แคสเปอร์สกี้เตือนผู้ใช้โมบายดีไวซ์กว่า 55% ใช้ Wi-Fi ไม่ปลอดภัย เพราะอาชญากรไซเบอร์สามารถโจรกรรมข้อมูลในอุปกรณ์สื่อสารได้ง่าย อีกทั้งอุปกรณ์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมีระดับการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำกว่าเดสก์ท็อปพีซี หรือโน้ตบุ๊ก
นายจิมมี่ ฟง ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่าย แคสเปอร์สกี้ แลป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า จากการสำรวจโดยสถาบันวิจัย Harris Interactive สหรัฐอเมริกา (กุมภาพันธ์-มีนาคม 2555) พบว่าผู้ใช้อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่กว่า 9 พันคนในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และรัสเซีย พบว่า อาชญากรไซเบอร์สามารถโจรกรรมข้อมูลในอุปกรณ์สื่อสารได้ง่าย โดยกว่า 55% ของผู้ใช้อุปกรณ์พกพา ทั้งมือถือและแท็บเล็ต นิยมใช้ Wi-Fi ฟรีตามฮอตสปอตสาธารณะเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยการใช้สัญญาณเครือข่ายจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นอันดับสอง โดยไม่ตระหนักถึงอันตรายของ Wi-Fi ฟรีแม้แต่น้อย
“ผู้ใช้หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า อาชญากรไซเบอร์สามารถดึงข้อมูลที่ส่งผ่านกันระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่าย Wi-Fi ที่รวมถึงข้อมูลล็อกอินและข้อมูลธนาคารออนไลน์ และยิ่งอุปกรณ์พกพาโดยทั่วไปแล้วมักมีระดับการรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ก นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังระบุว่า แม้ว่าในปัจจุบันจะมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสให้เลือกมากมาย แต่ก็มีแท็บเล็ตเพียงครึ่งและโทรศัพท์มือถือเพียง 28% เท่านั้น ที่ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสในเครื่อง นับว่าเป็นอัตราส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กที่มีมากถึง 82%” ผอ.ฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่าย แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าว
นายจิมมี่ กล่าวด้วยว่า จากที่กล่าวมาจึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่แฮกเกอร์ทั้งหลายสามารถโจรกรรมข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ด้วยผู้ใช้อุปกรณ์พกพาส่วนมากไม่ตระหนักถึงความจำเป็นในการติดตั้งโปรแกรมเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และไม่ระมัดระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสาธารณะ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินตกอยู่ในมือมิจฉาชีพได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อเอกลักษณ์บุคคล และอาจนำไปสู่การฉ้อโกงอื่นๆ ต่อไป นอกจากนี้ยังรวมถึงบัญชีเงินฝาก บัตรเครดิต และข้อมูลทางการเงินอื่นๆ อีกด้วย.
ที่มา – Thairath