ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล หลายคนอาจคิดว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มีราคาหลายหมื่น แต่นี่คือ Redmi Note 10 Pro สมาร์ทโฟนที่มีกล้องหลัง 108MP Quad Camera และวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 8,490 บาท มาพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจอีกมากมายซึ่งทีมงาน @flashfly ได้นำมารีวิวเรียบร้อยแล้ว เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย
สเปกหลัก
- จอแสดงผล 120Hz AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
- กล้องหลัง 108 + 8 + 5 + 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 732G
- ความจำ RAM 6GB / 8GB + ROM 128GB
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Arc side fingerprint sensor)
- ลำโพงคู่ สนับสนุน Hi-Res Audio มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 บนพื้นฐาน Android 11
- การเชื่อมต่อ 4G, Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.1, USB Type-C
- เซ็นเซอร์ Proximity, Ambient light, Accelerometer, Electronic compass, Gyroscope, Linear vibration motor, IR Blaster
- ระบบนำทาง GPS, Galileo, Glonass, Beidou B1
- ป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP53
- แบตเตอรี่ 5020mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W
- ขนาดบอดี้ 164 x 76.5 x 8.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 193 กรัม
ดีไซน์
นี่คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Redmi Note Series ที่มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูง 120Hz บนดีไซน์ DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
Redmi Note 10 Pro ยังมีจุดเด่นที่การติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้างดีไซน์โค้ง รวมกับปุ่มเพาเวอร์ ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Glacier Blue, Gradient Bronze และได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP53 ซึ่งกันได้เพียงละอองน้ำ ไม่แนะนำให้ทดลองแช่ในน้ำ
ด้านหลังใช้ดีไซน์กระจกโค้ง 3D มาพร้อมระบบกล้อง 4 ตัว โดยมีไฮไลท์ที่กล้องหลักให้ความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.1 มิลลิเมตร วางปุ่มปรับระดับเสียงไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ถูกติดตั้งไว้ที่ด้านบน พร้อมด้วยลำโพง (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง) ไมโครโฟน และ อินฟราเรด
ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวหลัก, ช่องต่อ USB Type-C และลำโพง (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน ให้เสียงสเตอริโอ)
จอแสดงผล 120Hz
Redmi Note 10 Pro มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ความหนาแน่นพิกเซล 395PPI ความสว่างสูงสุด 1,200 nits ให้ขอบเขตสี DCI-P3 สนับสนุน HDR10 อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 120Hz ความเร็วตอบสนองการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 240Hz อัตราส่วนความคมชัด 4,500,000:1
จอแสดงผลของ Redmi Note 10 Pro ยังได้รับมาตรฐานถนอมดวงตา SGS Eye Care Display Certification และมีโหมด Reading 3.0 สำหรับการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานเพื่ออ่านข่าวหรือบทความต่างๆ พร้อมด้วยโหมด Sunlight 2.0 ช่วยเพิ่มความคมชัดเมื่อใช้งานกลางแจ้ง
ระบบความปลอดภัย
นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Redmi Note 10 Pro ยังติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ขอบด้านข้างแบบ Arc side fingerprint sensor ซึ่งใช้เป็นปุ่มเพาเวอร์ในตัว จึงสามารถปลุกหน้าจอพร้อมเข้าใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับฟีเจอร์ AI face unlock หรือ ปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า โดยใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยตรวจสอบใบหน้า เพื่อให้มีความปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น
กล้องหลัง 108 ล้านพิกเซล
มาถึงไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุดของ Redmi Note 10 Pro ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกล้องความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล ซึ่งไม่พบในสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันจากผู้ผลิตรายอื่น และยังเป็นครั้งแรกของ Redmi Note Series
รายละเอียดกล้องหลัง Redmi Note 10 Pro
- กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 118 องศา
- กล้อง Telemacro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มีระบบออโต้โฟกัส
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหลักของ Redmi Note 10 Pro รองรับทั้งเทคโนโลยีการผสานพิกเซลแบบ 9 ต่อ 1 (9-in-1 binning technology) และเทคโนโลยี Dual native ISO ให้รายละเอียดภาพที่ครบถ้วนที่สุด มีรายละเอียดแสงที่โดดเด่นชัดเจน และรองรับการปรับแต่งภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด
Redmi Note 10 Pro มีโหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจอย่าง Long Exposure พร้อมเอฟเฟกต์ 6 แบบ ได้แก่ Moving crowd, Oil painting, Neon trails, Light painting, Starry sky, Star trails โหมด Photo clones ช่วยถ่ายภาพนางแบบหรือนายแบบให้แยกร่างได้เหมือนมีตัวโคลนนิ่ง และยังมีโหมด Night 2.0 สำหรับถ่ายภาพในเวลากลางคืน รวมถึงโหมด 108MP สำหรับถ่ายภาพในความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล
Redmi Note 10 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K (3840×2160) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที รองรับโหมด Video clones, Dual video, ShootSteady, Pro time-lapse video, Telemacro time-lapse video และ Video macro
กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
กล้องเซลฟี่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 ติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอแบบ DotDisplay รองรับโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน Selfie Night, โหมด AI Beautify ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างธรรมชาติ และมีโหมด AI Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลพร้อมเอฟเฟกต์ bokeh สามารถควบคุมระยะชัดลึกได้
สำหรับการถ่ายวิดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p (1920×1080) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที รองรับโหมด Time-lapse และ Slow motion 120 เฟรมต่อวินาที ในความละเอียด HD 720p
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ประสิทธิภาพ Snapdragon 732G
Redmi Note 10 Pro ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 732G ถือเป็นชิป 4G ที่มีประสิทธิภาพสูงไม่เป็นรองใคร ผลิตด้วยเทคโนโลยี 8 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 64-bit Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.3GHz จีพียู Adreno 618 เร็วกว่ารุ่นก่อน 15% และมาพร้อม AI Engine รุ่นที่ 4 ให้ประสิทธิภาพสูงสุด 3.6 TOPS
ด้านความจำ ใช้ RAM แบบ LPDDR4X จับคู่กับ ROM แบบ UFS 2.2 มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ RAM 6GB + ROM 128GB และ RAM 8GB + ROM 128GB
แบตเตอรี่ 5,020mAh ชาร์จเร็ว 33W
Redmi Note 10 Pro ได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,020mAh จึงให้อายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน โดยที่พลังงานยังเหลือ สำหรับการใช้งานทั่วไป และเมื่อถึงเวลาชาร์จก็ไม่ต้องรอนาน เพราะสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W แถมอุปกรณ์ชาร์จมาให้ในกล่อง สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 59% ภายในเวลาเพียง 30 นาที
สรุป
ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่ Redmi Note 10 Pro ก็ให้คุณสมบัติมาเหนือกว่าสมาร์ทโฟนคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน ทั้งดีไซน์สวยงามพรีเมียมไม่ซ้ำใคร จอแสดงผลคมชัดให้อัตราการีเฟรช 120Hz ใช้ชิประดับกลางที่ทรงพลังที่สุด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งาน 2 วันยังเหลือ แถมชาร์จเร็ว 33W อีกทั้งยังมาพร้อมลำโพงคู่ ให้เสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res Audio และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ระบบกล้องหลัง 108MP Quad Camera ที่ทำให้ Redmi Note 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับเรือธงในราคาสบายกระเป๋า
Redmi Note 10 Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Onyx Gray, Glacier Blue, Gradient Bronze พร้อมวางจำหน่ายแล้ว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ RAM 6GB + ROM 128 GB ราคา 8,499 บาท วางจำหน่ายเฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ และ RAM 8GB + ROM 128 GB ราคา 8,999 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์, Mi Stores และ ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ