iPad mini รุ่นที่ 6 ได้รับการเปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้รับการออกแบบใหม่หมดนับตั้งแต่มีรุ่นแรกออกมาในปี 2012 อีกทั้งยังมาพร้อมชิปรุ่นใหม่ที่ทรงพลัง รองรับการทำงานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และพร้อมวางจำหน่ายทางการแล้ว โดยมี 5 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบ
iPad mini รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมจอแสดงผล Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่า iPad mini ทุกรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ด้วยดีไซน์ขอบจอที่บางลงกว่าเดิม ทำให้มิติตัวเครื่องโดยรวมแทบจะไม่ต่างจากรุ่นก่อนที่มีขนาดหน้าจอ 7.9 นิ้ว ทำให้ขนาดจอภาพที่ใหญ่ขึ้นไม่ได้เพิ่มปัญหาในการพกพา
iPad mini รุ่นที่ 6 ยังรองรับการทำงานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่สามารถแนบติดกับขอบด้านข้างด้วยแม่เหล็กเพื่อพกพาหรือชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายได้ ซึ่งสะดวกกว่า Apple Pencil รุ่นแรกอย่างมาก ที่ต้องพกพาแยกต่างหากและยังมีวิธีชาร์จที่ไม่สะดวกเท่าไร
Touch ID ที่หลายคนชื่นชอบ
ถึงแม้ iPad mini รุ่นที่ 6 จะไม่มีปุ่มโฮมใต้หน้าจออีกต่อไปแล้ว แต่ Touch ID ที่หลายคนชื่นชอบยังไม่ได้หายไปไหน เพราะถูกย้ายไปรวมกับปุ่มเพาเวอร์ที่ด้านบน ตามแนวทางของ iPad Air รุ่นที่ 4 และยังใช้เซ็นเซอร์ Touch ID ใหม่ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม โดยที่ยังทำงานได้อย่างแม่นยำไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อก ชำระค่าบริการต่างๆ ผ่าน Apple Pay
ชิป A15 Bionic ไม่เพียงแค่ทรงพลัง
iPad mini รุ่นที่ 6 ได้รับชิปประมวลผล A15 Bionic แบบเดียวกับที่พบใน iPhone 13 series มอบประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 80% และยังมั่นใจได้ว่า iPad mini รุ่นใหม่ จะรองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆ ไปอีกหลายปี เรียกได้ว่า iPad mini รุ่นที่ 6 จะทำงานได้ดีอย่างสมบูรณ์แบบในอีกหลายปีข้างหน้า
รองรับฟีเจอร์ Center Stage
ฟีเจอร์ Center Stage หรือ จัดให้อยู่ตรงกลาง เริ่มนำมาใช้ครั้งแรกใน iPad Pro รุ่นชิป M1 ก่อนขยายมายัง iPad รุ่นใหม่ๆ ในปีนี้ โดยทำงานร่วมกับกล้องหน้า Ultra Wide ที่มีมุมมองภาพ 122 องศา, ชิป A15 Bionic และ Machine Learning ช่วยแพนกล้องให้ผู้ใช้งานอยู่ในเฟรมอย่างสมบูรณ์แบบในระหว่างแชทบน FaceTime, Zoom และแอปอื่นๆ และยังขยายมุมมองโดยอัตโนมัติ เมื่อมีอีกคนเข้ามาอยู่ในเฟรม
iPad mini รุ่นที่ 6 ยังสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียด 4K ด้วยกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และรองรับ Smart HDR 3 เหมือนกับ iPhone 12
พร้อมใช้งาน 5G
iPad mini รุ่น Wi-Fi + Cellular ในปีนี้ รองรับ 5G ซึ่งหมายถึงมีความเร็วในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่รองรับสูงสุด 4G โดย iPad mini รุ่นที่ 6 รองรับ 5G แบบ sub-6 GHz สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 3.5Gbps (จากการทดสอบในห้องทดลอง) มั่นใจได้ว่าการสตรีมภาพยนตร์หรืออัพโหลดวิดีโอผ่านระบบ Cellular จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ iPad mini รุ่นที่ 6 ยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ตเชื่อมต่อ iPad mini รุ่นที่ 6 USB-C จากเดิมที่เป็น Lightning สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5Gbps เร็วกว่าในรุ่นก่อนหน้าถึง 10 เท่า อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกได้กว้างขวางมากขึ้น รวมถึงต่อจอภาพภายนอกความละเอียดสูงสุดถึง 4K
ทั้งนี้ iPad mini รุ่นที่ 6 มีวางจำหน่ายในไทยแล้ว ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีชมพู สีสตาร์ไลท์ สีม่วง และ สีเทาสเปซเกรย์ สามารถอ่านรีวิว iPad mini รุ่นที่ 6 ได้ที่นี่
ที่มา – 9to5Mac