วันนี้ Apple® ประกาศเปิดตัว Apple Watch® Series 7 ซึ่งมาพร้อมจอภาพ Retina แบบติดตลอดที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขึ้นใหม่ให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นและขอบที่แคบลงอย่างเห็นได้ชัด นี่จึงเป็นจอภาพที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา การลดขอบให้แคบลงนั้นทำให้เราสามารถขยายจอภาพออกไปจนสุดพื้นที่ โดยที่ขนาดของนาฬิกาแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย ดีไซน์ของ Apple Watch Series 7 ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยมุมที่โค้งมนกว่าเดิม ส่วนจอภาพก็มาพร้อมขอบแบบหักเหแสงอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้หน้าปัดนาฬิกาและแอปแบบเต็มหน้าจอดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับส่วนโค้งของตัวเรือน Apple Watch Series 7 ยังมีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ปรับมาให้เหมาะกับจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทำให้การอ่านและการใช้งานง่ายขึ้นด้วย นอกจากนั้นยังมีหน้าปัดนาฬิกาอีกสองแบบที่ไม่ซ้ำใคร นั่นคือ Contour และ Modular Duo ซึ่งออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ใหม่นี้โดยเฉพาะ และถึงแม้ว่าจอภาพจะได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมากมาย แต่ผู้ใช้จะยังคงได้รับประโยชน์จากการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 18 ชั่วโมงเช่นเดิม1 แถมตอนนี้ยังเสริมด้วยการชาร์จที่เร็วขึ้นถึง 33% ด้วย
Apple Watch Series 7 เป็น Apple Watch ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมด้านหน้าแบบคริสตัลที่แข็งแกร่งขึ้นและทนการแตกร้าวได้ดีกว่าเดิม และเป็น Apple Watch เรือนแรกที่ผ่านการรับรองความสามารถในการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X ขณะที่ยังคงรักษาความสามารถในการทนน้ำไว้ที่ระดับ WR502
Apple Watch รุ่นใหม่ล่าสุดยังคงมาพร้อมเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งรวมถึงเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าและแอป ECG3 พร้อมทั้งเซ็นเซอร์และแอปวัดระดับออกซิเจนในเลือด4 ส่วน watchOS® 8 ก็ช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพแข็งแรง แอ็คทีฟ และต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอด้วยประเภทการออกกำลังกายใหม่ๆ แอปทำสมาธิใหม่ คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงสุดล้ำ การเข้าออกสถานที่และใช้บริการต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นด้วยแอปกระเป๋าสตางค์ของ Apple และความสามารถอีกมากมายของแอปบ้าน พร้อมด้วยการปรับปรุงแอปข้อความและแอปรูปภาพให้ดียิ่งขึ้น
Apple Watch Series 7 มาพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมใน 5 สีใหม่ที่สวยงาม พร้อมด้วยสายในสีสันและสไตล์ใหม่ๆ Apple Watch Series 7 ทุกรุ่นจะวางจำหน่ายภายในปีนี้
“Apple Watch Series 7 มาพร้อมการปรับปรุงครั้งสำคัญ ตั้งแต่จอภาพที่ใหญ่ที่สุดและล้ำหน้าที่สุดของเรา ไปจนถึงความทนทานที่เพิ่มขึ้นและการชาร์จที่เร็วขึ้น ซึ่งก็เท่ากับว่า เราได้ทำให้สมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดในโลกดียิ่งขึ้นอีก” Jeff Williams, Chief Operating Officer ของ Apple กล่าว “Apple Watch ขับเคลื่อนด้วย watchOS 8 ซึ่งนำความสามารถใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์มาไว้บนนาฬิกา เพื่อช่วยให้ลูกค้าต่อติดกับทุกเรื่อง ติดตามกิจกรรมและการออกกำลังกาย ทั้งยังเข้าใจถึงสุขภาพและความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวมของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น”
ดีไซน์ใหม่และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ปรับแต่งมาอย่างเหมาะสม
จอภาพที่สวยงามน่าทึ่งของ Apple Watch Series 7 มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นเกือบ 20% และขอบที่แคบลงเหลือเพียง 1.7 มม. ซึ่งเล็กกว่า Apple Watch Series 6 ถึง 40% และด้วยดีไซน์สุดล้ำที่ทำให้จอภาพขยายออกไปจนสุดพื้นที่โดยที่ขนาดรวมๆ ของตัวเรือนแทบไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย Apple Watch Series 7 จึงมาในตัวเรือนขนาด 41 มม. และ 45 มม. จอภาพ Retina แบบติดตลอดมีความสว่างมากขึ้นถึง 70% ในที่ร่มเมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 ขณะที่ไม่ได้ยกข้อมือขึ้นมา ผู้ใช้จึงมองเห็นหน้าปัดนาฬิกาได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องยกข้อมือหรือปลุกจอภาพ
อินเทอร์เฟซผู้ใช้ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้ประโยชน์จากรูปร่างและขนาดของจอภาพใหม่ Apple Watch Series 7 มีขนาดตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นอีกสองขนาด และคีย์บอร์ด QWERTY ใหม่ที่สามารถแตะหรือปัดด้วย QuickPath™ ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนนิ้วเพื่อพิมพ์ และใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์เพื่อคาดการณ์คำถัดไปตามบริบท ซึ่งทำให้การป้อนข้อความง่ายขึ้นและเร็วขึ้นด้วย watchOS 8 ทำให้ชื่อเมนูและปุ่มต่างๆ ในแอปอย่างนาฬิกาจับเวลา กิจกรรม และนาฬิกาปลุกมีขนาดใหญ่ขึ้น ผู้ใช้จึงโต้ตอบบนหน้าจอได้ง่ายขึ้น
Apple Watch ที่ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Apple Watch Series 7 มาพร้อมด้านหน้าแบบคริสตัลที่ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงที่แข็งแกร่งและทนทานกว่าเดิมด้วยความหนาที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 จึงทนต่อการแตกร้าวได้ดีขึ้นโดยไม่ทำให้ความชัดเจนของหน้าจอลดลง นอกจากนั้น Apple Watch Series 7 ยังผ่านการรับรองความสามารถในการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X จึงทนทานยิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชายหาดหรือทะเลทราย ขณะที่ยังคงประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในขณะว่ายน้ำด้วยความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ WR50
การชาร์จที่เร็วยิ่งขึ้น
Apple Watch Series 7 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และชาร์จเร็วขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 ด้วยสถาปัตยกรรมการชาร์จแบบใหม่และสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C5
watchOS 8
watchOS 8 มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาเพิ่มเติมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับจอภาพที่ใหญ่ขึ้นบน Apple Watch Series 7 ได้แก่ หน้าปัด Contour ใหม่ที่นำตัวเลขบอกเวลาไปไว้ชิดขอบของจอภาพและเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลตลอดวัน พร้อมทั้งเน้นเวลาในชั่วโมงปัจจุบันให้โดดเด่น หน้าปัด Modular Duo ใหม่ซึ่งใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มขึ้นด้วยการแสดงกลไกหน้าปัดขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลคู่กันสองแถวตรงกลาง นอกจากนั้นยังมีหน้าปัด World Time แบบคลาสสิกซึ่งอิงตามนาฬิกาแบบดั้งเดิมและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทาง โดยหน้าปัดนี้จะทำให้ผู้ใช้ได้ติดตามเวลาของทั้ง 24 เขตเวลาจากหน้าปัดสองวงที่ซ้อนกัน ซึ่งใช้งานได้กับ Apple Watch Series 4 หรือใหม่กว่า ขณะที่หน้าปัด “ภาพถ่ายบุคคล” ใช้ความสามารถในด้านมิติความลึกของโหมดภาพถ่ายบุคคลบน iPhone® ในการสร้างประสบการณ์ที่สวยงามและเป็นส่วนตัว
แอปทำสมาธิใหม่ การติดตามอัตราการหายใจขณะนอนหลับ และประเภทการออกกำลังกายใหม่อย่างไทชิและพิลาทิสสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวมของผู้ใช้ได้ แอปกระเป๋าสตางค์และแอปบ้านใหม่ยังทำให้ Apple Watch กลายเป็นเครื่องมือที่สะดวกยิ่งขึ้นในการเปิดรถหรือเข้าออกสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ใช้พักอาศัย ทำงาน หรือไปเยือน การเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแอปข้อความและแอปรูปภาพก็ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับคนที่พวกเขาที่รักได้ง่ายกว่าเดิม
อัปเดตการปั่นจักรยานการออกกำลังกายและการตรวจจับการล้ม
watchOS 8 ยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับทุกคนที่ปั่นจักรยานอีกด้วย โดย Apple Watch จะใช้อัลกอริทึมขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก GPS, อัตราการเต้นของหัวใจ, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปเพื่อตรวจจับเมื่อผู้ใช้เริ่มปั่นจักรยาน และแจ้งให้พวกเขาเริ่มต้นการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกลางแจ้ง หากยังไม่ได้กดเริ่ม6 ซึ่งนักปั่นจักรยานจะเห็นค่าวัดต่างๆ ตั้งแต่เริ่มออกกำลังกายครั้งแรก เช่นเดียวกับการแจ้งเตือนการออกกำลังกายอัตโนมัติอื่นๆ นอกจากนี้ การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานยังมีคุณสมบัติหยุดพักและทำต่อโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ค่าวัดต่างๆ จึงสะท้อนเวลาจริงที่ใช้ในการเคลื่อนไหวเมื่อเทียบกับการหยุดนิ่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น การหยุดรอที่สัญญาณไฟ
Apple Watch สามารถวัดแคลอรี่ที่เคลื่อนไหวได้แม่นยำยิ่งขึ้นเมื่อปั่นจักรยานไฟฟ้า เนื่องจากอัลกอริทึมการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานที่อัปเดตใหม่จะสามารถประเมิน GPS และอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อระบุได้แน่ชัดขึ้นว่าผู้ใช้กำลังปั่นจักรยานโดยใช้ตัวช่วยปั่นหรือใช้กำลังขาเพียงอย่างเดียว และการตอบสนองด้วยเสียงใหม่ผ่านลำโพงในตัวของ Apple Watch, AirPods® หรือหูฟังบลูทูธอื่นๆ จะคอยแจ้งความก้าวหน้าในการออกกำลังกายและสถานะวงแหวนของกิจกรรมให้ผู้ใช้ทราบโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้จึงจดจ่ออยู่กับกิจกรรมต่างๆ เช่น การวิ่งหรือ HIIT ได้
การตรวจจับการล้มบน Apple Watch ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ทรงคุณค่านับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 โดยคุณสมบัตินี้จะรับรู้ได้เมื่อผู้ใช้ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาประมาณหนึ่งนาทีหลังตรวจพบการล้มอย่างรุนแรง และสามารถเริ่มโทรติดต่อบริการฉุกเฉินได้โดยตรงจากข้อมือ และใน watchOS 8 อัลกอริทึมการตรวจจับการล้มจะได้รับการอัปเดตและปรับให้เหมาะสำหรับการตรวจจับการล้มในระหว่างการออกกำลังกายประเภทต่างๆ รวมถึงการปั่นจักรยาน ทั้งยังได้รับการปรับแต่งมาให้รับรู้ถึงท่าทางเฉพาะและแรงกระแทกจากการล้มระหว่างปั่นจักรยานและการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ ด้วย7
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch
คอลเลกชั่น Apple Watch Series 7 มาพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมใน 5 สีใหม่ ได้แก่ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเขียว สีน้ำเงินใหม่ และรุ่น (PRODUCT)RED พร้อมด้วยสายนาฬิกา Apple Watch ในโทนสีใหม่ๆ ที่เข้ากันได้กับ Apple Watch ทุกรุ่น นอกจากนั้น Apple Watch Series 7 ยังใช้งานกับสาย Apple Watch ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย
ขณะที่รุ่นสแตนเลสสตีล, Apple Watch Edition, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 จะยังคงมาในสีเดิม
ขณะที่ Apple Watch Nike และ Apple Watch Hermès จะมาพร้อมสายนาฬิกาและหน้าปัดใหม่สุดพิเศษภายในปีนี้เช่นกัน สาย Nike Sport Loop โฉมใหม่มาในสามสีสันและโดดเด่นด้วยโลโก้ Nike Swoosh พร้อมตัวอักษรที่รวมเข้ากับการถักทอของสาย จับคู่มาอย่างลงตัวกับหน้าปัดนาฬิกา Nike Bounce ใหม่ ซึ่งจะเคลื่อนไหวแบบไดนามิกเมื่อมีการแตะหน้าจอ เลื่อน Digital Crown® หรือขยับข้อมือ
นอกจากสีสันที่ได้รับการอัปเดตใหม่ในสไตล์คลาสสิก, Attelage และ Jumping แล้ว Apple Watch Hermès ยังมาพร้อมสไตล์ใหม่อีกสองสไตล์ ได้แก่ สายแบบ Circuit H ในดีไซน์อันโดดเด่นสะดุดตาด้วยลวดลายกราฟิกของโซ่สมอเรืออันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งพิมพ์ลงบนหนัง Swift และจับคู่มากับหน้าปัดนาฬิกาที่ช่วยตอกย้ำความสมบูรณ์แบบ ส่วนสายแบบ Double Tour Gourmette นั้นเป็นการย้อนรำลึกถึงดีไซน์ปลอกคอสุนัขของ Hermès ในช่วงทศวรรษ 1930 โดยการนำหนัง Barénia สี Fauve อันอ่อนนุ่มมารังสรรค์ให้เป็นลายห่วงถักคล้องเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน สายนี้จะโอบรอบข้อมือของคุณสองรอบอย่างงดงามและเผยให้เห็นลายห่วงโซ่อันเป็นเอกลักษณ์ที่คล้องกันไปเรื่อยๆ
Apple Fitness+
ในวันจันทร์ที่ 27 กันยายนนี้ Apple Fitness+℠ ซึ่งเป็นบริการฟิตเนสบริการแรกที่สร้างขึ้นโดยอิงจาก Apple Watch ทั้งหมดจะเปิดตัวประเภทการออกกำลังกายใหม่ที่จะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายด้วยพิลาทิส และวิธีง่ายๆ ในการฝึกสมาธิได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการทำสมาธิแบบมีคำแนะแนวทาง
นอกจากนี้ Fitness+ จะเปิดตัวโปรแกรมใหม่ในชื่อ Workouts to Get Ready for Snow Season ซึ่งนำโดยเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยและนักเล่นสกีแชมป์โลก 5 สมัยอย่าง Ted Ligety พร้อมด้วยเทรนเนอร์ของ Fitness+ Anja Garcia และภายในปีนี้ Fitness+ จะเปิดตัวการออกกำลังกายแบบกลุ่มด้วย SharePlay ซึ่งผู้ใช้สามารถออกกำลังกายกับเพื่อนได้ถึง 32 คนในคราวเดียวเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กันและกัน
นอกจากนั้น Fitness+ จะขยายการให้บริการไปยัง 15 ประเทศใหม่ภายในปีนี้ ได้แก่ ออสเตรีย บราซิล โคลอมเบีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อินโดนีเซีย อิตาลี มาเลเซีย เม็กซิโก โปรตุเกส รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย สเปน สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะมีให้บริการเป็นภาษาอังกฤษพร้อมคำบรรยายใน 6 ภาษา เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกสามารถสัมผัสประสบการณ์การออกกำลังกายที่นำโดยทีมผู้ฝึกสอนที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมด้วยแนวทางที่เหมาะสำหรับทุกคน
Apple Watch กับสิ่งแวดล้อม
Apple Watch Series 7 มีการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้มากกว่า Apple Watch รุ่นอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำมั่นของ Apple ในด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงใน Taptic Engine® และมีการใช้ทังสเตนรีไซเคิลเกือบ 100% ทั่วทั้งผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวเรือนก็ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% สำหรับรุ่นอะลูมิเนียม และ Apple Watch Series 7 ยังผลิตขึ้นโดยไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น ปรอท, PVC, เบริลเลียม และ BFR อีกด้วย
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ จนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ
การวางจำหน่าย
- Apple Watch Series 7 ทุกรุ่นจะวางจำหน่ายภายในปีนี้
- สาย Apple Watch ใหม่ และสาย Apple Watch Nike สามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ apple.com/th/store และแอป Apple Store
- Apple Watch Hermès Series 7 และสาย Apple Watch Hermès ใหม่จะวางจำหน่ายภายในปีนี้
- watchOS 8 จะพร้อมใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 3 และใหม่กว่า ในวันอังคารที่ 21 กันยายน และต้องใช้กับ iPhone 6s หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 15 หรือใหม่กว่า คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในอุปกรณ์บางเครื่องและในบางภูมิภาค
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน
- Apple Watch Series 7 มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตรตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ซึ่งหมายถึงอาจสามารถใช้ในกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือทะเล แต่ไม่ควรใช้ Apple Watch Series 7 ในการดำน้ำลึก การเล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูงหรือต้องอยู่ในน้ำที่ลึกกว่าระดับน้ำตื้น สายสแตนเลสสตีลและสายหนังไม่มีความสามารถในการทนน้ำ
- แอป ECG อาจไม่มีให้บริการในบางภูมิภาค
- การวัดค่าด้วยแอปออกซิเจนในเลือดไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานทางการแพทย์ รวมถึงเพื่อวินิจฉัยตนเองหรือปรึกษาแพทย์ แต่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านฟิตเนสและสุขภาพที่ดีโดยทั่วไปเท่านั้น
- การชาร์จที่เร็วขึ้นอาจไม่มีให้บริการในบางภูมิภาค 6.ใช้งานได้บน Apple Watch SE, Apple Watch Series 6 และ Apple Watch Series 7
- การตรวจจับการล้มสำหรับการออกกำลังกายจะมาพร้อมการอัปเดต watchOS 8 ภายในปีนี้สำหรับ Apple Watch Series 4 และใหม่กว่า คุณสมบัตินี้ใช้กับการออกกำลังกายที่เริ่มต้นในแอปออกกำลังกายหรือแอปออกกำลังกายของบริษัทอื่นที่ซิงค์กับแอปสุขภาพ
Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการแนะนำ Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, Apple Watch และ Apple TV แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ทั้งห้าของ Apple ได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS มาพร้อมประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมบนอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่อง และเสริมสร้างการบริการที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ใช้ รวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple กว่าแสนคนทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และทำให้โลกใบนี้ดีกว่าที่เคยเป็นมา