GoPro HERO10 Black กล้อง Action Camera ตระกูล HERO รุ่นใหม่ล่าสุด ปรับปรุงจากรุ่นก่อนด้วยชิปประมวลผลใหม่ GP2 ที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น พร้อมรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงที่ระดับ 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบกันสั่น Hypersmooth 4.0 ระบบกันสั่นที่นิ่งและดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
สเปก GoPro HERO10 Black
- โปรเซสเซอร์ GP2 ใหม่
- บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K60, 4K120 และ 2.7K240
- ดึงภาพนิ่งจากวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 19.6MP
- บันทึกภาพนิ่งที่ความละเอียด 23MP
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายในที่แสงน้อย
- Local Tone Mapping (LTM) และการลดนอยส์ 3D (3D Noise Reduction: 3DNR)
- ระบบกันสั่นอันเหนือระดับรุ่นใหม่ HyperSmooth 4.0
- Horizon Levelling ใหม่ ที่ช่วยปรับระดับภาพให้คงเส้นขอบฟ้ามากขึ้น ที่ 45 องศา สำหรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K60, 2.7K120 และ 1080p120
- จอภาพสีด้านหน้าที่มีเฟรมเรทสูงขึ้น เพื่อการ Preview ที่ลื่นไหลขณะถ่ายภาพและวิดีโอ
- จอภาพแบบสัมผัสด้านหลังที่เร็วและลื่นขึ้น พร้อมด้วย Touch Zoom
- การโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วขึ้น
- สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 3 วิธี: อัปโหลดผ่าน Cloud (Cloud Upload), การโอนถ่ายข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless Offload) และ การโอนถ่ายข้อมูลแบบสายผ่านสมาร์ทโฟนแบบใหม่ (Wired Transfer to Your Phone)
- ฝาครอบเลนส์แบบใหม่ (Hydrophobic) ออกแบบมาเพื่อป้องกันน้ำเกาะหน้าเลนส์โดยเฉพาะ
- แบตเตอรี่ที่สามารถถอดออกมาชาร์จได้ขนาด 1,720mAh
- TimeWarp 3.0 ที่รองรับการถ่ายแบบ Real Speed และ Half Speed
- Livestream (ถ่ายทอดสด) ด้วยความคมชัดระดับ 1080p พร้อมรองรับระบบกันสั่น HyperSmooth 4.0
- โหมดเว็บแคมความคมชัด 1080p
- Power Tools: HindSight, LiveBurst, Scheduled Capture และ Duration Capture
- SuperPhoto + HDR
- วิดิโอ Night Lapse
- รองรับภาพนิ่งไฟล์ RAW
- มาพร้อมเลนส์ดิจิตอลหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น Ultra-Wide (SuperView), Wide, Linear และ Narrow
- คำสั่งเสียง 13 คำสั่งใน 11 ภาษา และ 6 สำเนียง
- ไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมระบบการลดเสียงรบกวนจากลมขั้นสูง
- ระบบเสียง Stereo + RAW
- Presets ที่ตั้งค่าได้ และคำสั่งลัด (Shortcut) บนหน้าจอ
- เมาท์ขนาดเล็กพับได้ในตัวสำหรับการต่อเข้ากับเมาท์ต่าง ๆ ของ GoPro
- บอดี้ที่ทนทาน และ กันน้ำได้ลึกถึง 33ft (10m)
- รองรับการชาร์จไว (Fast-Charging)
- สามารถใช้ได้กับ Media Mod, Display Mod, Light Mod และ Max Lens Mod (โดยจะรองรับผ่านการอัปเดตเฟิร์มแวร์หลังการวางจำหน่าย)
แกะกล่อง HERO10 Black
ในรุ่นใหม่นี้ ทาง โกโปร ได้มีความมุ่งมั่นที่จะนำบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดพลาสติกมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด โดยไม่ได้เป็นเพียงบรรจุภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็น Travel Case หรือกระเป๋าใส่กล้องคุณภาพสูงที่สามารถใส่อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้จบในใบเดียว ซึ่งทำให้มีประโยชน์ต่อการใช้งานซ้ำและช่วยลดปัญหาขยะลงได้
ภายในกล่องชุดจัดจำหน่ายหรือกระเป๋า Travel Case นอกจากจะมีตัวโกโปร HERO10 Black แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาให้ใช้งานเพิ่มเติมกันด้วย โดยจะมีแบตเตอรี่ 2 ก้อน, Helmet Swivel Mount, Floating Handling Grip, สาย USB-C, เมมโมรี่การ์ด 32GB และเอกสารคู่มือการใช้งานต่างๆ
ดีไซน์
ในด้านดีไซน์ HERO10 Black นั้นยังไม่ค่อยแตกต่างจาก HERO9 Black สักเท่าไรนัก โดยมาในสีดำด้าน มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 1.4 นิ้ว พร้อมกับเฟรมเรทสูงขึ้น และวางเลนส์กล้องในตำแหน่งที่เหมือนรุ่นที่แล้ว มีรูไมโครโฟนวางอยู่ใต้เลนส์กล้อง และใช้ตัวอักษร GoPro สีฟ้าที่ดูโดดเด่นมากขึ้น และด้านหลังมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 2.27 นิ้ว สั่งงานด้วยการทัชหน้าจอ
ด้านข้างของตัวเครื่อง จะมีโลโก้ 10Black และปุ่มเปลี่ยนโหมด/ปุ่ม Power วางอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง และด้านซ้ายจะเป็นช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่, เมมโมรี่การ์ด และมีพอร์ต USB-C อยู่ด้านใน ซึ่งจะมีฝาปิดพร้อมกับขอบยางซีลไว้เพื่อกันน้ำเข้า ซึ่งการเป็นปิดที่มีความหนาแน่นมาก สามารถกันน้ำระดับ 10 เมตร ต้องดึงสลักขึ้นก่อนถึงจะเปิดได้ ตรงนี้เวลาเปิดและปิดต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าปิดสนิทหรือไม่ เพราะถ้าไปใช้งานเกี่ยวกับทางน้ำ อาจจะส่งผลเสียต่อเครื่องได้
ด้านบนตัวเครื่องจะเป็นปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอ และด้านล่างจะมาพร้อมกับ Mount ที่พับเก็บได้ สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ทันที ไม่ต้องใช้กรอบเพื่อต่ออุปกรณ์เสริมแบบ GoPro HERO รุ่นเก่าๆ แล้ว ถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากๆ อีกทั้งยังมีลำโพงสปีกเกอร์วางซ่อนอยู่ใต้ตัวเครื่อง ต้องดึง Mount ออกมาถึงจะเห็น
ชิป GP2 ประมวลผลได้เร็วกว่าเดิม
HERO10 Black ได้ใช้ชิปประมวลผลใหม่ GP2 ทำให้มีการประมวลผลต่างๆ ที่รวดเร็วกว่าเดิม และเท่าที่ได้ใช้งานมาก็รู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าการสัมผัส ปรับเปลี่ยนโหมด เลือกเมนู ไม่มีอาการหน่วงแบบ HERO7 ที่เคยใช้งาน
บันทึกวิดีโอ 5K 60FPS และ Hypersmooth 4.0
ชิปประมวลผลใหม่ GP2 ผสานกับเซนเซอร์ความละเอียดสูง ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ถึง 23.6 ล้านพิกเซล และยังสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 5.3K ที่เฟรมเรท 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่าความละเอียดขนาด 4K ถึง 91% และยังให้ความละเอียดมากกว่าโหมด 1080p HD ถึง 665% แถมยังสามารถช่วยให้คุณถ่ายสโลว์โมชั่น 2X ได้ลื่นไหลมากกว่าเดิม ไม่หมดเพียงเท่านี้ผู้ใช้ยังสามารถถ่าย สโลว์โมชั่น 4K ได้ที่ 120 เฟรมต่อวินาที (สโลว์โมชั่น 4 เท่า) และถ่ายวิดีโอ 2.7K ได้ที่ 240 เฟรมต่อวินาที (สโลว์โมชั่น 8 เท่า) และมีอัลกอริธึมสำหรับโหมดวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาขึ้นอีกด้วย เช่น Local Tone Mapping (LTM) และ 3D Noise reduction (3DNR) ที่จะช่วยให้ภาพที่ออกมาคมชัดและสมจริงมากขึ้นกว่าเดิมแม้อยู่ในที่แสงน้อย นอกจากนี้ ยังสามารถดึงภาพนิ่งจากวิดีโอความบละเอียด 5K ได้ความละเอียดสูงถึง 19.6 ล้านพิกเซล
Hypersmooth 4.0 ระบบช่วยลดการสั่นสะเทือนดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในกล้องโกโปร ด้วยระบบ Horizon Levelling ที่ช่วยปรับระดับเส้นขอบฟ้ารุ่นใหม่นี้ ยังได้รับการปรับปรุงให้เอียงได้มากขึ้นกว่าเดิมจาก 27 องศาเป็น 45 องศาเพื่อให้ภาพของคุณออกมาสมบูรณ์แบบและมีความนิ่งมากที่สุด ซึ่งผลที่ได้ออกมาก็ไม่ผิดหวัง วิดีโอมีความนิ่งมากๆ และยังสามารถปรับระดับกันสั่นให้น้อยลงได้ เพื่อให้อารมณ์ความดิบและความสมจริงมากขึ้น
มุมกล้องก็รองรับ 3 ระดับ Narrow, Linear และ Wide ซึ่งก็รองรับต่อการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บบรรยากาศ หรือ Vlog ก็เหมาะสม อีกทั้งยังได้คุณภาพไฟล์ที่คมชัดอีกด้วย
ใช้งานร่วมกับแอป Quik
ในการใช้งานครั้งแรก จะต้องทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปผลิเคชัน GoPro Quik ก่อน โดยจะรองรับทั้ง iOS และ Android หลังจากที่เชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วก็สามารถใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอเพื่อเลือกโหมด หรือปรับตั้งค่าความละเอียดของกล้องต่างๆ หรือจะทำการ Live ความคมชัดระดับ 1080p ผ่านช่องทาง Facebook, YouTube, Twitch หรือผ่าน GoPro.com ก็ได้ และยังพรีวิวดูมุมกล้องได้จากสมาร์ทโฟนโดยตรง
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานผ่านตัวกล้องได้โดยตรงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าต่างๆ หรือกดบันทึกภาพ, วิดีโอ ซึ่งถ้านำไปใช้งานแนวแอดเวนเจอร์ การสั่งงานผ่านตัวกล้องโดยตรงจะสะดวกกว่า อีกทั้งหน้าจอด้านหน้าก็แสดงภาพให้เราเห็นเวลาถ่าย Vlog และหน้าจอด้านหลังก็มีขนาดใหญ่ที่เพียงพอที่จะเห็นว่าเราบันทึกอะไร รวมไปถึงสามารถเปิดดูและเช็คเสียงไฟล์ที่เราบันทึกไว้ผ่านตัวกล้องได้โดยตรงได้อีกด้วย
การโอนถ่ายไฟล์ภาพและวิดีโอก็ทำได้ง่าย เพียงแค่เชื่อมต่อกับแอปผลิเคชัน Quikแล้วทำการโอนข้อมูลแบบไร้สายจากกล้องมายังสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งยังทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 30% และถ้าใครใช้สมาร์ทโฟนที่เป็นพอร์ต USB_C ก็สามารถเสียบสายเพื่อทำการโอนถ่ายโดดยตรงที่มีความเร็วกว่าการโอนถ่ายข้อมูลแบบไร้สายถึง 50% และ HERO10 Black ยังรองรับการอัปโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอล่าสุดไปยังบัญชี GoPro Cloud โดยอัตโนมัติในขณะที่เสียบสายชาร์จอีกด้วย
แบตเตอรี่
HERO10 Black ใช้งานแบตเตอรี่ขนาด 1,720mAh สามารถถอดออกมาชาร์จได้ หรือจะชาร์จผ่านพอร์ต USB-C กับตัวกล้องโดยตรงเลยก็ได้ การใช้งานก็ยังถือว่าได้ไม่นานมากนัก หากมีการใช้งานต่อเนื่องก็จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง และถ้าหากมีการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 5K 60FPS ก็จะทำให้มีการใช้แบตเตอรี่มากขึ้น หมดเร็วขึ้น โดยรวมก็ยังอยู่ในเกณฑ์การใช้งานของกล้อง GoPro อยู่
สรุปราคาและการวางจำหน่าย GoPro HERO10 Black
HERO10 Black ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากรุ่นที่แล้ว โดยใช้ชิปประมวลผลใหม่ GP2 ที่ประมวลผลได้เร็วขึ้น และยังมีการใช้เซ็นเซอร์ความละเอียดที่สูงขึ้นเป็น 23 ล้านพิกเซล ทำให้ได้รูปภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น รวมไปถึงการรองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 5K 60FPS ที่มีความละเอียดที่สูงขึ้นกว่า 4K ถึง 91% ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่น ฟีเจอร์กันสั่น Hypersmooth 4.0 ที่นิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถทำการดึงภาพนิ่งจากวิดีโอที่ความละเอียดสูงถึง 19.6 ล้านพิกเซล จากวิดีโอความละเอียด 5K ในอัตราส่วนภาพ 4:3 และภาพนิ่งจากวิดีโอ 15.8 ล้านพิกเซลจากวิดีโอ 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที และยังมีความทนทานกันน้ำได้ 10 เมตร นำไปลุยสไตล์แอดเวนเจอร์ได้อย่างหมดห่วง
สรุปแล้ว HERO10 Black เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรดกล้อง Action Camera ตัวเดิมหรือผู้ที่ต้องการมองหากล้อง Action Camera ที่สามารถบันทึกไฟล์ภาพและวิดีโอความละเอียดสูง มีความคมชัด สีสันสวยงาม และตัวบอดี้สามารถลุยได้ทุกสภาวะ และยังนำมาตัดต่อบนแอปพลิเคชัน Quik ได้อย่างง่ายดาย
ราคา
บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ GoPro เริ่มวางจำหน่าย GoPro HERO10 Black แล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศไทย โดยจะวางจำหน่ายในราคา 16,500 บาท
ในขณะที่กล้องเลนส์คู่ 360 องศาอย่าง GoPro Max จะวางจำหน่ายในราคา 17,000 บาท และ HERO9 Black ในราคา 13,500 บาท