หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 ได้รับการเปิดตัวในช่วงที่รุ่น WF-1000XM3 กำลังจะมีอายุครบรอบ 2 ปีพอดี ซึ่งช่วงเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา WF-1000XM4 ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าในหลายๆ ด้านเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทั้งดีไซน์ที่ออกแบบใหม่ให้มีขนาดเล็กลง พกพาสะดวกขึ้น ฮาร์ดแวร์ภายในก็มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ส่วนจะดีขึ้นอย่างไร มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เลื่อนลงมาอ่านรีวิวจากทีมงาน @flashfly กันได้เลย
แกะกล่อง Sony WF-1000XM4
โดยแพ็คเกจ Sony WF-1000XM4 ที่ทาง Sony ส่งมาให้รีวิวนั้นมาพร้อมกล่องยาวสีขาว ด้านในนอกจากมีกล่อง Sony WF-1000XM4 กับซองหนังสีดำสวยงามมาให้ด้วย สำหรับแพ็คเกจที่วางจำหน่ายตามร้านทั่วไปจะมีเฉพาะกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Sony WF-1000XM4 เท่านั้น
ทางด้านกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Sony WF-1000XM4 ไม่ได้เป็นกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ Sony มีแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม Made to be Remade ด้วยการใช้กระดาษที่ผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิล ไม่มีส่วนประกอบของพลาสติก จึงมีความเป็นพิษต่ำ และช่วยลดปริมาณขยะได้ถึง 99%
ด้วยเหตุผลข้างต้น ทำให้วัสดุทั้งภายนอกและภายในกล่องบรรจุภัณฑ์เป็นกระดาษที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลทั้งหมด โดยใช้ดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย และพันด้วยแผ่นกระดาษที่มีชื่อ Sony WF-1000XM4 ติดอยู่เหนือรูปภาพผลิตภัณฑ์ เมื่อแกะแผ่นกระดาษที่พันรอบกล่องออกไป ก็จะสามารถเปิดฝากล่องได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับเคสชาร์จของหูฟัง Sony WF-1000XM4 เป็นอย่างแรก (ตัวหูฟังถูกเก็บอยู่ในเคสชาร์จ) โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และ สีเงิน
ถัดลงมาจะเป็นกระดาษรองเคสชาร์จ เมื่อหยิบออกไปจะพบกับซองเก็บเอกสารต่างๆ รวมถึงการ์ดที่บอกว่าสนับสนุนระบบเสียง 360 Reality Audio
ชั้นล่างสุดเป็นที่เก็บจุกหูฟังสำรองขนาด S และ L ส่วนขนาด M ติดตั้งมาให้แล้ว นอกจากนี้ ยังแถมสายชาร์จมาให้ด้วย เป็นแบบ USB Type-A to Type-C
ดีไซน์ใหม่หมด
Sony WF-1000XM4 มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน ตั้งแต่ตัวเคสชาร์จที่มีขนาดเล็กลงถึง 40% จึงพกพาได้สะดวกขึ้นมาก และมีให้เลือก 2 สี ตามสีของหูฟังที่อยู่ภายใน ได้แก่ สีดำ และ สีเงิน
ไม่ใช่เพียงขนาดที่เล็กลง แต่เคสชาร์จของ Sony WF-1000XM4 ยังสามารถวางตั้งได้แล้ว เนื่องจากเคสชาร์จของรุ่น WF-1000XM4 สนับสนุนการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย จึงถูกออกแบบมาให้สามารถวางตั้งบนแท่นชาร์จไร้สายได้อย่างสะดวก
ด้านหน้าเคสชาร์จมีการซ่อมแถบไฟแสดงสถานะไว้ตรงรอยแยกของฝาเคส ด้านบนจะมีโลโก้ Sony
ส่วนด้านหลังคสชาร์จ ยังมีพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ กรณีที่ไม่มีแท่นชาร์จไร้สาย หรือต้องการชาร์จแบตเตอรี่ให้ไวขึ้น
เมื่อเปิดฝาเคสชาร์จขึ้นมา ก็จะพบกับตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง ในสีเดียวกับตัวเคสด้านนอก และมีการออกแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน
นอกจากดีไซน์จะเปลี่ยนแปลงไป หูฟัง Sony WF-1000XM4 ยังมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อน 10% จึงช่วยให้สวมใส่ได้สบายขึ้น
จุกหูฟังของ Sony WF-1000XM4 ก็มีการเปลี่ยนวัสดุใหม่เปลี่ยนจากยาง มาเป็นเมมโมรี่โฟมหรือโพลียูรีเทน ซึ่งช่วยให้จุกหูฟังแน่นกระชับกับรูหูมากขึ้น เพียงแค่สวมใส่เข้าไปก็รู้สึกได้ทันทีว่าได้ยินเสียงจากภายนอกลดลง
นอกจากนี้ Sony WF-1000XM4 ยังมีฟีเจอร์ Fitting Detection ที่ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่น Headphones Connect ของ Sony ช่วยตรวจจับว่าผู้ใช้งานสวมใส่หูฟังได้พอดีหรือไม่ เพื่อค้นหาขนาดของหูฟังที่เหมาะสมที่สุด
อีกคุณสมบัติที่หูฟัง Sony WF-1000XM4 มี แต่ไม่มีในรุ่นก่อน ก็คือความสามารถในการต้านทานน้ำ WF-1000XM4 ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำ IPX4 ช่วยให้ผู้สวมใส่มั่นใจได้ว่าหูฟังจะปลอดภัยจากเหงื่อ ในระหว่างสวมใส่ขณะออกกำลังกาย รวมถึงป้องกันจากสายฝนที่ตกลงมาเบาๆ แม้แต่ละอองน้ำที่กระเซ็นมาโดน
ตัดเสียงรบกวนรบกวนได้อย่างสมบูรณ์
หูฟัง WF-1000XM3 เป็นที่ยอมรับในเรื่องของระบบตัดเสียงรบกวน และในรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง WF-1000XM4 ก็ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนจุกหูฟังมาใช้โฟมโพลียูรีเทน ที่ให้ทั้งความนุ่มสวมใส่สบาย และมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดช่องว่างระหว่างพื้นผิวของเอียร์บัดกับช่องหู จึงกระชับและพอดีกับช่องหูมากยิ่งขึ้น เพียงแค่สวมเข้าไปก็รู้สึกได้ทันทีว่าเสียงดังจากภายนอกลดลงไปอย่างชัดเจน
Sony WF-1000XM4 มาพร้อมไมโครโฟนที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงสัญญาณรบกวนคุณภาพสูงถึง 2 ตัว ช่วยให้การตัดเสียงรบกวนมีความแม่นยำสูงสุด และยังเพิ่มฟีเจอร์ Wind Reduction ที่ไม่มีในรุ่นก่อน สามารถดักเสียงรบกวนจากลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Wind Reduction จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานในบริเวณที่มีลมแรง
นอกจากการออกแบบใหม่ หูฟัง Sony WF-1000XM4 ยังได้รับเทคโนโลยีการตัดเสียงที่ดีที่สุด ด้วยการทำงานร่วมกันของหน่วยประมวลผล Integrated Processor V1 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ทำงานร่วมกับชิป QN1e รูปแบบใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบตัดเสียงรบกวน และเทคโนโลยี Bluetooth System on Chip รองรับการตัดเสียงรบกวนในระดับสูงสุด โดยใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นก่อน
ไม่เพียงแค่นั้น ไดร์เวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตร ยังได้รับการเพิ่มปริมาณแม่เหล็กให้ใหญ่ขึ้น 20% รวมถึงเพิ่มไดอะแฟรม ช่วยให้เกิดช่วงความถี่ต่ำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะใช้ไดร์เวอร์ขนาดขนาดเดียวกับรุ่นก่อนก็ตาม
โหมดฟังเสียงภายนอก
ผู้สวมใส่หูฟัง Sony WF-1000XM4 ไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออก เพื่อฟังเสียงจากภายนอก หรือสนทนากับคนรอบข้าง เนื่องจากมาพร้อมโหมด Quick Attention ช่วยลดระดับความดังของเสียงเพลงที่กำลังฟัง พร้อมเปิดรับเสียงรอบข้างทันที เพียงแค่แตะนิ้วมือบนหูฟังข้างซ้าย
Sony WF-1000XM4 ยังมีฟีเจอร์ Speak-to-Chat หากต้องการสนทนากับคนรอบข้าง ในขณะที่สวมใส่หูฟังอยู่ ก็เพียงแค่พูดขึ้นมา เสียงเพลงในหูฟังจะหยุดเล่นโดยอัตโนมัติ พร้อมเปิดรับเสียงจากภายนอก เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถสนทนาได้ทันที และเมื่อจบการสนทนา เสียงเพลงในหูฟังก็จะเริ่มเล่นอีกครั้งโดยไม่ต้องแตะปุ่มหรือสัมผัสใดๆ
กรณีที่ต้องการฟังเสียงภายนอกหรือสื่อสารกับคนรอบข้างอย่างจริงจัง หูฟังทั้ง 2 ข้าง ก็มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เมื่อถอดหูฟังออกเพลงจะหยุดเล่นทันที และในทางกลับกัน เมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไปอีกครั้ง เพลงก็จะเริ่มเล่นต่อโดยอัตโนมัติเช่นกัน
นอกจากนี้ Sony WF-1000XM4 มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ Adaptive Sound Control ที่สามารถจดจำได้ว่า ผู้สวมใส่กำลังทำอะไรและอยู่ที่ไหน เพื่อปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Adaptive Sound Control จดจำสถานที่โปรดได้ เช่น ออฟฟิศ ศูนย์ฟิตเนส ร้านกาแฟ โดยสามารถปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับสถานที่แต่ละแห่งได้
รองรับ LDAC ส่งสัญญาณเสียงระดับ High-Resolution
หูฟัง Sony WF-1000XM4 รองรับเทคโนโลยี LDAC ที่ไม่พบในรุ่นก่อน สามารถส่งสัญญาณเสียงความละเอียดระดับ High-Resolution Audio Wireless ได้มากกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับเสียงที่ส่งผ่าน Bluetooth ทั่วไป และนั่นทำให้ Sony ไม่จำเป็นต้องขยายขนาดไดร์เวอร์ โดยยังคงใช้ไดร์เวอร์ขนาด 6 มิลลิมตร แต่มีการเพิ่มปริมาณแม่เหล็กให้ใหญ่ขึ้น 20% รวมถึงเพิ่มไดอะแฟรม เพื่อสร้างเสียงเบสที่หนักแน่น
หน่วยประมวลผล Integrated Processor V1 ภายในหูฟัง ยังช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงและลดความผิดเพี้ยน รวมถึงเปิดการใช้งานการประมวลผลตัวแปรสัญญาณ LDAC และ DSEE Extreme ในขณะเดียวกัน การใช้ Edge-AI ยังทำให้ DSEE Extreme (Digital Sound Enhancement Engine) เพิ่มสเกลไฟล์เพลงดิจิตอลที่ถูกบีบอัดแบบเรียลไทม์ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงให้ประสบการณ์การฟังเพลงที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Sony WF-1000XM4 ยังสนับสนุนระบบเสียง 360 Reality Audio ให้ผู้สวมใส่เพลิดเพลินกับเสียงเพลงจากศิลปินคนโปรด เหมือนมีนักร้องหรือวงดนตรีมาแสดงสดอยู่ตรงหน้า และสามารถปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมสำหรับการฟังของแต่ละบุคคลได้ ผู้ใช้งานสามารถเปิดระบบเสียง 360 Reality Audio ได้จากสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone และ Android ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Sony Headphones Connect
ไมโครโฟนปรับปรุงใหม่
Sony WF-1000XM4 สามารถใช้สนทนาทางโทรศัพท์ได้ชัดเจนมากกว่ารุ่นก่อน ด้วยไมโครโฟน Beamforming ช่วยรับฟังเสียงที่ออกจากปากผู้สวมใส่เท่านั้น ทำให้ไมโครโฟนสามารถตรวจจับได้ทุกคำพูดแม้จะมีเสียงรบกวนรอบข้าง อีกทั้งยังมี Bone-conduction Sensor ทำหน้าที่รับการสั่นสะเทือนจากเสียงของผู้สวมใส่ โดยเฉพาะ ทำให้เสียงที่เปล่งออกมาทุกคำถูกส่งออกไปยังปลายสายอย่างชัดเจน
เพื่อให้การโทรแบบแฮนด์ฟรีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น Sony WF-1000XM4 จึงมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Precise Voice Pickup ช่วยทำหน้าที่ควบคุมไมโครโฟน 2 ตัวในหูฟังแต่ละข้าง และเซ็นเซอร์ทั้ง 4 ตัว ให้เข้ากับการประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูงได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เสียงการสนทนาชัดเจนยิ่งขึ้น
การเชื่อมต่อไวกว่าเดิมด้วย Fast Pair
ในรุ่นก่อนอย่าง Sony WF-1000XM3 อาศัยการจับคู่ผ่าน NFC และ Bluetooth เหมือนหูฟังทั่วไป แต่ในรุ่นใหม่ Sony WF-1000XM4 ได้รับการพัฒนาให้สามารถจับคู่ได้สะดวก รวดเร็ว และ ง่ายดายยิ่งขึ้น โดยการรองรับ Fast Pair ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google
ฟีเจอร์ Fast Pair ช่วยให้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ Android ค้นหาหูฟัง WF-1000XM4 ได้อย่างง่ายดาย เพียงนำมาอยู่ใกล้กัน ก็สามารถจับคู่ได้อย่างง่ายดาย และยังมีหน้าต่างแจ้งระดับแบตเตอรี่ให้ทราบทันทีที่เชื่อมต่อกัน
Sony WF-1000XM4 ยังรองรับคำสั่งเสียง Hey Google หรือ Alexa ผู้สวมใส่จึงสามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอลของ Google และ Amazon เพื่อขอฟังข้อมูลหรือฟังข่าวสารต่างๆ ได้แบบแฮนด์ฟรี รวมไปถึงใช้ความสามารถที่ Google Assistant และ Alexa รองรับ กรณีใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ หูฟัง Sony WF-1000XM4 ก็ยังสนับสนุน Microsoft Swift Pair ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อหูฟังรุ่นใหม่ของ Sony กับอุปกรณ์ Windows 10 ได้อย่างสะดวก
แบตเตอรี่อึดขึ้น รองรับชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย
หูฟัง Sony WF-1000XM4 สามารถให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 8 ชั่วโมง ถึงแม้จะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน และในขณะที่มีขนาดเล็กลง 10% ก็ยังให้อายุการใช้งานยาวนานกว่ารุ่นก่อนถึง 2 ชั่วโมง ส่วนเคสชาร์จมีขนาดเล็กลงจากรุ่นก่อน 40% แต่ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟังได้เต็มถึง 2 รอบ หรือ 16 ชั่วโมง นั่นเท่ากับว่าเมื่อแบตเตอรี่ของหูฟังและเคสชาร์จ ถูกชาร์จจนเต็ม จะสามารถให้อายุการใช้งานสูงสุด 24 ชั่วโมง
Sony WF-1000XM4 ยังสนับสนุนชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 5 นาที สามารถใช้ฟังเสียงได้ยาวนาน 1 ชั่วโมง โดยแอปพลิเคชั่น Sony Headphones Connect จะแจ้งให้ทราบเมื่อพลังงานแบตเตอรี่ของเคสชาร์จเหลือไม่ถึง 30%
นอกจากนี้ เคสชาร์จของ WF-1000XM4 ยังรองรับการชาร์จไร้สายด้วย ตามมาตรฐาน Qi สามารถชาร์จกับแท่นชาร์จไร้สายหรือวางบนหลังสมาร์ทโฟน ที่มีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging ได้อย่างสะดวกสบาย
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อน ที่ถูกเว้นระยะห่างไปถึง 2 ปี ทำให้ทาง Sony มีเวลาพัฒนาหูฟังรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ และดูเหมือนจะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า เนื่องจาก WF-1000XM4 ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน เมื่อเทียบกับรุ่น WF-1000XM3 ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่มีขนาดเล็กลง สวมใส่สบายขึ้น ชิปประมวลผลภายในก็ได้รับการพัฒนา จนทำให้มีการตัดเสียงที่ดีกว่าอย่างชัดเจน และยังให้ความสำคัญกับความชัดเจนในการสนทนามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับคนรอบข้าง หรือสนทนาทางโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี
สรุปแล้ว ใครที่รัก Sony WF-1000XM3 เชื่อว่าจะต้องถูกใจหูฟังรุ่นใหม่อย่าง WF-1000XM4 อย่างแน่นอน ซึ่งคราวนี้ไม่ได้เน้นเอาใจผู้ใช้งานที่รักการฟังเพลงเพียงอย่างเดียว แต่ยังใส่ใจคุณภาพของการโทรด้วย และยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน รวมถึงการชาร์จแบตเตอรี่ที่สะดวกขึ้น Sony WF-1000XM4 วางจำหน่ายในประเทศไทยราคา 8,990 บาท มีให้เลือกทั้ง สีดำ และ สีเงิน ส่วนรุ่น WF-1000XM3 ลดราคาเหลือเพียง 5,990 บาท