หลังจากที่ OPPO ได้เปิดตัว OPPO Reno5 Series 5G ไปในช่วงต้นปี 2021 ที่ผ่านมาซึ่งก็มอบประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพแก่วงการสมาร์ทโฟนมาอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ก็ถึงเวลาสานต่อความสำเร็จด้วยการเปิดตัว OPPO Reno6 Z 5G อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับสโลแกน “อารมณ์ไหน ก็พอร์ตเทรต” แน่นอนว่านอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่นแล้ว ฟีเจอร์กล้องซึ่งถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของรุ่นนี้ไม่แพ้รุ่นอื่นๆ จะสวยงามขนาดไหนมาดูกันได้เลย โดยทีมงาน @Flashfly นำเสนอพรีวิวพร้อมแกะกล่อง OPPO Reno6 Z 5G ให้ชมกันไปก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว
สเปก OPPO Reno6 Z 5G
- จอแสดงผล AMOLED (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.43 นิ้ว
- กล้องหลัง 64MP AI Triple Camera
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- รองรับการ์ด microSD/SDXC
- ระบบยืนยันตัวตน In-Display Fingerprint และ Face Unlock
- การเชื่อมต่อ 5G, Dual Nano-SIM, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.1, USB Type-C และ 3.5mm Headphone Jack
- ระบบนำทาง GPS, BDS, GLONASS, GALILEO, QZSS
- เซ็นเซอร์ Magnetic sensor, Ambient light sensor, Proximity sensor, Accelerometer, Gravity sensor, Gyroscope
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 4310mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aurora และ Stellar Black
- ขนาดบอดี้ 160.20 x 73.38 x 7.97 มิลลิเมตร (Aurora)
- ขนาดบอดี้ 160.20 x 73.38 x 7.92 มิลลิเมตร (Stellar Black)
- น้ำหนักประมาณ 173 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
ดีไซน์แบบ Reno Glow ระยิบระยับสวยงาม
เพียงแค่มองจากระยะไกลก็เห็นได้ถึงความสวยงามสะดุดตาผ่านงานประกอบที่ประณีต กับดีไซน์แบบ Reno Glow ที่เป็นเอกสิทธ์จาก OPPO ทำให้พื้นผิวด้านหลังของ OPPO Reno6 Z 5G มีเอฟเฟกต์เปล่งประกายระยิบระยับ อีกทั้งยังมีพื้นผิวด้านช่วยให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก
OPPO Reno6 Z 5G ในประเทศไทยมี 2 ตัวเลือก ได้แก่ สี Aurora ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงเหนือ พร้อมเอฟเฟกต์สะท้อนแสงทำให้สีสันเปลี่ยนแปลงไปตามองศาที่แสงตกลงมากระทบ โดยใช้กระบวนการ Diamond Spectrum แบบใหม่ ทำให้มองเห็นอีกสีสันที่ซ่อนอยู่ เมื่อมองจากมุมหรือแสงที่แตกต่างกัน
อีกตัวเลือกเรียกว่า Stellar Black โทนสีเข้มสุดคลาสสิค ที่ดูเท่าไรก็ไม่เบื่อ เพราะมีการใช้เอฟเฟกต์แบบไดนามิก เพิ่มความระยิบระยับตามสไตล์ Reno Glow ให้ความรู้สึกเหมือนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีแสงของดวงดาวเปล่งประกาย
นอกเหนือจากสีสันที่สวยงามสะดุดตา OPPO Reno6 Z 5G ยังได้รับการออกแบบมาให้มีความบางเป็นพิเศษ บางเพียง 7.92 มิลลิเมตร สำหรับสี Stellar Black และ 7.97 มิลลิเมตร สำหรับสี Aurora ส่วนน้ำหนักรวมแบตเตอรี่ของทั้ง 2 สี อยู่ที่ประมาณ 173 กรัม อยู่ในเกณฑ์ที่พกพาได้สะดวก ใส่ในกระเป๋าเสื้อได้สบาย และยังจับถือได้ง่ายเป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเมื่อยมือ
ด้านหน้าใช้ดีไซน์ Punch Hole Display เจาะหลุมไว้ที่มุมบนหน้าจอ เพื่อวางกล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 90.8% และมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว มองเห็นคอนเท้นต์ต่างๆ ได้เต็มตา พื้นที่ขอบจอรอบด้านค่อนข่างบางเฉียบ
โดยเฉพาะขอบด้านข้าง และขอบบน แต่ก็ยังมีพื้นที่พอให้ติดตั้งลำโพงหูฟังไว้เหนือจอแสดงผล
ด้านหลังมาพร้อมระบบกล้อง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล วางรวมกับแฟลช LED อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าลบมุมให้โค้งมน โดยมีการติดโลโก้ 5G ใกล้กับตำแหน่งแฟลช ส่วนโลโก้ OPPO ที่มุมล่างก็จัดวางในแนวตั้ง
ขอบด้านข้างมีความบางไม่ถึง 8 มิลลิเมตร วางปุ่มเพาเวอร์แยกเดี่ยวๆ ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล
อีกข้างจะพบถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับ 2 ซิม Dual Nano-SIM พร้อมใส่การ์ด microSD/SDXC ได้อีกช่อง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพิ่ม และปุ่มลดระดับเสียง
ด้านบนมีการติดตั้งไมโครโฟนตัวที่ 2 มาให้ด้วย
ด้านล่างประกอบด้วยช่องเสียงหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพง
จอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว
OPPO Reno6 Z 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ 6.43 นิ้ว ขอบเขตสี 96% NTSC ให้สีสันคมชัดสมจริง รองรับคอนเท้นต์ระดับ HD ของ Netflix และ Amazon Prime Video โดยมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 20:9 ความหนาแน่นของพิกเซล 409PPI อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 ความสว่างทั่วไป 430 นิต ความสว่างสูงสุด 800 นิต อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 60Hz แต่ให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate สูงสุดที่ 180Hz สำหรับโหมด Game
จอแสดงผลของ OPPO Reno6 Z 5G ยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เมื่อจองหน้าจอเป็นเวลานาน ด้วยการปรับความสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด
สแกนนิ้วใต้จอและปลดล็อกด้วยใบหน้า
ในช่วงสถานการณ์วิกฤตด้านสุขภาพที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ หน้ากากอนามัยกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ทุกคนต้องสวมทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน ดังนั้น การปลดล็อคสมาร์ทโฟนด้วยการสแกนใบหน้า อาจทำได้ไม่สะดวก OPPO Reno6 Z 5G จึงติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ที่ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) เพื่อให้ผู้ใช้งานปลดล็อคได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเสี่ยงถอดหน้ากากออก
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การปลดล็อคสมาร์ทโฟนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้งานอยู่ภายในบ้านหรือในพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย ก็ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Face Unlock สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าถูกติดตั้งไว้ในหลุมที่มุมบนของจอแสดงผล โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองกว้าง 85 องศา เลนส์ 5P มาพร้อมโหมดถ่ายภาพแบบเดียวกับกล้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น Bokeh Flare Portrait, Portrait Beautification Video, Dual-View Video แต่การถ่ายวิดีโอรองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
กล้องหลัง 3 ตัว 64 ล้านพิกเซล
ระบบกล้องหลัง ถือเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน OPPO Reno Series มาตั้งแต่รุ่นแรก และในรุ่นล่าสุดก็มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เสริมเข้ามาช่วยให้ OPPO Reno6 Z 5G ถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Portrait เพื่อให้สมกับสโลแกน “อารมณ์ไหน ก็พอร์ตเทรต” โดยวางกล้องหลังมาให้ 3 ตัว ในระบบ 64MP AI Triple Camera ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 มุมมองกว้าง 79 องศา เลนส์ 6P
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 119 องศา เลนส์ 5P
- กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองกว้าง 88 องศา เลนส์ 3P
เมื่อเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Night, Video, Photo, Portrait และถ้าต้องการดูโหมดอื่นๆ เพิ่มเติมให้แตะที่ More จะพบกับโหมด Dual-View Video, Slo-mo, Time-lapse, Expert, Extra HD, Pano, Text Scanner, Macro, Sticker และ Soloop Templates ส่วนขอบบนของแอปกล้อง จะเป็นแถบเครื่องมือสำหรับตั้งค่ากล้องเพิ่มเติม แต่จะแสดงฟีเจอร์แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโหมดถ่ายภาพที่เลือก
Bokeh Flare Portrait
OPPO Reno6 Z 5G ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพ Portrait จึงมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Bokeh Flare Portrait ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้อย่างคมชัดโดดเด่นด้วยการละลายฉากหลังเหมือนถ่ายจากกล้องมืออาชีพ โดยเข้าไปที่แอปกล้อง เลือกโหมด Portrait หรือ รูปคน จากนั้นแตะที่ไอคอน Filter ที่แถบเครื่องมือด้านบน (ไอคอนวงกลม 3 วง วางทับซ้อนกัน) จะพบกับ Filter ต่างๆ ให้เลือกใช้ ซึ่งในที่นี้ให้เลือกฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait
ฟิลเตอร์ Bokeh Flare Portrait สามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพแสงตอนกลางวัน เวลากลางคืน และใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เมื่อเปิดใช้จะช่วยละลายแสงที่อยู่ด้านหลังตัวบุคคลให้ละลายเป็นดวงไฟโบเก้ โดยที่ยังรักษาความคมชัดให้กับตัวบุคคล และตัดขอบกับฉากหลังได้อย่างแนบเนียน
Portrait Beautification Video
นอกจากจะใช้โหมด Portrait กับการถ่ายภาพนิ่งได้แล้ว OPPO Reno6 Z 5G ยังสามารถใช้โหมด Portrait ในการถ่ายวิดีโอได้ด้วย เพียงเปิดเข้าไปในแอปกล้อง เลือกโหมด Video แล้วแตะที่ไอคอนใบหน้า ก็จะเป็นการเปิดใช้งาน Portrait Beautification Video (สามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า)
Portrait Beautification Video อาศัย AI ช่วยจดจำใบหน้าได้มากถึง 193 จุด เพื่อลดริ้วรอย จุดด่างดำ พร้อมปรับโทนสีผิวบนใบหน้าให้เหมาะสมกับสีผิวช่วงคอและแขน อีกทั้งยังช่วยปรับความสดใสของดวงตา และยังคงรักษาความงามให้ดูเป็นธรรมชาติ
Focus Tracking
โหมดถ่ายวิดีโอของ OPPO Reno6 Z 5G ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บภาพบุคคลที่กำลังเคลื่อนไหวได้คมชัดมากขึ้น โดยใช้ฟีเจอร์ Focus Tracking หลังจากเริ่มถ่ายวิดีโอให้แตะหน้าจอ 2 ครั้ง ที่ตัวบุคคล ระบบติดตามการเคลื่อนไหวก็จะทำงาน โดยจะโฟกัสไปที่ตัวบุคคลไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปทางใด และสามารถใช้ติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้เช่นกัน
Dual-View Video
โหมด Dual-View Video เป็นการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน ซึ่งจะได้ภาพจากกล้องทั้ง 2 ตัว อยู่ในเฟรมเดียวกัน โดยสามารถปรับเลย์เอาท์ หรือ แบ่งหน้าต่างได้ 3 แบบ คือ Split (แบ่งหน้าต่างซ้าย-ขวา), Round (ภาพจากกล้องอีกตัวจะลอยอยู่ในหน้าต่างขนาดเล็กที่มีขอบมุมโค้งมน) และ Rectangle (ภาพจากกล้องอีกตัวจะลอยอยู่ในหน้าต่างขนาดเล็ก)
โหมด Dual-View Video เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Vlogger หรือผู้สร้างคอนเท้นต์วิดีโอ ตัวอย่างเช่น ใช้กล้องหลังถ่ายรีวิวอาหารหรือของเล่น พร้อมกับใช้กล้องหน้าบันทึกภาพตัวเองในระหว่างอธิบายไปด้วย หรือ ใช้กล้องหลังเก็บภาพบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมกับใช้กล้องหน้าบันทึกภาพตัวเองในขณะแนะนำสถานที่นั้น
ถ่ายวิดีโอระดับ 4K
กล้องหลังของ OPPO Reno6 Z 5G สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดในระดับ 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวมาให้ด้วย ที่แถบเครื่องมือด้านบน (ถัดจากไอคอนแฟลช) ส่วนกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที แต่ถ้าเปิดโหมด Portrait Beautification Video ความละเอียดจะถูกจำกัดไว้ที่ HD 720p
เปลี่ยนโทนสีตามใจด้วย AI Palette
เปลี่ยนโทนสีหรือใส่ฟิลเตอร์ภาพถ่ายได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า AI Palette แบบเดียวกับที่พบในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์อย่าง OPPO Find X3 Pro 5G เพียงเข้าไปที่แอป Photos แล้วเลือกภาพถ่ายที่ต้องการแก้ไข จากนั้นแตะไอคอน Edit ด้านล่าง เลือกเครื่องมือ AI Palette และแตะปุ่ม + เพื่อเข้าไปเลือกภาพถ่ายอื่นๆ ตามโทนสีที่ต้องการนำมาใช้กับภาพต้นฉบับ ซอฟต์แวร์ก็จะเปลี่ยนโทนสีภาพถ่ายต้นฉบับเหมือนไปถ่ายมาใหม่จากสถานที่เดิม แต่ได้โทนสีที่ต่างออกไป
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิปเซ็ต Dimensity 800U 5G
OPPO Reno6 Z 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa Core (Arm Cortex-A76 @ Up to 2.4GHz + Arm Cortex-A55 @ Up to 2GHz) มาพร้อมจีพียู Arm Mali-G57 MC3
เพื่อให้เล่นเกมได้นานต่อเนื่องอย่างราบรื่น OPPO Reno6 Z 5G จึงมาพร้อมระบบระบายความร้อนทั้งระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เรียกว่า Multi-Cooling ช่วยทำให้อุณหภูมิของสมาร์ทโฟนเย็นลงในระหว่างการใช้งานหรือเล่นเกม
ด้านความจำมากับ RAM 8GB แต่รองรับเทคโนโลยี RAM Expansion สามารถนำความจุในตัวมาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 5GB ขณะที่ความจุในตัวให้มา 128GB แต่ก็เพิ่มพื้นที่ได้ด้วยการ์ดความจำภายนอก microSD/SDXC
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 800U ยังมีชิปโมเด็ม 5G ในตัว จึงสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล รองรับการเล่นเกมออนไลน์และสตรีมภาพยนตร์ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ OPPO Reno6 Z 5G ยังรับสัญญาณ 5G ได้ดีขึ้น ด้วยการออกแบบเสาอากาศให้จับสัญญาณได้ 360 องศา เพื่อให้การเชื่อมต่อมีความเสถียรมากที่สุด
เอาใจคอเกมด้วย Game Focus Mode
นอกจากชิประดับ 7 นาโนเมตร ความจำ RAM ที่ขยายได้สูงสุด 13GB และระบบระบายความร้อน OPPO Reno6 Z 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Quick Startup และ Game Focus Mode เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
Quick Startup ช่วยให้ผู้ใช้งาน OPPO Reno6 Z 5G เข้าสู่เกมได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการจดจำเกมที่เล่นอยู่เป็นประจำ แล้วปล่อยให้ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้เข้าสู่เกมได้ทันทีเมื่อผู้ใช้งานเปิดเกมอีกครั้ง โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Games กด Settings ที่ด้านข้าง และเปิดใช้งาน Quick Startup
Game Focus Mode ช่วยป้องกันการรบกวนต่างๆ ในระหว่างเล่นเกม เพื่อไม่ให้มีสิ่งใดเข้ามารบกวนสมาธิในจังหวะสำคัญ โดยสามารถเปิดใช้งานได้หลังจากเข้าสู่เกม ให้ปัดนิ้วออกจากด้านซ้าย เพื่อเปิด Side Bar จากนั้นให้เปิดใช้งาน Game Focus Mode
ชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0
OPPO Reno6 Z 5G รองรับการเล่นเกมที่ยาวนานด้วยความจุแบตเตอรี่ 4310mAh และเมื่อถึงเวลาชาร์จก็ไม่ต้องรอนานเกินไป เพราะสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 49 นาที และแน่นอนว่าคงไม่มีใครปล่อยให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนหมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จแน่นอน ดังนั้น การชาร์จในชีวิตจริงจะไวกว่า 49 นาที โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 30W มาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
กรณีแบตเตอรี่ใกล้หมด โดยที่ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งจ่ายไฟ OPPO Reno6 Z 5G ก็มาพร้อมฟีเจอร์ Super Power Saving Mode ซึ่งเป็นโหมดประหยัดพลังงานพิเศษ สามารถขยายระยะเวลาการใช้งานของสมาร์ทโฟนในช่วงเวลาที่ต้องการให้ยาวนานมากที่สุด และยังมี Super Nighttime Standby ช่วยลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ในเวลากลางคืนในระหว่างที่ผู้ใช้งานนอนหลับ
ปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ ColorOS 11.1
OPPO Reno6 Z 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ ColorOS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11 ที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น
ผ่อนคลายไปกับ O Relax แอปพลิเคชั่นที่ช่วยบรรเทาความกังวลผ่านเสียงที่ทำให้สบายใจ ไม่ว่าจะเป็น The Sounds of the Cities, White Noise Customization และยังมีมินิเกมให้เล่นคลายเครียด
ColorOS 11.1 ได้รับรูปภาพวอลเปเปอร์ชุดใหม่ Artist Wallpapers ที่มีความสวยงามในเชิงวิทยาศาสตร์ สร้างขึ้นด้วยกล้องจุลทรรศน์ โดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพความเร็วสูง เพื่อจับภาพปฏิกิริยาเคมี ทำให้ได้รูปภาพที่เป็นการผสานกันระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี
แปลภาษาจากข้อความบนภาพได้ง่ายๆ เพียงจับภาพ เลือกส่วนที่ต้องการแปล แล้วแตะปุ่มแปล เพื่อให้ Google Lens ช่วยแปลภาษา ซึ่งรองรับมากกว่า 100 ภาษา
ควบคุมการใช้งานแบบไร้สัมผัส
OPPO Reno6 Z 5G รองรับการควบคุมโดยไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Air Gestures สามารถเลื่อนหน้าจอ เพียงโบกมือขึ้นหรือลงผ่านหน้าจอ และเมื่อมีสายเรียกเข้าก็สามารถรับสายได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอ และยังมีอัลกอริทึมที่ชาญฉลาด สามารถตรวจจับการแอบดูของคนรอบข้างได้ โดยใช้ AI ช่วยตรวจจับบุคคลอื่นที่กำลังจ้องมองมาที่หน้าจอ ในขณะที่สมาร์ทโฟนได้รับการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนจะถูกซ่อนไว้ เพื่อไม่ให้ให้มองเห็นนอกจากเจ้าของสมาร์ทโฟน
AI ในสมาร์ทโฟน OPPO Reno6 Z 5G ยังถูกนำมาใช้กับฟีเจอร์ Adaptive Sleep ซึ่งจะคอยตรวจจับใบหน้าผู้ใช้งานในระหว่างจ้องมองหน้าจอ เพื่อไม่ให้แสงสว่างบนหน้าจอลดลงหรือเข้าสู่โหมดสลีป
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
OPPO Reno6 Z 5G ถูกสร้างมาเพื่อเอาใจคนรักการถ่ายภาพและวิดีโอเป็นพิเศษ นอกจากจะให้ความคมชัด ยังเสริมด้วย Bokeh Flare Portrait, Portrait Beautification Video และฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพ Portrait ได้อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามและโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ด้านประสิทธิภาพก็ถือว่าตอบสนองการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยชิประดับ 7 นาโนเมตร มีระบบระบายความร้อน ขยาย RAM เพิ่มได้ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เร็วๆ สุดๆ บนเครือข่าย 5G แบตเตอรี่ก็ให้มาไม่น้อย และยังชาร์จได้เต็มเร็วทันใจ จึงเชื่อว่า OPPO Reno6 Z 5G จะเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจะถูกใจคนรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งการถ่ายภาพ ความบันเทิง เล่นเกม โดยที่มีราคาไม่สูงเกินไป
OPPO Reno6 Z 5G ประกาศราคาทางการในประเทศไทยเพียง 12,990 บาทมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aurora และ Stellar Black ผู้ที่สนใจสามารถจับจองหรือสั่งซื้อล่วงหน้าได้ในระหว่างวันที่ 22 – 29 กรกฎาคม 2564 โดยผู้ที่จับจองในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับของสมนาคุณสุดพิเศษ E-VIP Card รับประกันหน้าจอแตกระยะเวลา 1 ปี และ Bluetooth Speaker มูลค่ารวมกว่า 7,099 บาทเลยทีเดียว จองผ่านค่ายมือถือรับส่วนลดสูงสุด 8,000 บาท
OPPO Enco Air ราคา 1,999 บาท วางจำหน่าย 22 กรกฎาคมนี้วันแรก ถ้าซื้อแพคคู่พร้อม OPPOReno6 Z 5G ลดราคาเหลือ 1,499 บาท