Nikon พร้อมปฏิวัติวงการกล้องมิเรอร์เลสระดับเรือธง ด้วยการเปิดตัว Nikon Z9 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม ที่ได้รับการออกแบบมาให้อยู่เหนือความคาดหมาย ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้น คุณสมบัติสุดล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ใช้งาน
Nikon Z9 ช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างง่ายดาย ด้วยจอภาพแบบปรับเอียงได้ 4 แกนในแนวตั้งและแนวนอน พร้อมฟีเจอร์ตรวจจับวัตถุได้พร้อมกันมากที่สุดในโลกในบรรดากล้องมิเรอร์เลส พร้อมระบบออโต้โฟกัสที่แม่นยำสูงสุด รวมถึงช่องมองภาพ Real-Live ที่ไม่มี Blackout และยังนับเป็นครั้งแรกที่รองรับการบันทึกวิดีโอ 8K เป็นเวลานานสูงสุด 125 นาที
Nikon Z9 มาพร้อมกับระบบการตรวจจับบุคคล สัตว์ และยานพาหนะต่างๆ ได้หลากหลายมากที่สุดในโลก (ในกลุ่มกล้องมิเรอร์เลส ตามผลการวิจัยค้นคว้าของ Nikon วันที่ 28 ตุลาคม 2021) อีกทั้งยังติดตามวัตถุที่หลากหลายได้ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอได้รวมกัน 9 วัตถุ โดยไม่จำเป็นต้องสลับไปมาเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า เมื่อเลือกโหมดอัตโนมัติ อัลกอริทึมจะเลือกวัตถุหลักโดยอัตโนมัติด้วยการพิจารณาข้อมูลอย่างครบถ้วน เช่น ขนาดวัตถุ ตำแหน่ง defocus เป็นต้น
Nikon Z9 เป็นกล้องมิเรอร์เลสรุ่นแรกของ Nikon ที่รองรับระบบโฟกัสติดตามวัตถุแบบ 3D-tracking สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพช่วงเวลาในเสี้ยววินาทีได้โดยไม่มีอุปสรรค ตั้งแต่นักวิ่งที่เร็วที่สุดไปจนถึงรถแข่ง และด้วยการประมวลผลความเร็วสูงจาก EXPEED 7 ใหม่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับวัตถุ แม้แต่การบันทึกปฎิกิริยาของผู้ชมในชั่วพริบตาก็กลายเป็นเรื่องง่าย
Nikon Z9 ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบออโต้โฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติที่เพิ่มขึ้นเป็น 405 จุด และพัฒนาการจับออโต้โฟกัสและการติดตามวัตถุ แม้แต่วัตถุขนาดเล็กมากที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ การตรวจจับวัตถุใช้งานได้กับออโต้โฟกัสพื้นที่กว้าง (S) และ (L), ออโต้โฟกัสแบบเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ, ระบบโฟกัสติดตามวัตถุแบบ 3 มิติ แม้ในระหว่างการบันทึกวิดีโอก็ตาม
Nikon Z9 มาพร้อมช่องมองภาพ Real-Life ใหม่ล่าสุดที่สว่างที่สุดในโลก ซึ่งเป็นแผง Quad-VGA ที่ติดตั้งใหม่รองรับการปรับความสว่างของช่องมองภาพสูงสุด 3000cd/m2 เพื่อการตอบสนองในสภาวะแสงต่างๆ แผงความสว่างสูงช่วยให้ทำงานถ่ายภาพวัตถุในสภาวะที่มีแสงสว่างจ้าได้ง่ายขึ้น แม้แต่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่เข้มข้น และยังช่วยให้ดูรายละเอียดของภาพหรือวิดีโอที่แสดงได้สว่างและคมชัดขึ้น เผยให้เห็นทุกช่วงเวลา เหนือกว่าช่องมองภาพออพติคอลธรรมดา (OVF) และช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF) ทำให้มองเห็นวัตถุได้ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบการถ่ายภาพและการดูภาพต่อเนื่องอย่างไม่มีสะดุดหรือการกระโดดข้ามวินาทีที่สำคัญ
เทคโนโลยี Dual Stream พร้อมเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 45.7 ล้านพิกเซลที่มีประสิทธิภาพช่วยให้อ่านภาพนิ่งเร็วขึ้น 12 เท่า พร้อมกับประมวลผลภาพที่แสดงสำหรับ EVF/จอภาพและข้อมูลภาพนิ่งสำหรับการบันทึกแยกต่างหาก ในขณะเดียวกัน ระบบประมวลผลภาพความเร็วสูงและประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่ EXPEED 7 ให้ความเร็วในการประมวลผลที่เร็วขึ้น 10 เท่า ซึ่งช่วยส่งข้อมูลไลฟ์วิวไปยัง EVF/จอภาพ และประมวลผลข้อมูลภาพนิ่งที่บันทึกไว้แยกกันในเวลาเดียวกันได้ EXPEED 7 ยังเป็นกุญแจสำคัญในเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกของกล้องสำหรับอัลกอริธึมการตรวจจับวัตถุและการบันทึกวิดีโอ 8K ในกล้อง
อีกทั้งยังใช้จอภาพแบบปรับเอียงได้ 4 แกน ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ให้ความยืดหยุ่นที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพจากมุมสูงหรือมุมต่ำ ถ่ายภาพในแนวตั้งได้ง่ายๆ ด้วยมือจับแนวตั้ง อินเทอร์เฟซบนหน้าจอจะแสดงตามในแนวตั้งโดยอัตโนมัติเพื่อการยืนยันและเปลี่ยนการตั้งค่าที่ง่ายดาย จอภาพแบบสัมผัสขนาด 8 ซม. และ EVF ยังทำให้การแสดงภาพทันทีที่ถ่ายและการเลือกภาพเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากข้อมูลการแสดงผลบนจอภาพที่ปรับแต่งได้ ที่ให้ผู้ใช้เลือกการแสดงผลที่ต้องการตามฉากการถ่ายภาพ
Nikon Z9 สามารถบันทึกวิดีโอในคุณภาพสูง 8K (30p) และ 4K (30p/60p/120p) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Nikon ด้วยระบบระบายความร้อนที่ถูกออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกวิดีโอ 8K 30p ได้นานสูงสุด 125 นาที ซึ่งเป็นการบันทึกวิดีโอ 8K 30p ที่ยาวนานที่สุดในโลก และยังรองรับการบันทึกวิดีโอแบบ Time-Lapse ในรูปแบบ 8K และได้ภาพนิ่งไปพร้อมๆ กัน สามารถดึงภาพนิ่งความละเอียดสูงจากวิดีโอ 8K รวมถึงช่วงเวลาสำคัญที่ 120p หลังจากการถ่ายวิดีโอ
ด้านดีไซน์ Nikon Z9 เป็นกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นแรกของ Nikon ที่สร้างขึ้นโดยไม่มีชัตเตอร์แบบกลไก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพที่มีความผิดเพี้ยนจาก Rolling Shutter น้อยที่สุดในโลก พร้อมกับอัตราการสแกนที่เร็วที่สุด นอกจากนี้ VR ในตัวกล้องยังใช้ระบบล็อคแบบปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อเซ็นเซอร์ภาพ มาพร้อมการเพิ่มโค้ทผิวสองชั้นครั้งแรกในกล้องดิจิตอล เพื่อเพิ่มการป้องกันฝุ่นละอองจากการทำความสะอาดเซ็นเซอร์ภาพ และระบบป้องกันเซ็นเซอร์ใหม่ล่าสุดที่ทำให้ Nikon Z9 สามารถปกป้องเซ็นเซอร์ภาพจากอนุภาคฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยม
ปุ่มต่างๆ ของ Nikon Z9 ถูกออกแบบไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการใช้งานที่เป็นธรรมชาติทั้งการถ่ายภาพแนวตั้งและแนวนอน เพื่อการใช้งานที่รวดเร็ว โดยสามารถกำหนดและเปลี่ยนการตั้งค่าที่ต้องการได้ เช่น โหมดพื้นที่ออโตโฟกัส การส่ง และการให้คะแนน พร้อมปุ่มโหมดออโตโฟกัสอิสระที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับโหมดโฟกัสและโหมดพื้นที่ออโตโฟกัสขณะมองวัตถุผ่านช่องมองภาพได้ ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายในทุกสภาพอากาศ ภูมิประเทศ และสภาพแสง ด้วยไฟแบ็คไลท์ที่มองเห็นได้ชัดขึ้นบนปุ่มต่างๆ ที่จะคอยอำนวยความสะดวกในการค้นหาฟังก์ชันขณะอยู่ในที่มืด
มั่นใจได้ในความทนทาน เนื่องจากส่วนประกอบหลักของตัวกล้องได้รับการซีลอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งระบบ ตั้งแต่ข้อต่อของฝาครอบด้านนอกแต่ละด้านไปจนถึงโครงสร้างที่ปรับเอียงได้ เพื่อทำการป้องกันฝุ่นละอองและหยดน้ำ ซึ่งมีความแข็งแกร่งระดับ D6 การออกแบบที่ทนทานต่อความหนาวเย็นทำให้ Nikon Z9 ทำงานได้ในอุณหภูมิที่ต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส และสามารถรับมือกับสภาพการถ่ายภาพและสภาพแวดล้อมที่รุนแรงสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ
Nikon Z9 เพียบพร้อมไปด้วยตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและความจำเป็นสำหรับกระบวนการถ่ายโอนภาพที่รวดเร็วและคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง Wi-Fi ในตัวกล้องที่ทำให้กระบวนการทำงานเร็วขึ้นด้วยการถ่ายโอนภาพโดยตรงโดยไม่ต้องใช้ตัวส่งข้อมูลแบบไร้สาย WT-6 นอกจากนี้ ระบบประมวลผลภาพประสิทธิภาพสูง EXPEED 7 ยังช่วยให้สื่อสารได้เร็วกว่า D6 โดยมีทั้ง LAN แบบมีสายและไร้สาย และแท็บเครือข่ายในเมนู ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้จัดการรายการที่เกี่ยวข้องกับตัวเลือกการเชื่อมต่อได้ในแท็บเดียวเพื่อการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
Nikon Z9 จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาก่อนสิ้นปี 2021 ราคาเฉพาะบอดี้อยู่ที่ 5,500 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 182,490 บาท