ผ่านไปแล้วกับงาน OPPO INNO DAY 2021 ที่มาด้วยคอนเซ็ปท์ Reimaging the Future จัดขึ้นที่เซินเจิ้น ประเทศจีน และในวันนี้ทาง OPPO ประเทศไทย ก็ได้จัดงาน OPPO INNO DAY 2021 Offline Experience Session โดยทางทีมงาน @flashfly ก็ได้รับเกียรติเข้าร่วมงาน เลยได้มีโอกาสเก็บภาพตัวเครื่อง OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟลกชิพจอพับ และ OPPO Air Glass แว่นตาอัจริยะ มาฝาก
OPPO Find N สมาร์ทโฟนแฟลกชิพจอพับรุ่นแรกของ OPPO
OPPO Find N เป็นสมาร์ทโฟนแฟลกชิพจอพับรุ่นแรกของ OPPO ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามากกว่า 4 ปี และผ่านการออกแบบมาหลากหลาย และมีรุ่นต้นแบบถึง 6 แบบ จนมาลงตัวกับดีไซน์ที่ใช้ในการเปิดตัวนี้ โดยมีหน้าจอด้านนอก 5.49 นิ้ว และเมื่อกางออกมามีหน้าจอขนาด 7.1 นิ้วด้านใน รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz โดยจอแสดงผลประกอบด้วยเลเยอร์ของ Flexion UTG (กระจกบางพิเศษ) ที่บางเพียง 0.03 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับกระจกสำหรับสมาร์ทโฟนทั่วไปจะหนาถึง 0.6 มิลลิเมตร ทำให้หน้าจอสามารถโค้งงอได้อย่างง่ายดาย พร้อมมีความทนทานอย่างมาก
ขนาดของตัวเครื่องสามารถจับมือเดียวได้สะดวกทั้งการใช้งานแบบหน้าจอด้านนอกและแบบกางหน้าจอเพื่อใช้หน้าจอใหญ่ โดยเมื่อเปลี่ยนจากการใช้งานหน้าจอด้านนอกในแนวตั้ง กางตัวเครื่องออกมาหน้าจอด้านในจะเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบแนวนอน (landscape mode) ทันที ทำให้การรับชมคลิปวิดีโอ, ภาพยนตร์ เล่นเกม หรืออ่านหนังสือ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวเครื่องเพิ่มเติม
Flexion Hinge หรือบานพับของ OPPO Find N ประกอบด้วยส่วนประกอบมากมายถึง 136 ชิ้น ซึ่งมีความละเอียดสูงถึง 0.01 มม. และใช้ดีไซน์บานพับแบบ water-drop hinge ในการแก้ไขปัญหารอยพับบนหน้าจอ ซึ่งหน้าจอด้านในของ OPPO Find N นี้ แทบจะมองไม่เห็นรอยพับเลยและยังพับหน้าจอได้เรียบสนิท แทบจะไม่เห็นแสงลอดออกมาจากตรงกลางของหน้าจอ
การพับหน้าจอก็ทำได้ไม่ยาก ซึ่งตัวเครื่องก็มีความแข็งแรงแต่เวลาพับหน้าจอจะไม่ต้องออกแรงเยอะ แค่ผลักนิดเดียวหน้าจอก็พับลงได้ง่ายแล้ว และจากการตรวจสอบโดย TUV หน้าจอ Serene Display จะสามารถพับได้มากกว่า 200,000 ครั้ง ซึ่งถ้าหากมีการพับหน้าจอวันละ 100 ครั้ง จะสามารถใช้งานได้นาน 5.4 ปีเลยทีเดียว
ด้านข้างของตัวเครื่องจะมีการวางปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่องไว้ หากใช้งานในรูปแบบหน้าจอพับปุ่มต่างๆ จะวางอยู่ฝั่งเดียวกัน แต่เมื่อกางหน้าจอออกมาปุ่มทั้ง 2 นี้ก็จะอยูคนละฝั่ง เพื่อให้เวลาจับสองมือก็จะใช้นิ้วมากดปุ่มได้ง่ายขึ้น
ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมาพร้อมกับลำโพงสปีกเกอร์ 2 จุด โดยจะวางไว้ข้างละฝั่ง และมีช่องถาดซิมการ์ด และพอร์ต USB-C พร้อมกับรูไมโครโฟนวางอยู่ข้างๆ
OPPO Find N มาพร้อมกับระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX 766 ), กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
OPPO Find N ยังใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Qualcomm Snapdragon 888 ความจำ RAM 12 GB จับคู่กับ ROM 512 GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W SuperVOOC Flash Charge (ชาร์จไร้สาย 15W AirVOOC) ทำงานบนพื้นฐาน Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12
ซึ่ง OPPO Find N ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์การแบ่งหน้าจอเพื่อทำงาน 2 แอปพลิเคชันพร้อมๆ กันมาให้ และสามารถเลื่อนปรับขนาดไปทางซ้ายและขวาได้ง่ายเช่นกัน
ด้วยหน้าจอที่พับได้ ทำให้เราสามารถวางตัวเครื่องเพื่อใช้งานถ่ายภาพหรือเซลฟี่ได้ง่ายกว่าเดิม โดยหน้าอินเทอร์เฟซก็จะมีการปรับรูปแบบอัตโนมัติเมื่อเรามีการพับหน้าจอเข้ามา
OPPO Air Glass แว่นตาอัจริยะ
OPPO Air Glass เป็นอุปกรณ์ aR (assisted Reality) แว่นตาอัจริยะที่ทีดีไซน์เรียบง่าย ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากปีกของจักจั่นที่ฉีกกฏเลนส์รูปแบบเดิมๆ มีน้ำหนักเบาเพียง 30 กรัม
ซึ่งเวลาใช้งานจะเป็นการติดแบบแม่เหล็กเข้ากับตัวแว่นตาเพื่อทำการสวมใส่ โดยด้านในจะมีแถบแม่เหล็กสำหรับดูดติดกับกรอบแว่นตาและมีลำโพงสปีกเกอร์อยู่ใกล้บริเวณหูของผู้สวมใส่ โดยการเชื่อมต่อในช่วงแรกจะทำการเชื่อมกับสมาร์ทโฟน OPPO และ OPPO Watch ก่อนเท่านั้น
แว่นตาที่ใช้ร่วมกันก็มีดีไซน์ที่บางเบา พร้อมกับแถบแม่เหล็กตรงขาแว่นเพื่อดูดติดเข้ากับ OPPO Air Glass ไม่ให้หลุดหรือตกหล่นในขณะใช้งาน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ที่ดวงตาข้างซ้ายหรือข้างขวา
OPPO Air Glass จะมาพร้อมกับแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก เพียงแค่วางลงไปแท่นชาร์จก็จะทำการชาร์จไฟได้ทันที โดยแท่นชาร์จนี้จะชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB-C
OPPO Air Glass จะประกอบไปด้วย Spark Micro Projector ที่ OPPO พัฒนาขึ้นมาเอง, Micro LED และหน้าจอแสดงผล Optical waveguide โดยเวลาสวมใส่จะเห็นตัวอักษรต่างๆ ลอยขึ้นมาให้เห็น
OPPO Air Glass สามารถสั่งงานผ่านการสัมผัสจาก, สั่งด้วยเสียง, การเคลื่อนไหวของศรีษะ และการเคลื่อนไหวของมือ มาพร้อมกับฟังก์ชันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการบอกสคริปต์ หรือการแปลภาษาเป็นข้อความได้แบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย OPPO ได้แก่ Weather, Calendar, Health, Teleprometer และ Translation รวมถึงแอปฯ นำทาง
การวางจำหน่าย
OPPO Find N จะวางจำหน่ายในประเทศจีนในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และ OPPO Air Glass จะวางจำหน่ายในประเทศจีนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ซึ่งจะวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไรนั้น รอติดตามข่าวสารจากทาง www.flashfly.net ได้เลย