลับของเราได้เพิ่มเติมที่แอปพลิเคชัน realme Link ซึ่งมีการวิเคราะห์การหลับลึก, หลับตื้น
การเชื่อมต่อ AIoT
realme Band 2 สามารถสั่งงานอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง ลำโพง หลอดไฟ เครื่องชั่งน้ำหนัก กล้องวงจรปิด หรือใช้ควบคู่กับสมาร์ทโฟนเพื่อเปิด-ปิดเพลงหรือถ่ายรูปเพื่อทำหน้าที่เป็นรีโมทก็ได้เช่นกัน
กันน้ำระดับ 50 เมตร
นอกจากนี้ realme ได้พัฒนาและเพิ่มการป้องกันการซึมผ่านของน้ำจาก IP68 เป็น 5ATM ทำให้สามารถกันน้ำลึกระดับ 50 เมตร ดังนั้น ไม่ว่าจะเล่นกีฬาที่เหงื่อออกมากหรือว่ายน้ำทั่วไป ก็สามารถสวมใส่ realme Band 2 ได้อย่างไร้กังวล พร้อมออกไปทำกิจกรรมที่คุณรักได้อย่างมั่นใจ
แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน
realme Band 2 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 12 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล หากมีการแจ้งเตือนเยอะ หรือติดตามการออกกำลังกายนานๆ อายุการใช้งานก็จะลดหลั่นลงมา แต่ก็ไม่ต้องชาร์จแบบวันต่อวันให้วุ่นวาย
สำหรับการชาร์จก็ใช้แท่นชาร์จแม่เหล็กที่แถมมาในกล่องติดหันเขี้ยวทองแดงให้ตรงแล้วติดเข้ากับตัวเรือนได้เลย ส่วนปลายสายก็จะเป็น USB ซึ่งสามารถเสียบชาร์จผ่านอะแดปเตอร์, พาวเวอร์แบงค์ หรือคอมพิวเตอร์ก็ได้
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตแบนด์หรือนาฬิกาเพื่อตรวจจับสุขภาพต่างๆ รวมไปถึงการตรวจจับก้าวเดิน, แคลอรี่ที่เผาผลาญ ตรวจจับการออกกำลังกาย realme Band 2 เป็นสมาร์ตแบรนด์อัจริยะที่น่าสนใจ มีจุดเด่นที่หน้าจอสีขนาดใหญ่ 1.4 นิ้ว สั่งงานผ่านการสัมผัสหน้าจอ รองรับกีฬาได้ 90 โหมดครอบคลุมการออกกำลังกายหลักๆ วัดระดับออกซิเจนในเลือด การเต้นหัวใจ ตรวจจับก้าวเดิน แจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน กันน้ำลึกระดับ 50 เมตร และยังมีราคาไม่แพง เพียง 1,499 บาท