realme ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด realme GT 5G เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ realme ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 และยังมีจุดเด่นรอบด้านสมกับสโลแกน “เรือธงเร็วแรงเต็มสปีด – Sheer Speed Flagship” ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์พรีเมี่ยม และ คุณสมบัติที่สมาร์ทโฟนเรือธงควรจะมี โดยทีมงาน @flashfly พร้อมแล้วที่จะรีวิวให้ชม หลังจากนำเสนอพรีวิวและแกะกล่องไปแล้วก่อนหน้านี้
สเปก realme GT 5G
- จอแสดงผล 120Hz, Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 5G
- ความจำ RAM แบบ LPDDR5 + ROM แบบ UFS 3.1
- กล้องหน้า 16MP In-display Selfie Camera
- กล้องหลัง 64MP Triple Camera
- การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, USB Type-C
- ระบบนำทาง GPS, GLONSS, BEIDOU, GALILEO, QZSS
- เซ็นเซอร์ Magnetic induction sensor, Light sensor, Proximity Sensor, Gyro-meter, Acceleration sensor
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 (บนพื้นฐาน Android 11)
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
- ขนาด 158.5 x 73.3 x 9.1 มิลลิเมตร, น้ำหนัก 186.5 กรัม สำหรับสี Racing Yellow (Vegan Leather)
ดีไซน์สปอร์ตสวยหรู
realme GT 5G ผลิตออกมาให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นกระจก มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dashing Silver กับ Dashing Blue อีกเวอร์ชั่นใช้วัสดุหนังวีแกน สีเหลือง Racing Yellow ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ทีมงาน @flashfly ได้นำมารีวิว โดยมีความแตกต่างจากวอร์ชั่นกระจกที่ผิวสัมผัส ให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า เพราะมีสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นในตลาดที่ใช้วัสดุหนังวีแกน และปกติจะพบได้เฉพาะสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เท่านั้น
realme GT 5G เวอร์ชั่นหนังวีแกน ได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมียมด้วยเทคโนโลยี Dual-tone Leather Design ประกอบหนังกับฝาหลัง เพิ่มความหรูหรา และ ทนต่อรอยนิ้วมือ โดยใช้หนัง Vegetal เจเนอเรชันใหม่ที่ให้สัมผัสที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยการใช้สีเหลืองคาดด้วยแถบสีดำ ซึ่งสีเหลือง Racing Yellow สื่อถึง “รุ่งอรุณ” ของอนาคตที่สดใสในยามเช้า แสดงถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วอย่างเต็มที่
ด้านหลังยังมาพร้อมระบบกล้อง 64MP Triple Camera วางเรียงซ้อนกันในแนวตั้ง รวมกับแฟลช LED อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขอบมุมโค้งมน
มุมมองด้านหน้าจะเห็นว่ามีพื้นที่ขอบจอบางเฉียบ โดยใช้จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว และมีการเจาะหลุมไว้ที่มุมบนวำหรับติดตั้งกล้องหน้าแบบ 16MP In-display Selfie Camera ตะแกรงลำโพงหูฟัง ติดตั้งไว้ขนสุดขอบบนของจอแสดงผล
ปุ่มเพาเวอร์ ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านข้าง ซึ่งมีความบาง 9.1 มิลลิเมตร สำหรับเวอร์ชั่นหนังวีแกน (แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นกระจก จะมีความบางเพียง 8.4 มิลลิเมตร)
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual Nano SIM (ไม่มีช่องใส่การ์ด MicroSD) ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนมีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างจะพบกับช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพง
จอแสดงผล Super AMOLED ลื่นไหล 120Hz
realme GT 5G มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.43 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูง 120Hz และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate สูงสุดที่ 360Hz โดยสามารถปรับค่า Touch Sampling Rate ได้อัตโนมัติเพื่อจัดการประสิทธิภาพและพลังงานได้อย่างสมดุล จึงให้ทั้งความลื่นไหลและประหยัดแบตเตอรี่
จอแสดงผลของ realme GT 5G ยังให้สีสันที่สวยงามสมจริง รองรับขอตเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ให้ความสว่างสูงสุด: 1,000 นิต และให้ประสบการณ์ในการรับชมแบบไร้ขอบ ด้วยอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้สูงถึง 91.7%
ไม่เพียงแค่นั้น จอแสดงผลของ realme GT 5G ยังมาพร้อมเซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้างแบบคู่ สามารถปรับความสว่างได้อัตโนมัติ เพื่อให้สบายดวงตามากที่สุด
ระบบความปลอดภัย
realme GT 5G ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล จึงรองรับฟีเจอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟน ซึ่งใช้เวลาในการทำงานอย่างแม่นยำและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถใช้กล้องหน้าช่วยสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้เช่นกัน และรองรับการปลดล็อคทั้ง 2 วิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้งาน เช่น เมื่ออยู่ข้างนอกที่ต้องสวมหน้ากากป้องกัน สามารถใช้วิธีร์สแกนนิ้วบนหน้าจอได้ แต่ถ้าอยู่ในบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัวที่สามารถถอดหน้ากากออกได้ ก็สามารถใช้วิธีการสแกนใบหน้าได้
กล้องหลัง 3 ตัว 64 ล้านพิกเซล
realme GT 5G ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องตัวหลัก ความละเอียดสูง 64 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้อง Ultra Wide และ Marco รองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ โดยกล้องแต่ละตัวมีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้องหลัก ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (Sony IMX682) เลนส์ 6P รูรับแสง F1.8 มุมมองกว้าง 78.6 องศา ทางยาวโฟกัส 26 มม.
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P รูรับแสง F2.3 มุมมองกว้าง 119 องศา ทางยาวโฟกัส 15.7 มม.
- กล้อง Marco ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P รูรับแสง F2.4 มุมมองกว้าง 88.8 องศา ทางยาวโฟกัส 21.88 มม.
กล้องหลังของ realme GT 5G นั้นสามารถเก็บได้ครบทุกระยะถ่ายได้ตั้งแต่ระยะมุมกว้าง 119 องศาในระยะ 0.6x ,1x ,2x ,5x และสูงสุดที่ 10x ในแบบดิจิตอล และยังถ่ายภาพโหมด Ultra Macro ถ่ายใกล้วัตถุในระยะ 4 ซม.ได้อีกด้วย รวมถึงการถ่ายภาพความละเอียดสูง 64MP ที่คมชัดทุกรายละเอียดก็ใช้งานง่ายรวดเร็ว และด้วยที่รุ่นนี้มีฟีเจอร์ AI Highlight ทำให้ถ่ายภาพสวยทุกสภาพแสงทั้งกลางวันและกลางคืนโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆอีกด้วย
ส่วนโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอหรือ Portait นั้นก็มีฟิลเตอร์แบบใหม่มาให้ใช้งานนั่นก็คือ Dynamic bokeh เปลี่ยนฉากหลังเป็นภาพเคลื่อนไหวสุดเท่ ,Neon Portrait เปลี่ยนแสงไฟตอนกลางคืนให้เป็นดวงไฟโบเก้ไม่แพ้กล้องโปรเลยทีเดียว และ AI Color Portrait เปลี่ยนฉากหลังเป็นขาวดำเพิ่มความโดดเด่นในกับบุคคลในภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพด้วย realme GT 5G ได้อย่างไม่รู้เบื่อ
เปิดเข้ามาในแอปกล้อง จะพบกับโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืนอยู่ด้านซ้ายสุด รองรับการใช้งานทั้งกล้องตัวหลัก และกล้อง Ultra Wide โดยทาง realme ได้ทำการปรับปรุง Super Nightscape ใช้อัลกอริทึมการถ่ายภาพกลางคืนแบบ raw เพื่อลดจุดรบกวนและปรับปรุงรายละเอียดให้ดียิ่งขึ้น จึงมั่นใจได้ว่ากล้องหลังของ realme GT 5G สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวันหรือตอนกลางคืน
ผู้ใช้งานยังสามารถเปิดฟีเจอร์ AI Highlight Video, Bokeh, Filters และ Beauty ขณะถ่ายวิดีโอได้มี Filters พิเศษให้เลือกเพิ่มขึ้นมาอีก 4 แบบ ได้แก่ AI Color Portrait, Crimson, Forest Green และ Sky Blue จะทำให้ได้คลิปวิดีโอที่สวยงามไม่เหมือนใครแน่นอน
โหมดถ่ายวิดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ Ultra Steady Video สำหรับใช้กล้องหลักถ่าย หรือ UIS Max Video Stabilization เมื่อใช้กล้อง Ultra Wide ถ่ายวิดีโอ ให้ภาพเคลื่อนไหวที่ราบรื่นนุ่มนวล แม้จะถือสมาร์ทโฟนวิ่งไปด้วยระหว่างบันทึกภาพ
นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายวิดีโอแบบมุมมองคู่ ที่สามารถแทรกภาพจากกล้องหน้ามาอยู่บนภาพจากกล้องหลังได้แบบเรียลไทม์ หรือ ใช้กล้อง 2 ตัว (หน้า-หลัง) ถ่ายวิดีโอพร้อมกัน เหมาะสำหรับการทำวิดีโอรีวิวต่างๆ ถูกใจสาย Vlog อย่างแน่นอน
กล้องหน้า 16MP In-display Selfie Camera
กล้องหน้าของ realme GT 5G ติดตั้งไว้ในหลุมที่เจาะไว้ตรงมุมบนขวาของจอแสดงผล โดยใช้กล้องหน้าแบบ Ultra-clear ของ Sony ที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.5 ให้มุมมองกว้าง 78 องศา
กล้องเซลฟี่ของ realme GT 5G มาพร้อมโหมด AI Beauty ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยอัลกอริทึมล่าสุด พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้กล้องหน้าสามารถระบุเพศ ผิว รูปร่าง และ ใบหน้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามให้สีผิวละเอียดอ่อนเป็นธรรมชาติ
ส่วนโหมดสำคัญอื่นๆ ก็ยังอยู่ครบไม่ว่าจะเป็น Night, Portrait, Bokeh Effect Control, Panoramic, Timelapse และยังมีฟีเจอร์ HDR, Face-Recognition, Filter และ Face Distortion Correction สำหรับการถ่ายวิดีโอของกล้องหน้า รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Snapdragon 888 5G
จุดเด่นของ realme GT 5G อยู่ที่ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ เนื่องจากใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 5G ซึ่งถือเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดของสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบันนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ที่มีเทคโนโลยี Arm Cortex-X1 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 25% พร้อมด้วยจีพียู Adreno 660 ให้ประสิทธิภาพในการเรนเดอร์กราฟิกเร็วขึ้น 35% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน
ชิปประมวลผล Snapdragon 888 ยังมาพร้อม AI Engine รุ่นที่ 6 สำหรับจัดการฟีเจอร์ต่างๆ ที่ต้องอาศัย AI ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Qualcomm Hexagon 780 ที่มีสถาปัตยกรรม AI-accelerator ทำงานร่วมกับ Tensor Accelerator ที่มีความจุในการคำนวณ 2 เท่า ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 26 TOPS
ระบบระบายความร้อน Stainless Steel VC Cooling System
ชิปเซ็ทแรงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับการทำงานอย่างหนัก หรือ เล่นเกมที่ต้องการพลังในการประมวลผลมากเป็นพิเศษ realme GT 5G จึงได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อน Stainless Steel VC Cooling System ซึ่งประกอบด้วยแผ่นทองแดงนำความร้อน หุ้มด้วยเปลือกสแตนเลส เพื่อให้มีความแข็งแรงสูงกว่าระบบทำความเย็นทองแดง VC แบบเดิมถึง 42% และยังใช้นำความร้อนด้วยกราไฟท์ 3 มิติ ทำให้ realme GT 5G สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้นถึง 50%
GT Mode
สมาร์ทโฟน realme GT 5G ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลด้วย GT MODE โดยมีฟีเจอร์ Quick Start สามารถเริ่มเกมได้ในไม่กี่วินาที, ฟีเจอร์ Fast Refresh เปิดใช้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการเล่นเกมที่ต้องมีเฟรมเรทสูง และยังมีฟีเจอร์ Maximum Performance อนุญาตให้ CPU ทำงานที่ระดับสูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการประมวลผลของสมาร์ทโฟนอย่างเต็มที่
5G + Wi-Fi 6
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 5G มาพร้อมชิปโมเด็ม Snapdragon X60 ส่งผลให้สมาร์ทโฟน realme GT 5G รองรับเทคโนโลยี 5G และยังสามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่าง 4G กับ 5G ได้อย่างชาญฉลาด
realme GT 5G ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 มาตรฐานใหม่ล่าสุด ให้ระยะการรับ-ส่งข้อมูลไกลขึ้น ความเร็วในการรับขส่งข้อมูลก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน และยังมีฟีเจอร์การเร่งความเร็วแบบ Dual Channel เมื่อเปิดใช้งาน Wi-Fi และ 5G พร้อมกัน จะสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G พร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น
ชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
realme GT 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 4500mAh ซึ่งถือว่ามีความจุสูงพอสมควร เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงในตลาด และยังมีโหมดประหยัดแบตเตอรี่ Super Power Saving ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น โดยเข้าไปจัดการการทำงานของระบบต่างๆ ให้สมดุล ไม่ว่าจะเป็นการลดเวลาล็อคหน้าจออัตโนมัติลงเหลือ 15 วินาที และปิดการใช้งานแอปพลิเคชั่นที่เปิดไว้ในพื้นหลังเพื่อลดภาระของซีพียู
realme GT 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 35 นาที โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 65W SuperDart มาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ด้านความปลอดภัย realme ก็ใส่ใจเช่นกัน โดยมีการป้องกันความปลอดภัยถึง 5 ชั้น ครอบคลุมตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ไปจนถึงกระบวนการชาร์จทั้งหมด ได้แก่…
- อะแดปเตอร์ป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลัง
- การป้องกันขณะชาร์จเร็ว
- ป้องกันการโอเวอร์โหลดอินเทอร์เฟซ
- ป้องกันกระแสไฟเกินและแรงดันไฟฟ้าเกิน
- การป้องกันขณะรวมแบตเตอรี่
นอกจากนี้ realme GT 5G จะทำงานโดยใช้พลังงานต่ำขณะนอนหลับ เพื่อประหยัดพลังงาน และมีฟีเจอร์ Reverse Charging เปรียบเสมือนเป็น Power Bank สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ ผลิตภัณฑ์ AIoT อื่นๆ ได้ เช่น หูฟัง TWS และ Smartwatch โดยใช้สาย OTG
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
สมาร์ทโฟน realme GT 5G ถูกอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติที่เรือธงควรจะมี ทั้งดีไซน์พรีเมียม จอแสดงผลสวยงาม สัมผัสลื่นไหล ระบบกล้องที่คมชัดทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และที่สำคัญคือประสิทธิภาพที่มรงพลัง ด้วยชิปประมวลผลระดับไฮเอนด์ของ Qualcomm พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ส่งผลให้ realme GT 5G เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบสนองการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี โดยมีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งทางด้านราคา เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มีราคาไม่สูงจนเกินไป มาในราคาเพียง 19,990 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พิเศษ สำหรับลูกค้า AIS TrueMoveH และ dtac เป็นเจ้าของ realme GT 5G ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,990 บาท
นอกจากนี้ ทุกท่านยังสามารถลองสัมผัสและเป็นเจ้าของ realme GT 5G ได้ที่ตัวแทนพาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็น Banana, BKK , Cyborg Kong , TGfone , Jaymart, CSC, IT City และ Powerbuy และผ่านช่องทาง E-Commerce ไม่ว่าจะเป็น Lazada , Shopee , This shop และ JD Central
สามารถผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน ผ่านบัตรเครดิตและธนาคารที่ร่วมรายการ
realme ประเทศไทยมีความดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมทำแคมเปญกับพาร์ทเนอร์คนสำคัญอย่าง XD ผู้ให้บริการเกม Ragnarok M: Eternal Love (แร็กนาร็อก เอ็ม อีเทอนอล เลิฟ) โดยแคมเปญนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อคืนกำไรลูกค้าของทั้งสองแบรนด์ โดยกิจกรรมภายในแคมเปญประกอบด้วย การจัดงานแข่งอีสปอร์ตสำหรับกลุ่มคอมมูนิตี้เกมในงาน ROMArena Showdown Thailand Presented By realme โดยมีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 350,000 บาท จาก realme อีกทั้งรางวัลไอเทมสุดพิเศษภายในเกมจาก XD โดยในงานทัวร์นาเมนท์นี้จะมีการถ่ายทอดสดและมีกิจกรรมร่วมสนุกอีกมากมายในวันที่ 2 – 4 กรกฎาคมนี้
และได้ร่วมกันจัดทำ realme GT 5G Exclusive Box Set ซึ่งนอกจากท่านจะได้รับสมาร์ทโฟน realme GT 5G ใหม่ล่าสุดและของที่ระลึกพิเศษจาก realme แบบจุใจ แล้วยังได้รับไอเทมพิเศษในเซ็ต Wonderland Fantasy ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ตัวละครทั้งหมด 5 ชิ้น รวมถึงหนังสือคู่มือเล่มแรกสำหรับเกม Ragnarok M พิมพ์ 4 สีทั้งเล่ม ไปสะสมกันอีกด้วย
โดยความคุ้มค่าทั้งหมดนี้ มาในราคาเพียง 25,999 บาท โดยเปิด Pre-order ให้สายเกมเมอร์เป็นเจ้าของก่อนใครได้แล้ววันนี้ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เฉพาะที่ realme Brand Shop เท่านั้