หลังจากทีมงาน @Flashfly นำเสนอแกะกล่องพร้อมพรีวิว OPPO Reno6 5G ไปก่อนหน้านี้ ก็ได้เวลาพาไปเจาะลึกให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสำรวจจุดเด่นต่างๆ ของสมาร์ทโฟนระดับกลางใน OPPO Reno6 Series 5G ที่เน้นโหมดถ่ายวิดีโอเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการถ่ายบุคคลด้วยเอฟเฟกต์ Bokeh ละลายฉลากหลังเป็นดวงไฟ ดีไซน์บางขอบแบนราบ ใช้ชิประดับ 6 นาโนเมตร พร้อมระบบระบายความร้อน และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง โดยยังคงสโลแกน “อารมณ์ไหน ก็พอร์ตเทรต” แต่มีดีไซน์ที่แตกต่างออกไป และให้ความสำคัญกับการถ่ายวิดีโอมากขึ้น
สเปก OPPO Reno6 5G
- จอแสดงผล 90Hz, FHD+ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว
- กล้องหลัก 64MP AI Triple Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 900
- ระบบระบายความร้อน Multi-cooling System
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- รองรับ RAM Expansion (2/3/5GB)
- เซ็นเซอร์ Color temperature sensor, Geomagnetic sensor, On screen proximity sensor, On screen optical sensor, Accelerometer, Gravity sensor, Gyroscope, Pedometer
- ระบบยืนยันตัวตน In-Display Fingerprint และ Face Unlock
- การเชื่อมต่อ 5G, Dual Nano-SIM, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4300mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11 บนพื้นฐาน Android 11
- ขนาดบอดี้ 156.8 x 72.1 x 7.59 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 182 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aurora และ Stellar Black
ดีไซน์ OPPO Reno Glow & Ultra-slim Retro Design
OPPO Reno6 5G มีดีไซน์ที่แตกต่างไปจาก OPPO Reno6 Z 5G และ OPPO Reno6 Pro 5G ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะส่วนขอบรอบตัวเครื่องที่แบนราบตามสไตล์ Retro และมีความบางเพียง 7.59 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของด้านหลังยังเป็นแบบ OPPO Reno Glow เหมือนกับ OPPO Reno6 Series 5G รุ่นอื่นๆ
ดีไซน์แบบ OPPO Reno Glow เป็นเทคนิคการสร้างชั้นผิวบนบอดี้สมาร์ทโฟนของ OPPO เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์แสงระยิบระยับ และยังช่วยป้องกันรอยนิ้วมือให้เกิดยากขึ้น โดยมีการจดสิทธิบัตรไว้ทั่วโลกกว่า 20 ฉบับ และที่สำคัญด้านหลังของ OPPO Reno6 5G ยังมีการเพิ่มชั้นผิวให้มากขึ้น ทำให้ด้านหลังมีเอฟเฟกต์ที่สวยงามยิ่งขึ้น
OPPO Reno6 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aurora เป็นสีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ใช้กระบวนการ Diamond Spectrum แบบใหม่ เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์ไล่ระดับสีที่สะท้อนออกมาในมุมมองที่แตกต่างกันไปตามแสงที่สาดส่องลงบนพื้นผิว และสามารถสะท้อนแสงไปบนผนังจนเกิดเป็นสีรุ้งอย่างสวยงาม
สำหรับใครที่ชอบความคลาสสิค OPPO Reno6 5G ยังมีสีดำ Stellar Black ซึ่งใช้ดีไซน์แบบ OPPO Reno Glow เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดเอฟเฟกต์แสงที่เปล่งประกายระยิบระยับไปตามมุมที่แสงตกลงมากระทบบนพื้นผิว ให้ความรู้สึกเหมือนกลุ่มดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
อีกจุดของดีไซน์ OPPO Reno6 5G ดีไซน์เหลี่ยมแบบใหม่ Ultra-slim Retro Design ที่มีความโดดเด่นคือ ส่วนขอบรอบด้านที่แบนราบจนสามารถวางตั้งได้ และด้านหลังก็แบนราบเช่นกัน แตกต่างจาก OPPO Reno6 Z 5G และ OPPO Reno6 Pro 5G ที่มีขอบมุมโค้งมน
มุมมองด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล ซึ่งใช้แผงหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ที่ให้ความคมชัด มีขอบจอรอบด้านที่บางเฉียบส่งผลให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.7% ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป และยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
OPPO Reno6 5G ยังถูกเจาะหลุมไว้ที่มุมบนขวาของจอแสดงผลแบบเดียวกับที่พบใน OPPO Reno6 Z 5G และ OPPO Reno6 Pro 5G เพื่อติดตั้งกล้องหน้า และส่วนขอบจอด้านบนที่บางเฉียบ ยังมีพื้นที่พอให้ติดตั้งลำโพงหูฟังลงไป
ด้านหลังที่แบนราบ มีการติดตั้งระบบกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมแฟลช LED และเซ็นเซอร์ Color temperature sensor รวมไว้ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย
ขอบด้านข้างมีความแบนราบให้ความรู้สึกพรีเมียมด้วยวัสดุอะลูมิเนียม และมีความบางเพียง 7.59 มิลลิเมตร (ไม่รวมขอบกันชนกล้องหลัง) โดยมีปุ่มเพาเวอร์อยู่ทางซ้ายของจอแสดงผล
ปุ่มปรับระดับเสียงถูกติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
ด้านบนมีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม (Dual Nano-SIM), ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และลำโพง
ถึงแม้ OPPO Reno6 5G จะไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร มาให้แบบ OPPO Reno6 Z 5G แต่ภายในกล่องก็แถมหูฟังที่เป็นพอร์ต USB Type-C มาให้ด้วย สามารถเสียบใช้งานได้โดยตรง ไม่ต้องใช้ Adapter แปลงแจ็ค
จอแสดงผล AMOLED คุณภาพสูงรีเฟรช 90Hz
OPPO Reno6 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.4 นิ้ว ให้อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.7% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่ขอบจอที่บางเฉียบ ส่งผลให้มีหน้าจอกว้างสุดขอบ แต่ที่สำคัญคือรองรับอัตรากาารีเฟรชหน้าจอ 90Hz และมีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate สูงสุดที่ 180Hz
จอแสดงผลของ OPPO Reno6 5G ยังสนุบสนันการสตรีมมิ่งวิดีโอในคุณภาพระดับ HD จาก Netflix และ Amazon Prime Video จึงเป็นจอแสดงผลที่เหมาะสำหรับการรับชมภาพยนตร์และเล่นเกม อีกทั้งยังเล่นเกมได้อย่างสบายตา เนื่องจากผ่านการรับรอง Eye Care Display จาก SGS
OPPO Reno6 5G ยังใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบทิศทางแบบ 360° Light-sensing ซึ่งอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงโดยรอบที่ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อุณหภูมิสี (Color Temperature Sensor) ที่ติดตั้งไว้ด้านหลัง ทำให้จอแสดงผลของ OPPO Reno6 5G สามารถปรับความสว่างตามสภาพแสงรอบข้างโดยอัตโนมัติได้แม่นยำมากขึ้น
สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
OPPO Reno6 5G ใช้ระบบยืนยันตัวแบบไบโอเมตริก 2 วิธี ได้แก่ การสแกนลายนิ้วมือ (In-Display Fingerprint) และ สแกนใบหน้า (Face Unlock) โดยวิธีแรกมีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ เมื่ออยู่ในหน้าจอล็อคจะแสดงกราฟิกเป็นรูปลายนิ้วมือขึ้นมาที่ส่วนล่างของจอแสดงผล ให้วางปลายนิ้วที่ลงทะเบียนไว้ แตะลงบนกราฟิกรูปลายนิ้วมือ สมาร์ทโฟนก็จะปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง อีกทั้งยังเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยที่สุดในช่วง COVID-19 ระบาด ส่วนการสแกนใบหน้า จะใช้ประโยชน์จากกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับ AI เพื่อช่วยจดจำใบหน้าของผู้ใช้งาน
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
กล้องเซลฟี่ได้รับการติดตั้งไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ มีความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เลนส์ 5P มุมมองภาพ 85 องศา รองรับโหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจหลายอย่างแบบเดียวกับที่กล้องหลังทำได้ ไม่ว่าจะเป็น Bokeh Flare Portrait Video, Portrait Beautification Video, Dual-View Video และสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p (30 เฟรมต่อวินาที)
กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล
ระบบกล้องหลังถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจที่สุดของ OPPO Reno6 5G โดยมาพร้อมระบบกล้อง 3 ตัว 64MP AI Triple Camera สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัดในทุกสภาพแสง และที่เด่นสุดๆ คือ การถ่ายวิดีโอ โดยเฉพาะวิดีโอพอร์ตเทรต ผ่านฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ที่ใช้ AI สุดล้ำ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายดีโอพอร์ตเทรตคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 เลนส์ 6P มุมมองภาพ 81 องศา
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 เลนส์ 5P มุมมองภาพ 120 องศา
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 เลนส์ 3P มุมมองภาพ 89 องศา
ระบบกล้องหลังทั้ง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก, กล้องถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ, กล้องถ่ายภาพระยะใกล้วัตถุ และยังมีเซ็นเซอร์อุณหภูมิสี (Color Temperature Sensor) ช่วยให้กล้องหลังของ OPPO Reno6 5G สามารถจับภาพได้ทันทีตั้งแต่เปิดแอปกล้อง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการถ่ายภาพแบบ Flash Snapshot
เมื่อเปิดเข้ามาแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Video, Photo, Portrait และพบกับโหมดถ่ายภาพทั้งหมดเมื่อแตะที่ More ไม่ว่าจะเป็น Dual-View Video, Slo-mo, Time-lapse, Movie, Expert, Extra HD, Pano, Text Scanner, Macro, Sticker และ Soloop Templates
โหมด Extra HD ช่วยให้กล้องหลังของ OPPO Reno6 5G สามารถถ่ายภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงถึง 108 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลัง รองรับความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา30 เฟรมต่อวินาที
ถ่ายวิดีโอโบเก้สวยแบบกล้องโปร Bokeh Flare Portrait Video
สมาร์ทโฟนของ OPPO สามารถวางใจได้อยู่แล้วในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสภาพแสงตอนกลางวัน เวลากลางคืน หรือ ภาพถ่ายพอร์ตเทรต ทำให้ทีมพัฒนาของ OPPO มีเวลามาโฟกัสกับการถ่ายวิดีโอมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอัลกอริทึมของ AI ภายใต้เทคนิค Computational Photography ซึ่งนำ AI มาใช้งานในส่วน Deep Learning ช่วยให้กล้องของสมาร์ทโฟนตรวจจับได้ว่ามีพื้นที่ส่วนไหนของภาพที่มีมนุษย์บ้าง พร้อมวิเคราะห์ตำแหน่งของบุคคลนั้นกับพื้นหลัง และ Computational Vision ช่วยวิเคราะห์ภาพโดยรวมและภาพระดับพิกเซลในการเรนเดอร์ภาพ พร้อมปรับแต่งด้านอื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพ
Bokeh Flare Portrait Video จึงเป็นการนำ AI มาทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของกล้อง ช่วยให้ระบบกล้องของ OPPO Reno6 5G สามารถสร้างเอฟเฟกต์ Bokeh ในระหว่างถ่ายวิดีโอได้อย่างสวยงามเหมือนกล้องมืออาชีพ ด้วยความสามารถจับภาพหลายเฟรมได้ในเวลาเพียง 10 มิลลิวินาที มองเห็นตัวอย่างบนหน้าจอได้ทันทีแบบเรียลไทม์ และแชร์ออกไปได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาถ่ายโอนไฟล์วิดีโอเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อปรับแต่งหรือแก้ไขเพิ่มเติม
ผู้ใช้งาน OPPO Reno6 5G สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Bokeh Flare Portrait ได้จากแอปกล้อง เลือกโหมด Video จากนั้นแตะไอคอน Filter ที่แถบเครื่องมือด้านบน และเลือก Style เป็น Bokeh Flare Portrait
การถ่ายวิดีโอด้วย Bokeh Flare Portrait สามารถใช้งานได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังหรือกล้องหน้า ช่วยละลายแสงไฟจากด้านหลังให้เป็นเอฟเฟกต์ Bokeh หรือ กลายเป็นดวงไฟที่สวยงาม ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในฝัน เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอที่เน้นตัวบุคคล และถ้าถ่ายแบบคู่รัก ก็ยิ่งให้อารมณ์โรแมนติก
AI ของ Bokeh Flare Portrait ผ่านการเรียนรู้และจดจำใบหน้ามากกว่า 10 ล้านใบหน้า จึงสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำถึง 97% ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถระบุร่างกายของบุคคลได้ 360 องศา หมายความว่าในระหว่างถ่ายวิดีโอบุคคลด้วย Bokeh Flare Portrait ก็ยังคงเอฟเฟกต์ Bokeh หรือละลายฉากหลังได้อย่างต่อเนื่องแม้ตัวบุคคลจะหมุนตัว หรือหันหลังให้กล้อง
ถ่ายภาพโปเก้สวยด้วย Bokeh Flare Portrait Photo
ไม่ใช่เพียงการถ่ายวิดีโอ การถ่ายภาพนิ่งก็สามารถสร้างเอฟเฟกต์ Bokeh หรือละลายฉากหลังได้เช่นกัน โดยเข้าไปที่แอปกล้อง เลือกโหมด Portrait จากนั้นแตะไอคอน Filter ที่แถบเครื่องมือด้านบน และเลือก Style เป็น Bokeh Flare Portrait การถ่ายภาพนิ่งด้วย Bokeh Flare Portrait สามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพแสงตอนกลางวัน เวลากลางคืน โดยรองรับทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า
วิดีโอถ่ายสวย Portrait Beautification Video
โหมด Portrait Beautification Video รองรับการใช้งานทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า โดยอาศัยประโยชน์จาก AI มาช่วยจดจำจุดสำคัญบนใบหน้าได้ถึง 193 จุด เพื่อปรับใบหน้าในระหว่างถ่ายวิดีโอให้ดูดียิ่งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการลดจุดด่างดำบนใบหน้า ปรับโทนผิวของใบหน้าให้เหมาะสมกับผิวคอและแขน อีกทั้งยังช่วยปรับความสดใสของดวงตาให้ดูเปล่งประกายมีความพิเศษมากขึ้น
ถ่ายสวยทุกสภาพแสง AI Highlight Video
กรณีที่ผู้ใช้งาน OPPO Reno6 5G ต้องถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืน อยู่ภายในห้องตอนกลางวัน หรือ ในฉากที่ย้อนแสง สามารถใช้ AI Highlight Video เพื่อช่วยปรับให้ใบหน้าคมชัดขึ้น และมองเห็นรายละเอียดในส่วนที่มืด คล้ายกับการถ่ายภาพนิ่งด้วย HDR แต่เป็นการใช้ HDR ในวิดีโอ เพียงเข้าไปในแอปกล้อง เลือกโหมด Video แล้วแตะไอคอน AI จากแถบเครื่องมือด้านบน
เมื่อเปิดใช้ AI Highlight Video สำหรับการถ่ายวิดีโอในตอนกลางคืน กล้องของ OPPO Reno6 5G จะใช้อัลกอริทึม Ultra Night Video โดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความสว่างและคืนค่าสีที่แท้จริง ให้ภาพรวมของวิดีโอมีคุณภาพและคมชัด ซึ่งหมายความว่า AI Highlight Video สามารถเก็บรายละเอียดพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น
AI Highlight Video ยังมีอัลกอริทึม Live HDR มาช่วยในการถ่ายวิดีโอในที่ย้อนแสง ไม่ว่าจะอยู่กลางแจ้งหรือภายในห้อง อัลกอริทึม Live HDR จะช่วยคงสีและรายละเอียดที่แท้จริงในส่วนที่มืด โดยเฉพาะใบหน้าของตัวบุคคล เพื่อให้วิดีโอมีรายละเอียดคมชัดทั้งในส่วนที่มืดและสว่าง
สถานการณ์ที่เหมาะสำหรับใช้ AI Highlight Video ได้แก่ ถ่ายตัวบุคคลในเวลากลางคืนที่ยังพอมีแสงสว่าง เช่น นั่งอยู่ในร้านอาหารแบบกลางแจ้ง หรือ ในอาคารสถานที่ที่มีการประดับไฟ ขณะที่ในเวลากลางวันสามารถ่ายวิดีโอตัวบุคคลในระหว่างไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกอยู่เบื้องหลัง หรือ นั่งอยู่ในห้องใกล้หน้าต่างที่มีแสงแดดส่องเข้ามา โดยควรถ่ายตัวบุคคลในระยะใกล้หรือช่วงครึ่งบนขึ้นไป เพื่อให้กล้องเก็บรายละเอียดของใบหน้าได้อย่างชัดเจน
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิป Dimensity 900 เล่นเกมลื่น ไม่ร้อน
OPPO Reno6 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 900 ที่ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตแบบ 6 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit 8-Core (ARM Cortex-A78 แบบ 2-Core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz จับคู่กับ ARM Cortex-A55 แบบ 6-Core ความเร็วสูงสุด 2GHz) พร้อมจีพียู Arm Mali-G68 ซึ่งได้รับการปรับปรุงประสบการณ์ในการเล่นเกมด้วยกราฟิกที่ราบรื่น และให้การเชื่อมต่อที่ดีขึ้นด้วยชิปโมเด็ม 5G ในตัว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11ax)
นอกจากชิประดับเรือธง OPPO Reno6 5G ยังได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อน Multi-cooling System ที่มีทั้งแผ่นกระจายความร้อน Graphite และ Vapor Chamber ครอบคลุมพื้นที่ 9,200 และ 2,360 ตารางมิลลิเมตร ตามลำดับ ช่วยควบคุมอุณภูมิตัวเครื่องให้เย็นลงในระหว่างประมวลผลอย่างหนัก ส่งผลให้การเล่นเกมราบรื่นและรักษาประสิทธิภาพให้เสถียรแม้เล่นเกมเป็นเวลานาน
ไม่เพียงแค่นั้น OPPO Reno6 5G ยังได้รับการติดตั้ง Z-axis Linear Motor เพื่อรองรับระบบสั่นสะเทือนแบบ 4D Vibration ช่วยเพิ่มความสมจริงเวลาเล่นเกม PUBG Mobile และยังแสดงกราฟิกได้อย่างลื่นไหลบนจอแสดงผล AMOLED ที่ให้อัตรากาารีเฟรชหน้าจอ 90Hz และอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 180Hz ทำให้ OPPO Reno6 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมได้อย่างสนุก
ด้านความจำมาพร้อม RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB และยังสนับสนุนฟีเจอร์ RAM Expansion สามารถขยายความจำ RAM ได้อีกตั้งแต่ 2GB, 3GB สูงสุด 5GB โดยใช้ซอฟต์แวร์ดึงหน่วยความจำภายใน ROM มาเสริมพื้นที่ RAM ให้มากขึ้น ช่วยให้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ทำงานได้ราบรื่นขึ้น
แบตเตอรี่ 4300mAh ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0
OPPO Reno6 5G ให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันด้วยความจุแบตเตอรี่ 4300mAh และสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 ใช้เวลาชาร์จแค่ 5 นาที สามารถเล่นวิดีโอได้นานถึง 4 ชั่วโมง และชาร์จจนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 28 นาที
ในช่วงเวลาที่แบตเตอรี่เหลือน้อยขณะใช้งานอยู่ข้างนอกก็ไม่ต้องร้อนใจไป OPPO Reno6 5G รองรับ Super Power Saving Mode ช่วยขยายระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น จนสามารถแชทผ่านแอป WhatsApp ได้นานถึง 90 นาที แม้ระดับแบตเตอรี่เหลือเพียง 5% อีกทั้งยังมี Super Nighttime Standby ช่วยประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ในช่วงเวลากลางคืน โดยใช้แบตเตอรี่เพียง 3%
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11
OPPO Reno6 5G ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11 ที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น
ColorOS 11 ได้รับรูปภาพวอลเปเปอร์ชุดใหม่ Artist Wallpapers ที่มีความสวยงามในเชิงวิทยาศาสตร์ สร้างขึ้นด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพความเร็วสูง เพื่อจับภาพปฏิกิริยาเคมี ทำให้ได้รูปภาพที่เป็นการผสานกันระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี
แปลภาษาจากข้อความบนภาพได้ง่ายๆ เพียงจับภาพ เลือกส่วนที่ต้องการแปล แล้วแตะปุ่มแปล เพื่อให้ Google Lens ช่วยแปลภาษา ซึ่งรองรับมากกว่า 100 ภาษา
ผ่อนคลายไปกับ O Relax แอปพลิเคชั่นที่ช่วยบรรเทาความกังวลผ่านเสียงที่ทำให้สบายใจ ไม่ว่าจะเป็น The Sounds of the Cities, White Noise Customization และยังมีมินิเกมให้เล่นคลายเครียด
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Reno6 5G เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน OPPO Reno6 Series 5G อยู่ตรงกลางระหว่าง OPPO Reno6 Z 5G และ OPPO Reno6 Pro 5G ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ โดยมีจุดเด่นคล้ายกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์แบบ OPPO Reno Glow แต่ก็สร้างความแตกต่างด้วยดีไซน์ขอบแบนราบที่บางเฉียบ โดยมีประสิทธิภาพดีกว่า OPPO Reno6 Z 5G แต่ไม่เหนือไปกว่า OPPO Reno6 Pro 5G
อย่างไรก็ตาม OPPO Reno6 5G มีจุดเด่นการถ่ายวิดีโอ Bokeh Flare Portrait Video, AI Highlight Video และ Portrait Beautification Video จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ไม่เพียงแต่ถ่ายภาพสวย แต่ยังถ่ายวิดีโอได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอที่เน้นตัวบุคคลพร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh ละลายฉากหลัง อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการเล่นเกม และรองชาร์จเร็วแบบเดียวกับ OPPO Reno6 Pro 5G
OPPO Reno6 5G วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท มี 2 สี ได้แก่ สี Aurora และสีดำ Stellar Black วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 17 กันยายนนี้เป็นต้นไป และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ OPPO Reno6 5G ในวันที่ 17 กันยายน จนถึง 17 ตุลาคม รับเซ็ตของพรีเมี่ยมสุดพิเศษมูลค่ารวม 9,398 บาท (จำนวนจำกัด) ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และอีกหนึ่งช่องทางพิเศษสำหรับการเป็นเจ้าของ OPPO Reno6 5G ได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย รับส่วนลดสูงสุดถึง 8,500 บาท ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายนนี้เท่านั้น
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/38LCnVU
#OPPOReno65G #อารมณ์ไหนก็พอร์ตเทรต