Amazfit T-Rex Pro เป็นสมาร์ทวอทช์สายพันธุ์แกร่ง ที่ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่น T-Rex ในปีที่แล้ว ในด้านดีไซน์อาจไม่แตกต่างมากนัก แต่สามารถกันน้ำได้ดีขึ้นจากระดับ 5ATM เป็น 10ATM มาพร้อมเซ็นเซอร์ออปติคอล BioTracker 2 PPG ทำให้การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแม่นยำมากขึ้น จอแสดงผลคมชัดตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล โดยที่แบตเตอรี่ยังให้อายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ
สเปก Amazfit T-Rex Pro
- จอแสดงผล AMOLED (360 x 360 พิกเซล) ขนาด 1.3 นิ้ว
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 ชนิดกีฬา
- ติดตามสุขภาพการนอนหลับ
- เซ็นเซอร์ BioTracker 2 PPG bio-tracking optical sensor, 3-axis acceleration sensor, 3-axis gyroscope sensor, Geomagnetic sensor, Ambient light sensor, Barometric altimeter
- ระบบนำทาง GPS+GLONASS, GPS+BeiDou, GPS+Galileo
- ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810G
- ป้องกันน้ำในระดับ 10ATM (100 เมตร)
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ Android 5.0 ขึ้นไป หรือ iOS 10 ขึ้นไป
- แบตเตอรี่ 390mAh
- ขนาดตัวเรือน 47.7 x 47.7 x 13.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 59.4 กรัม (รวมสาย)
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Meteorite Black, Desert Grey และ Steel Blue
แกะกล่อง
Amazfit T-Rex Pro มาในกล่องสีขาวขนาดกะทัดรัด หน้ากล่องติดโลโก้ Amazfit ไว้เหนือชื่อรุ่น Amazfit T-Rex Pro ข้างกันพิมพ์รูปภาพด้านหน้าของผลิตภัณฑ์
ข้างกล่องระบุจุดเด่นไว้ 4 รายการ ได้แก่ จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว, วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, ติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 ชนิดกีฬา และ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน
อีกข้างหนึ่ง บอกจุดเด่นเพิ่มเติมอีก 4 รายการ ได้แก่ ผ่านมาตรฐานความทนทาน MIL-STD-810G, รองรับ GPS หลายตัว ระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ, ป้องกันน้ำในระดับ 10ATM (100 เมตร) และ ติดตั้งเซ็นเซอร์มาให้ครบครัน
วิธีการแกะกล่อง ให้แกะที่ด้านล่างของกล่อง ก็จะพบกับกล่องสี่เหลี่ยมสีขาว เหมือนกล่องนาฬิกาข้อมือ เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมาก็จะเห็น Amazfit T-Rex Pro เป็นอย่างแรก โดยติดตั้งสายรัดมาแล้วเรียบร้อย
ภายในกล่องยังมีคู่มือ และสายชาร์จแบบแม่เหล็ก (Magnetic 2-pins Pogo Pin) ปลายสายเป็น USB สามารถชาร์จ Amazfit T-Rex Pro ได้อย่างสะดวกเพียงแนบติดไว้ที่ด้านหลังตัวเรือน
ดีไซน์แกร่ง
Amazfit T-Rex Pro เป็นสมาร์ทวอทช์ดีไซน์แกร่ง ออกแบบมาให้ดูเหมือนนาฬิกาข้อมือสไตล์สปอร์ต ตัวเรือนผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่มีความทนทาน ผ่านการรับรองมาตรฐาน MIL-STD-810G และยังป้องกันน้ำได้ในระดับ 10ATM (100 เมตร) ซึ่งสูงกว่ารุ่น Amazfit T-Rex ที่ป้องกันได้ในระดับ 5ATM
จอแสดงผลเป็นระบบสัมผัส หน้าปัดกลม ผ่านการเคลือนสารป้องกันรอยนิ้วมือ ให้ความคมชัดด้วยเทคโนโลยี AMOLED ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล ขนาด 1.3 นิ้ว และรองรับโหมด Always-on Display
ด้านหลังตัวเรือนเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์ตรวจวัดสุขภาพ และหมุดแม่เหล็ก 2 จุด สำหรับแนบติดกับที่ชาร์จแบตเตอรี่
ขอบด้านข้างตัวเรือนมีปุ่มกดควบคุมเมนูขึ้นและลง
อีกข้างมีปุ่ม Select (ใช้เป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง เมื่อกดค้างไว้) และปุ่ม Back
สายรัดข้อมือ ทำมาจากยางซิลิโคน มีความยาว 78 – 122 มิลลิเมตร กว้าง 22 มิลลิเมตร เมื่อติดตั้งเข้ากับสมาร์ทวอทช์ จะมีน้ำหนักรวมกันเพียง 59.4 กรัม ให้ความรู้สึกสบายข้อมือ เหมือนสวมใส่นาฬิกาข้อมือทั่วไป
Always-on Display
Amazfit T-Rex Pro ใช้จอแสดงผล AMOLED ที่นอกจากจะให้ความคมชัด ยังมีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน จึงรองรับโหมด Always-on Display หรือเปิดหน้าจอตลอดเวลา สามารถเข้าไปตั้งค่าให้เปิดใช้งานได้โดยการปัดหน้าจอลงมา เลือกไอคอนการตั้งค่า (ไอคอนรูปหกเหลี่ยม) เข้าไปที่ Display แล้วเลือก Always-on Display
เมื่อเข้ามาในการตั้งค่า Always-on Display ให้สลับสถานะจาก Off เป็น On จากนั้นเลือกเมนู Screen Off Styles เพื่อเลือกหน้าปัดที่ต้องการแสดงผลตลอดเวลา โดยค่าเริ่มต้นจะใช้หน้าปัดเดียวกับหน้าจอหลัก แต่สามารถเข้าไปตั้งค่าเป็นหน้าปัดแบบดิจิตอล หรือ อนาล็อก ก็ได้
โหมด Always-on Display ยังสามารถกำหนดช่วงเวลาเปิดใช้งานได้ในเมนู Display Periods โดยมีให้เลือก 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ Smart แสดงผลเมื่อสมาร์ทวอทช์ยังมีการเคลื่อนไหว, Timed กำหนดช่วงเวลาตามต้องการ และ Always on เปิดตลอดเวลา
PAI ประเมินสุขภาพส่วนบุคคล
เริ่มต้นติดตามสุขภาพกันด้วยฟีเจอร์ PAI ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับประเมินสุขภาพเบื้องต้น โดยใช้อัลกอริทึมช่วยประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ใช้งาน Amazfit T-Rex Pro มีการวัดค่า เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ สำหรับการประเมินค่า PAI สามารถทำได้ด้วยการปัดหน้าจอไปทางซ้าย แล้วเลือก PAI (เป็นฟีเจอร์แรกในส่วนของ App)
ทั้งนี้ ผลจากการศึกษา HUNT Fitness Study ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนอร์เวย์ ที่ใช้เวลานานกว่า 35 ปี และมีผู้เข้าร่วมทดสอบมากกว่า 230,000 คน พบว่า บุคคลที่มีคะแนน PAI ตั้งแต่ 100 ขึ้นไป สามารถลดความเสี่ยงของโรคภัยได้ โดยเฉพาะโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2
วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2)
การวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) กลายเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นอย่างมากในช่วงที่ COVID-19 ยังคงระบาด ซึ่ง Amazfit T-Rex Pro ก็รองรับการใช้งานด้วยเช่นกัน สามารถเข้าถึงได้จากการปัดหน้าจอไปทางซ้าย แล้วเลือก SpO2 (อยู่ถัดจากฟีเจอร์ Heart rate)
ผู้ใช้งานควรรัดสาย Amazfit T-Rex Pro ให้กระชับพอดี และวางมือที่สวมใส่สมาร์ทวอทช์ในแนวราบ ก่อนเปิดเข้าไปในฟีเจอร์ SpO2 และไม่ควรขยับมือหรือแขน จนกว่าการวัดจะเสร็จสิ้น เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ
ค่า SpO2 ควรอยู่ในช่วง 95% – 100% ถ้าหาก Amazfit T-Rex Pro วัดค่าได้ต่ำกว่า 95% แสดงว่าร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะพร่องออกซิเจน แต่ถ้าระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ต่ำกว่า 90% อาจหมายถึงมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับปอดและระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการติดเชื้อ COVID-19 ก็เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเช่นกัน จึงเป็นไปได้ที่ร่างกายมีความเสี่ยงได้รับเชื้อ COVID-19 ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโดยด่วน
วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง
Amazfit T-Rex Pro มาพร้อมฟีเจอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเซ็นเซอร์ BioTracker 2 PPG bio-tracking optical sensor ที่มีความแม่นยำสูง และสามารถบันทึกความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) ตลอดทั้งวัน เพื่อตรวจสอบระดับความเครียดของผู้สวมใส่ อักทั้งยังสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้งานได้ เมื่อพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นอย่างผิดปกติ
ติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 ชนิดกีฬา
ไม่ว่าจะเล่นกีฬาประเภทใด Amazfit T-Rex Pro ก็สามารถติดตามการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เพราะรองรับมากกว่า 100 ชนิดกีฬา ไม่ว่าจะเดิน, วิ่ง, ใช้เครื่องออกกำลังกายตามยิม, ปั่นจักรยาน, เดินทางไกล, ปีนเขา, ตกปลา, เต้นรำ (รองรับการเต้นหลายรูปแบบ), โยคะ, มวยไทย, ยูโด, กีฬาทางน้ำ (สบายใจด้วยระดับกันน้ำ 10ATM), สเก็ตบอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกชนิดกีฬาที่คนทั่วไปรู้จัก
Amazfit T-Rex Pro มาพร้อมอัลกอริทึม ExerSense ที่สามารถจดจำการออกกำลังกายและบันทึกข้อมูลโดยอัตโนมัติได้ 8 ชนิดกีฬา อีกทั้งยังมีอัลกอริทึม FirstBeat ช่วยประเมินข้อมูลที่จำเป็น เช่น การรับออกซิเจนสูงสุดของผู้สวมใส่, ระยะเวลาการฟื้นฟูร่างกายหลังจากอออกกำลังกาย และ การวัดปริมาณการฝึกซ้อม (Training Load) เพื่อให้ผู้สวมใส่วัดความสำเร็จหลังจากออกกำลังกายเสร็จในแต่ละครั้ง
การทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน
เมื่อจับคู่ Amazfit T-Rex Pro กับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ผู้สวมใส่จะได้รับการแจ้งเตือนจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เช่น ข้อความ, การโทร, การตั้งปลุก, เตือนความจำ และสามารถใช้ Amazfit T-Rex Pro ควบคุมเครื่องเล่นเพลงบนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่จับคู่ได้
ในทางกลับกัน แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่จับคู่กับ Amazfit T-Rex Pro ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมหรือตั้งค่าสมาร์ทวอทช์ได้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดหน้าปัดเพิ่มเติม หรือ ปรับแต่งหน้าปัดใหม่, ตั้งค่าการแจ้งเตือน หรือ กำหนด แอพที่ไม่ต้องการรับการแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทวอทช์ รวมไปถึงเรียกดูข้อมูลสุขภาพทั้งหมดอย่างละเอียด
แบตเตอรี่
Amazfit T-Rex Pro มีความจุแบตเตอรี่ 390mAh ให้อายุการใช้งานอย่างหนักถึง 9 วัน ใช้งานทั่วไป 18 วัน และยังให้พลังงานยาวนานขึ้นอีก เมื่อเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ โดยปัดหน้าจอลงมา แล้วแตะที่ไอคอนรูปใบหน้าที่มีสายฟ้า ซึ่งเป็นไอคอนของโหมด Battery saver เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ สมาร์ทวอทช์จะติดตามแค่การก้าวเดิน และการนอนหลับเท่านั้น แต่ก็ช่วยให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุดถึง 1 เดือน
สำหรับการชาร์จ ทำได้อย่างง่ายดาย เพราะใช้อุปกรณ์ชาร์จแบบแม่เหล็ก (Magnetic 2-pins Pogo Pin) เพียงแนบที่ชาร์จกับด้านหลังตัวเรือน และเสียบปลายสาย USB กับ Power Adapter หรือ แหล่งจ่ายไฟ USB ที่หาได้ง่าย โดยใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง ในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100%
สรุป
Amazfit T-Rex Pro เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ และการออกกำลังกายที่ครบครัน มี GPS ในตัว ช่วยติดตามการทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่ดีไซน์สปอร์ต มีความทนทานสูง สามารถสวมใส่เพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง เดินป่า ผจญภัย และเล่นกีฬาทางน้ำได้อย่างสบายใจ ที่สำคัญ ยังมีราคาถูกกว่าสมาร์ทวอทช์หลายแบรนด์
ทั้งนี้ สามารกหาซื้อ Amazfit T-Rex Pro ได้ผ่านช่องทางออนไลน์แล้ววันนี้ที่ร้าน Zepp Official Store ในราคาเพียง 5,599 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Meteorite Black, Desert Grey และ Steel Blue
- Shopee : https://bit.ly/2RaHglU
- Lazada : https://bit.ly/3o4iwIf