ก่อนหน้าที่ Apple จะทำการตัดช่องต่อชุดูฟัง 3.5 มม. ใน iPhone 7 ปี 2016 ต่างก็มีข่าวลือออกมามากมาย รวมถึงการตัดพอร์ต Lightning ออกไปด้วย จนมาไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวกับ iPhone ไร้พอร์ตมากขึ้นเรื่อยๆ และในปี 2020 ที่ผ่านมา Apple ได้นำ MagSafe เข้ามาใช้งานใน iPhone 12 และทำให้ iPhone 13 นั้นมีข่าวลือว่าจะไม่ใช้พอร์ตอีกต่อไป แต่แล้วก็ยังมีการใช้ Lightning อยู่ จนมาถึง iPhone 14 รุ่นปี 2022 ที่ก็ยังมีข่าวลือว่าจะไม่มีการใช้พอร์ตใดๆ อีกต่อไป แต่เราก็มีเหตุผลที่ว่า Apple จะยังคงใช้งานพอร์ตต่อไปใน iPhone ของปี 2022 นี้
การออกแบบ iPhone ที่ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตต่างๆ น่าจะเป็นเป้าหมายระยะยาวของ Apple เพราะเนื่องจากจะทำให้ตัวเครื่องดูเรียบหรู สะอาดตา แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญอยู่ก็คือ การชาร์จ และการโอนถ่ายข้อมูลแบบไร้สาย แน่นอนว่าต้องมองข้าม Bluetooth ไปได้เลย เพราะมีข้อจำกัดทางด้านแบนด์วิดท์ ซึ่งต้องหาวิธีการที่ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลทำได้รวดเร็วกว่า ไม่อย่างนั้นการนำพอร์ตออกจะเป็นการก้าวถอยหลังในเรื่องของการโอนถ่ายข้อมูล
อันที่จริงก็ถือว่า Apple เริ่มมีการพัฒนาเข้าใกล้เข้าเป็นจริงขึ้นมาแล้ว ซึ่งทาง MacRumors ได้ค้นพบว่า Apple Watch Series 7 นั้นมาพร้อมกับโมดูลที่ช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สายได้ถึง 60.5GHz เมื่อวางบนแท่นแม่เหล็กที่รองรับ ทาง Apple อาจไม่โฆษณาความสามารถนี้ เพราะมีไว้สำหรับใช้ภายในเท่านั้น เช่น พนักงาน Apple Store อาจใช้งานเพื่อกู้คืน Apple Watch แบบไร้สาย แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการถ่ายโอนข้อมูลแบบไร้สายแบบนี้จะมีความเร็วมากขนาดไหน แต่ก็ถือว่ามีความเร็วอยู่พอสมวรเพราะ การถ่ายโอนข้อมูลผ่าน USB 2.0 นั้นความเร็วสูงถึง 480 Mbps
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้มีแค่เรื่องของการโอนถ่ายข้อมูลเท่านั้น การที่ไม่มีพอร์ต นั่นหมายความว่าการเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับคอมพิวเตอร์ในกรณีที่ iPhone ไม่ตอบสนองก็จะไม่สามารถทำได้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใช้งานจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งาน
ในเรื่องของการชาร์จไฟก็ยังคงเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ด้วยเช่นกัน หาก Apple ได้มีการพัฒนา MagSafe 2.0 เวอร์ชันใหม่ที่สามารถชาร์จได้เร็วขึ้นกว่าเดิม (15W) ก็น่าจะทำให้ก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้บ้าง แต่ทว่าคู่แข่งก็มีการชาร์จไร้สายที่เร็วกว่ามาก รวมถึง Eric Ravenscraft จาก Debugger ได้กล่าวไว้ว่า การชาร์จไร้สายนั้นใช้พลังงานมากกว่าการชาร์จแบบมีสายถึง 47% ในการชาร์จไฟที่ได้ในปริมาณที่เท่ากัน ซึ่งค่อนข้างสวนทางกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ Apple
และ Apple ยังคงมีประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดของสหภาพยุโรปที่พิจารณาออกมาในปี 2020 เกี่ยวกับการกำหนดพอร์ตสากลในอุปกรณ์มือถือทั้งหมด โดยทาง Apple นั้นได้ให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนพอร์ต ก็จะทำให้สาย Lightning ที่มีอยู่หลายล้านสายทั่วโลกหมดประโยชน์ และอาจจะทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากทันที
จากอุปสรรคดังกล่าว จึงมีความเห็นว่า iPhone 14 สมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปของ Apple จะยังคงมาพร้อมกับพอร์ต Lightning และ MagSafe เช่นเคย จนกว่าจะมีการแก้ปัญหาในการการชาร์จแบบไร้สายที่ใช้งานได้จริง และการออกแบบ iPhone แบบไม่มีพอร์ตที่เวลาเครื่องมีปัญหาแล้วสามารถแก้ไขเองได้
ที่มา MacRumors