หลังจากทีมงาน @flashfly นำเสนอแกะกล่องพร้อมพรีวิว OPPO Find X3 Pro 5G ให้ได้อ่านกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็ถึงเวลาที่เราจะทำความรู้จักกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นรุ่นครบรอบ 10 ปีของ OPPO Find X Series มาพร้อมสโลแกน Awaken Colour ที่เน้นเรื่องสีสันเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่จอแสดงผลระดับ 10-bit หรือพันล้านเฉดสีเท่านั้น แต่ระบบกล้องหลังก็ยังสามารถเก็บสีสันได้มากกว่าพันล้านเฉดสีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมี่ยม พร้อมด้วยประสิทธิภาพที่ควรมีอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง
สเปกหลักของ OPPO Find X3 Pro 5G
- จอแสดงผล AMOLED (QHD+) ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4 ตัว 50 + 50 + 13 + 3 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
- ความจำ RAM 12GB + ROM 256GB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, NFC, USB 3.1, OTG
- ระบบนำทาง GPS, A-GPS, BeiDou, GLONASS, QZSS
- เซ็นเซอร์ Fingerprint, Geomagnetic, Ambient light, Colour temperature, Proximity, Accelerometer, Gravity, Gyroscope, Pedometer
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 4500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 แบบใช้สาย และ 30W AirVOOC Wireless Flash Charge แบบไร้สาย
- ขนาดบอดี้ 163.6 x 74 x 8.26 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 193 กรัม
ดีไซน์แห่งอนาคต
OPPO Find X3 Pro 5G ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากอวกาศ ผลิตจากวัสดุกระจกเพียงชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ให้ความโค้งเข้ากับกรอบโลหะอย่างลงตัว เพื่อให้ผู้ใช้งานจับถือได้สบายมือที่สุด และยังพกพาได้สะดวกด้วยความบางเพียง 8.26 มิลลิเมตร น้ำหนัก 193 กรัม สามารถใส่ไว้ในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย
ดีไซน์โดยรวมของ OPPO Find X3 Pro 5G ดูเพรียวบางและหรูหราสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ เนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันมากกว่า 100 ขั้นตอน ใช้เวลาถึง 40 ชั่วโมง เพื่อสร้างกระจกด้านหลังจากแผ่นเดียว และใช้การออกแบบ Control points กว่า 2,000 จุด เพื่อให้ได้ความโค้งของกระจกที่แม่นยำ อีกทั้งยังผ่านกระบวนการผลิต Hot-Forge แบบดั้งเดิม ซึ่งออกแบบมาเพื่อการผลิต OPPO Find X3 Pro 5G โดยเฉพาะ
OPPO Find X3 Pro 5G ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Gloss Black ผ่านการเคลือบฝาหลังแบบพิเศษ เพื่อให้มีการสะท้อนคล้ายเซรามิก ให้ความสง่างามในทุกองศา และ สีฟ้า Blue Matte ใช้วัสดุ Frost Matte ผิวด้าน ให้สัมผัสนุ่มนวลราวกับผ้าไหม พร้อมป้องกันรอยเปื้อนและรอยนิ้วมือได้อย่างดี
ด้านหน้าก็สวยงามโดดเด่นไม่แพ้ด้านหลัง ด้วยจอแสดงผล AMOLED ขอบโค้ง ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ให้สีสันมากถึง 1 พันล้านสี ขณะที่สมาร์ทโฟนเรือธงส่วนใหญ่ให้สีสันที่ 16.7 ล้านสี และยังมีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ถึง 92.7% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่หน้าจอกว้างแต่ขอบจอบางเป็นพิเศษ
จอแสดงผลของ OPPO Find X3 Pro 5G ถูกเจาะหลุมเล็กๆ ไว้ที่มุมบน เพื่อติดตั้งกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลขอบจอด้านบนมีความบางเฉียบ แต่ก็ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเป็นตำแหน่งของลำโพง
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.26 มิลลิเมตร และวางปุ่มเพาเวอร์ไว้ทางซ้ายของจอแสดงผล
ปุ่มเพิ่มและปุ่มลดความดังเสียง ติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
OPPO Find X3 Pro 5G ติดตั้งไมโครโฟนไว้ที่ด้านล่าง ด้านหลัง (ใกล้กับกล้อง) และยังมีไมโครโฟนอีกตัวที่ด้านบน
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด (รองรับ 5G ทั้ง 2 ช่อง), ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และลำโพง
มุมมองด้านหลังสะดุดตากับระบบกล้อง 4 ตัว ที่ไม่มีกรอบหรือขอบกันชนแบบสมาร์ทโฟนทั่วไป เนื่องจากชิ้นส่วนด้านหลังทั้งหมดถูกขึ้นรูปจากกระจกแผ่นเดียวกัน และมีการยกพื้นผิวตรงส่วนโมดูลกล้องทำให้เกิดเส้นโค้งที่สวยงามลงตัว
นอกจากจะมีดีไซน์ที่หรูหรา OPPO Find X3 Pro 5G ยังถูกออกแบบมาให้ป้องกันน้ำได้ถึงระดับ IP68 จึงสามารถกันน้ำได้นานสูงสุด 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร และยังป้องกันฝุ่นได้อีกด้วย
จอแสดงผล 1 พันล้านสี 120Hz
จอแสดงผลเป็นคุณสมบัติหลักที่ OPPO ใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันต่างก็ให้ความสำคัญกับการรับชมภาพยนตร์หรือวิดีโอออนไลน์ รวมถึงดูคอนเท้นต์ต่างๆ OPPO Find X3 Pro 5G จึงมาพร้อมจอแสดงผลที่ให้สีสันมากกว่า 1 พันล้านสี (10-bit) ขณะที่สมาร์ทโฟนเรือธงส่วนใหญ่ให้สีสันที่ 16.7 ล้านสี และยังให้สีสันถูกต้องแม่นยำระดับมืออาชีพ 0.4 JNCD จึงไม่น่าแปลกใจที่จอแสดงผลของ OPPO Find X3 Pro 5G ได้รับคะแนนระดับ A+ จาก DisplayMate
OPPO Find X3 Pro 5G สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสีสันด้วยจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด QHD+ (3216 x 1440 พิกเซล) ขนาด 6.7 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 525 ppi อัตราส่วนคอนทราสต์ 5,000,000:1 ความสว่างสูงสุด 1300 nit ให้ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 สนับสนุน HDR10+
OPPO Find X3 Pro 5G ยังมีเทคโนโลยี Colour Vision Enhancement ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีความบกพร่องในการมองสี ได้เห็นสีสันที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น และสามารถปรับระดับความสว่างแบบ 8192-Level Natural Brightness เมื่อใช้งานในที่แสงน้อย ช่วยให้สมาร์ทโฟนรับรู้สภาพแวดล้อม เพื่อปรับอุณหภูมิและความสว่างของหน้าจออย่างนุ่มนวล ช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้งาน
จอแสดงผลของ OPPO Find X3 Pro 5G ใช้แผงประหยัดพลังงาน LTPO (Low-temperature Polycrystalline Silicon and Oxide) ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบ Adaptive Refresh Rate สูงสุด 120Hz สามารถปรับค่า Refresh Rate ได้อัตโนมัติ ตามคอนเท้นต์ที่กำลังรับชมหรือใช้งาน เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่และคงประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่น โดยมีช่วงของการรีเฟรชหน้าจอที่ 5Hz – 120Hz
OPPO Find X3 Pro 5G ยังมี O-Sync Display Hyper Response Engine ช่วยเชื่อมต่อหน้าจอเข้ากับ CPU เพิ่มความเร็วแรงของหน้าจอและระบบประมวลผลขึ้นถึง 3 เท่า เพื่อตอบสนองการสัมผัสได้ทันที ทำให้การเล่นเกมมีความสนุกมากยิ่งขึ้น สามารถควบคุมการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะดุด อีกทั้งยังให้อัตราตอบสนองการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุด 240Hz (2 นิ้ว) หรือ 120Hz (10 นิ้ว)
นอกจากนี้ OPPO ยังปรับปรุงเวอร์ชั่นของ Munsell 100 Hue Test ซึ่งเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือในการประเมินการมองเห็นของสีโดยสามารถเข้าใจการรับรู้ของสีที่เฉพาะเจาะจงของผู้ใช้งานได้ โดยใช้ข้อมูลจากการมองเห็น เพื่อหาจุดสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างการแสดงผลของสีและความละเอียดของสี ผลลัพธ์ที่ได้ คือ การแสดงผลหนึ่งใน 765 แบบของประสิทธิภาพการปรับเทียบหน้าจอที่แก้ไขสีที่เหมาะสมที่สุด เพื่อทุกสายตาของผู้ใช้งาน
ระบบความปลอดภัย
นอกเหนือจากระบบรักษาความปลอดภัยขั้นพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ OPPO Find X3 Pro 5G ยังสนับสนุนการยืนยันตัวตนทาง Biometrics ได้ 2 วิธี คือ Fingerprint Unlock ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล สามารถปลดล็อคได้อย่างรวมเร็วแม่นยำ และยังรองรับ Face Recognition Unlock ใช้กล้องหน้าความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ช่วยในการสแกนใบหน้า
OPPO Find X3 Pro 5G ยังมีฟีเจอร์ App Lock สามารถตั้งค่าให้ต้องใช้รหัสผ่านหรือลายนิ้วมือเพื่อเปิดใช้งานแอพที่กำหนดไว้ และถ้าผู้ใช้งานไม่ต้องการแชร์ข้อมูลส่วนตัว ก็สามารถซ่อนข้อมูลผ่านระบบการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลได้ เพียงส่งไฟล์ข้อมูลเปล่าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแอพและกดอนุญาตให้แอพทำงานได้ตามปกติ โดยปราศจากการให้ข้อมูลส่วนบุคคล
กล้องหลังเลนส์หลักคู่ 50MP เก็บสีสันได้มากกว่าพันล้านสี
OPPO Find X3 Pro 5G นับเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลก ที่ให้สีสันมากกว่าพันล้านเฉดสีทั้งจอแสดงผลและกล้องหลัง ด้วยระบบ 10-bit Full-path Colour Engine ตั้งแต่การถ่ายรูป > เข้ารหัส > จัดเก็บ > ถอดรหัส แล้วไปแสดงผลในเครื่องๆเดียว ทำให้ OPPO Find X3 Pro 5G ได้รับการอัพเกรดตั้งแต่ฮาร์ดแวร์การแสดงผลแบบกำหนดเอง และเซ็นเซอร์กล้องที่ออกแบบร่วมกับวิศวกร ทำให้ทั้งการแสดงผลและการจับภาพสามารถให้สีสันได้มากถึง 1 พันล้านสี นอกจากนี้ อัลกอริทึมการถ่ายภาพ พื้นที่จัดเก็บ 10-bit HEIF และการปรับแต่งภาพ ยังสามารถรองรับสีได้ 1 พันล้านสีเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ทั้งการถ่ายภาพและรับชมภาพที่บันทึกไว้ได้ในอุปกรณ์เดียว
ระบบกล้องหลัง 4 ตัวของ OPPO Find X3 Pro 5G มีรายละเอียดแตกต่างกันดังนี้
- กล้อง Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX 766) รูรับแสง f/1.8 ระบบกันสั่น OIS ระบบโฟกัส All Pixel Omni-directional PDAF รองรับ 10-bit
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX 766) รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 110 องศา ระบบโฟกัส All Pixel Omni-directional PDAF รองรับ 10-bit
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออปติคอลแบบไฮบริด 5 เท่า, ซูมดิจิตอล 20 เท่า รองรับ 10-bit
- กล้อง Microlens ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.0 กำลังขยาย 60 เท่า บันทึกวิดีโอ Full HD (มีไฟวงแหวนรอบเลนส์)
คุณสมบัติที่น่าสนใจในระบบกล้องหลัง 4 ตัว ของ OPPO Find X3 Pro 5G คือ การติดตั้งกล้องหลักมาให้ 2 ตัว ได้แก่ กล้อง Wide และกล้อง Ultra Wide ซึ่งจับภาพระดับ 10-bit ได้ทั้งคู่ ช่วยทำให้เรือธงรุ่นใหม่ของ OPPO สามารถถ่ายภาพได้คมชัดทั้งมุมกว้างปกติและมุมกว้างพิเศษ โดยกล้องคู่หลักใช้เซ็นเซอร์ตัวท๊อปที่ OPPO พัฒนาร่วมกับ Sony ตัวเดียวกัน Sony IMX 766 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56” และยังมีระบบโฟกัส All Pixel Omni-directional PDAF
ขณะที่เซ็นเซอร์กล้องแบบเดิมจะใช้พิกเซล 3% ในการโฟกัสภาพและสามารถโฟกัสได้เพียงแค่ทางเดียว คือ ขวาและซ้ายเท่านั้น แต่ OPPO Find X3 Pro 5G ใช้พิกเซลโฟกัส 100% ที่ครอบคลุมกล้องทั้งแบบ Wide และ Ultra Wide และยังสามารถโฟกัสได้รอบทิศทาง 360 องศา ด้วยเทคโนโลยีโฟกัสที่ทันสมัยที่สุดในสมาร์ทโฟน ทำให้อัตราการโฟกัสในที่แสงน้อยเพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 97% จึงได้ภาพถ่ายที่คมชัดในทุกสภาพแสง
ระบบกล้องหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G รองรับฟีเจอร์ Digital Overlap High Dynamic Range (DOL HDR) ช่วยสร้างเฟรมอย่างต่อเนื่องในรูปแบบ line-by-line ช่วยลดช่วงเวลาของเฟรมเปิดรับแสงที่ยาวและสั้น จึงลดภาพซ้อนหรือแสงริ้วที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งยังให้อัตราส่วนของ signal-tonoise ดีขึ้นและให้ช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับการจับภาพ HDR ด้วยอัตราเฟรมเรทสูงได้อีกด้วย
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อม AI Palettes สามารถเปลี่ยนรูปภาพให้เป็นฟิลเตอร์สีได้ เพื่อสร้างสีสันที่สมบูรณ์แบบให้กับทุกภาพถ่าย เพียงเข้าไปที่เลือกรูปภาพที่ต้องการ เลือกแก้ไข แล้วใช้ฟีเจอร์ AI Palettes จากนั้นค้นหาภาพที่จะใช้เป็นฟีลเตอร์ และแตะนำไปใช้
AI Palettes นำแรงบันดาลใจจากภาพต่างๆ มาสร้างฟิลเตอร์สีที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามมากขึ้น เช่น การถ่ายภาพในช่วงพระอาทิตย์ตก แต่ท้องฟ้ากลับให้สีที่ไม่เป็นใจ ก็สามารถปรับสีท้องฟ้าให้เป็นมีโทนสีที่เหมาะสมได้
OPPO มีการปรับปรุงการถ่ายภาพรูปแบบไฟล์ RAW จากรุ่นก่อน (OPPO Find X2 Pro 5G) ให้เป็น RAW+ ซึ่งเป็นวิธีการจับภาพ HDR ในรูปแบบของ RAW ทำให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดมากยิ่งขึ้น สามารถขยายขอบเขตในการปรับแต่งภาพได้มากกว่ามาตรฐานของไฟล์ RAW
Microlens ซูมแบบกล้องจุลทรรศน์ 60 เท่า
กล้อง Microlens ถือเป็นอีกไฮไลท์ของสมาร์ทโฟน OPPO Find X3 Pro 5G เนื่องจากสมาร์ทโฟนทั่วไปมักจะใช้กล้อง Macro ที่สามารถถ่ายภาพในระยะใกล้ได้ไม่กี่เซนติเมตร แต่ Microlens เทียบเท่ากับกล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงสุด 60 เท่า ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นรายละเอียดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาปกติ และด้วยมีไฟวงแหวนที่ช่วยทำให้ได้ภาพคมชัดสูง อีกทั้งยังสามารถใช้กล้อง Microlens ถ่ายวิดีโอได้ในความละเอียด Full HD 1080p
Cinematic Mode
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถเก็บสีสันได้ระดับ 10-bit หรือ 1 พันล้านสี เช่นเดียวกับการถ่ายภาพนิ่ง โดยสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวในความละเอียดสูงสุด 4K รองรับช่วงสี BT.2020, HDR และ Log จึงสามารถเก็บแสงและสีได้มากขึ้น
ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุม ISO แบบ Manual ได้ทั้งหมด รวมไปถึง สมดุลสีขาว, ความเร็วชัตเตอร์ และ การโฟกัส ช่วยยกระดับจากกล้องสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นกล้องถ่ายวิดีโอสำหรับมืออาชีพ จึงสามารถใช้กล้องหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G ถ่ายทำภาพยนตร์ได้อย่างสวยงาม หรือ ใช้แทนกล้องโปรในการถ่ายทำ Vlog ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
กล้องหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที รองรับโหมด Movie สำหรับถ่ายภาพยนตร์โดยเฉพาะ, มีโหมด Dual-view ใช้กล้องหลังและกล้องหน้าถ่ายวิดีโอพร้อมกัน เพื่อรวมภาพจากกล้องทั้ง 2 ด้านไว้ในเฟรมเดียวกัน, มีโหมด Time lapse และ โหมด Slo-motion ความละเอียด 1080P (240fps) หรือ 720P (480fps)
AI Highlight Video
AI Highlight Video ช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้อง สามารถถ่ายวิดีโอได้อย่างมืออาชีพ โดยอาศัยความฉลาดของ AI ช่วยเปิด HDR, Night Mode, Audio Zoom และ Ultra Steady Video ให้อัตโนมัติ ตามฉากที่ระบุได้ ไม่ว่าจะเป็นหาดทราย, ท้องฟ้า, แมว, ข้อความ, ทิวทัศน์, กลางคืน, หิมะ, สปอตไลท์ พระอาทิตย์ขึ้น, พระอาทิตย์ตก, ใบหน้าหนึ่งคนหรือหลายคน, แสงไฟ, ดอกไม้, สีเขียว, นก, และ อาคาร เรียกได้ว่า AI Highlight Video จะช่วยปรับแสงและการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมที่สุดกับฉากต่างๆ ที่กล้องตรวจจับได้
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
OPPO Find X3 Pro 5G ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมที่มุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เลนส์ 5P รูรับแสง f/2.4 มุมมองกว้าง 81 องศา สามารถถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงปกติได้อย่างสวยงาม รองรับการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืนด้วย Night Mode อีกทั้งยังมี Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพบุคคลให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และมี Sticker ไว้เพิ่มความสนุกให้กับภาพเซลฟี่
กล้่องหน้าของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมด้วยโหมด Time lapse และ Dual-view video ใช้กล้องหน้าและกล้องหลังถ่ายวิดีโอพร้อมกัน เพื่อรวมภาพจากกล้องทั้ง 2 ด้านไว้ในเฟรมเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ที่สุดของความแรง Snapdragon 888 แรม 12GB
เนื่องจาก OPPO Find X3 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ดังนั้น จึงต้องมาพร้อมชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟน Android ในปัจจุบันนี้ ซึ่งก็คือ Snapdragon 888 ชิปประมวลผลบนมือถือที่ดีที่สุดของ Qualcomm ผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 5 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ 64-bit Octa Core ความเร็วสูงถึง 2.84GHz ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 25% พร้อมด้วยจีพียู Adreno 660 ให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 35% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน และยังประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม 20% แรมตัวเครื่อง 12GB และความจุ 256GB
นอกจากชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง OPPO Find X3 Pro 5G ยังมีแชมเบอร์ระบายความร้อนที่บางพิเศษเพียง 0.35 มิลลิเมตร ติดตั้งไว้บริเวณเมนบอร์ดและแบตเตอรี่ ช่วยกระตุ้นการกระจายความร้อน และทำให้ประสิทธิภาพของ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถเย็นลงได้แม้กำลังทำงานอย่างหนัก ส่งผลให้สมาร์ทโฟนเรือธงของ OPPO รองรับการเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล แม้เป็นเกมขนาดใหญ่ที่ต้องการใช้สเปกระดับสูง
เล่นเกมแรงเครื่องไม่ร้อน
OPPO Find X3 Pro 5G มีทั้งชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นเกมได้อย่างสบาย แต่ทาง OPPO ต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน จึงใส่โหมด Game Performance มาให้เจ้าของสมาร์ทโฟนได้ปรับแต่งประสิทธิภาพการเล่นเกมและตั้งค่าอุณหภูมิได้ และยังมี Game Filters สามารถปรับโทนสีของเกม รวมถึง Winning Touch สามารถปรับการสัมผัสและป้องกันการสัมผัสที่ไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากนี้ ยังมี Game Space ช่วยให้ผู้ใช้งาน OPPO Find X3 Pro 5G สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละเกม สามารถเลือกระหว่าง Low Power, Balanced หรือ Competition Mode เพื่อสร้างการตั้งค่าให้มีการตอบสนองหรือมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุดในการเล่นเกมที่มีรูปแบบการเล่นแตกต่างกัน
Game Space ยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับการเล่นเกมได้ ไม่ว่าจะเป็นการล็อคความสว่างของหน้าจอ ปิดการแจ้งเตือน และตั้งค่าการเปิดใช้งานด่วนสำหรับเกมที่เล่นบ่อยที่สุด
5G + Wi-Fi 6
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 มาพร้อมชิปโมเด็ม Snapdragon X60 ทำให้ OPPO Find X3 Pro 5G สนับสนุนเครือข่าย 5G และพร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่แกะกล่อง (เมื่อใช้ซิมการ์ดที่รองรับ 5G และอยู่ในพื้นที่ให้บริการ 5G)
OPPO Find X3 Pro 5G รองรับ 5G ทั้งแบบ Standalone (SA) และ Non-Standalone (NSA) สนับสนุนคลื่นความถี่ 5G ได้มากถึง 13 ย่าน จึงสามารถใช้งาน 5G ได้ทั่วโลก และยังสามารถใส่ซิมการ์ด 5G ได้พร้อมกัน 2 ช่องแบบ 5G + 5G Dual-SIM โดยแต่ละซิมการ์ดจะรับสัญญาญที่เป็นอิสระต่อกัน เพื่อมอบการใช้งานของเครือข่ายที่มีความไหลลื่นตลอดเวลา
ที่น่าสนใจก็คือ OPPO Find X3 Pro 5G สามารถการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 แอพ ได้อย่างรวดเร็ว โดยแยกเป็นแอพหนึ่งดาวน์โหลดด้วย Wi-Fi (รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6) และอีกแอพดาวน์โหลดผ่านเครือข่าย 5G
ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos ระดับโรงภาพยนตร์
จอสวย กล้องชัด แต่ถ้าขาดเรื่องเสียงก็คงทำให้สมาร์ทโฟนไม่สมบูรณ์ OPPO Find X3 Pro 5G จึงมาพร้อมลำโพงคู่ที่ให้รายละเอียดเสียงครบถ้วนทุกมิติ ทั้งเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงแหลมที่ชัดเจน เพื่อให้ประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม
OPPO Find X3 Pro 5G รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งจะมีการตรวจจับเสียงรอบข้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมอบประสบการณ์การฟังที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อมได้ นอกจากนี้ ยังมีโหมด Movie ช่วยขยายสนามเสียง เพื่อยกระดับสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ พร้อมให้ความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา
ชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ชาร์จเร็วไร้สาย 30W AirVOOC Wireless Flash Charge
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh ให้พลังงานเพียงพอตลอดทั้งวัน และถ้าต้องการยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ก็สามารถใช้โหมด Power Saving หรือ Super Power Saving ก็จะทำให้ OPPO Find X3 Pro 5G มีพลังงานยาวนานต่อไปอีกหลายวัน
เมื่อถึงเวลาชาร์จแบตเตอรี่ ก็รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั้งแบบใช้สายและไร้สาย ด้วยเทคโนโลยี 65W SuperVOOC 2.0 สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ OPPO Find X3 Pro 5G ผ่านพอร์ต USB-C จาก 0 – 40% ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ส่วนการชาร์จเร็วแบบไร้สายจะใช้เทคโนโลยี 30W AirVOOC Wireless Flash Charge อีกทั้งยังมีระบบ Reverse Wireless Charging 10W พร้อมให้ความมั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland
ทั้งนี้ OPPO ได้ออกแบบและพัฒนาระบบชาร์จ VOOC แรงดันไฟฟ้าต่ำมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 โดยเริ่มต้นจากสมาร์ทโฟน OPPO Find 7 ซึ่งสามารถชาร์จได้เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการชาร์จอื่นๆ ทำให้ OPPO กลายเป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว และปัจจุบันมีผู้ใช้ระบบชาร์จ VOOC ของ OPPO มากกว่า 175 ล้านคนทั่วโลก (อ้างอิงข้อมูลล่าสุดในเดือนธันวาคม 2563)
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.2
OPPO Find X3 Pro 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ColorOS 11.2 ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ราบรื่น และเป็นธรรมชาติ โดยทำงานบนพื้นฐาน Android 11 ซึ่งสามารถใช้งานบริการของ Google ได้อย่างเต็มที่ รวมถึง Google Play แหล่งดาวน์โหลดเกมและแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีแอพและเกมให้ดาวน์โหลดมากกว่า 3 ล้านแอพ
ColorOS 11.2 มีจุดเด่นที่ Dark Mode ซึ่งอนุญาตให้เจ้าของสมาร์ทโฟน สามารถปรับแต่งรูปแบบการใช้งานให้ตรงตามความต้องการได้ ด้วยการควบคุม Dark Mode และ Always On Display เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลมากยิ่งขึ้น
OPPO Relax 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายไปกับการสร้างสรรค์เสียง ด้วยการปรับแต่งระดับเสียงและรายละเอียดของเสียงที่หลากหลายจากทุกมุมโลก และถ้าต้องการปลดปล่อยความเครียด ก็สามารถผ่อนคลายได้ด้วยเกมง่ายๆ ที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เช่น Breath Guide, Bubble Poke, Draw Coins และอื่นๆ อีกมากมาย
ColorOS 11.2 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวรูปแบบใหม่ล่าสุดของ Android 11 ใน OPPO Find X3 Pro 5G พร้อมช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยมากกว่าที่เคย เมื่อแอพต้องการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ก็สามารถตรวจสอบข้อมูลและตั้งค่าการอนุญาตเข้าถึงเป็นกรณีๆ ไป เปิดแอพได้อย่างรวดเร็วด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ผ่านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยผู้ใช้งานสามารถกดค้างหนึ่งวินาที เพื่อเลือกแอพที่ใช้งานบ่อยมาใส่ใน Quick Launch ได้
นอกจากนี้ OPPO ยังร่วมกับ Hans Zimmer ผู้เชี่ยวชาญทางด้านดนตรีที่สร้างสรรค์ที่สุดของวงการฮอลลีวูด การันตีจากการคว้ารางวัลมาแล้วหลายเวที มากกว่า 200 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น Academy Award, Golden Globes (2 รางวัล), Grammys (3 รางวัล), American Music Award, และ Tony Award ให้มาช่วยสร้างสรรค์เสียงเรียกเข้าและการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวัตกรรมที่ครองใจผู้ใช้งานเป็นมาตรฐานหลัก
สรุป
OPPO Find X3 Pro 5G ถูกสร้างมาเพื่อเป็นสุดยอดโฟนเรือธง ที่ให้ความโดดเด่นทั้งการถ่ายภาพและการแสดงผล ด้วยการเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีกล้องและจอแสดงผลระดับ 10-bit ให้สีสันมากกว่าพันล้านสี ซึ่งให้สีสันที่ถูกต้อง สวยงามสมจริง สามารถเก็บภสพถ่สยและวิดีโอแบบ 10-bit และรับชมได้ทันทีบนหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว พร้อมให้ค่าอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz เหมาะสำหรับการเล่นเกมและรับชมคอนเท้นต์วิดีโอ
นอกจากนี้ OPPO Find X3 Pro 5G ยังมาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 สนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G + Wi-Fi 6 ความจำ RAM 12GB จับคู่ ROM 256GB ความจุแบตเตอรี่ 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 แบบใช้สาย และชาร์จเร็ว 30W AirVOOC Wireless Flash Charge แบบไร้สาย อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่สวยงามโดดเด่น ด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยม ทำให้ OPPO Find X3 Pro 5G เป็นเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้านอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
OPPO Find X3 Pro 5G จะวางจำหน่ายในราคา 33,990 บาท มาพร้อม RAM 12GB ความจุ 256GB มี 2 สีให้เลือกคือสีดำ Gloss Black และสีน้ำเงิน Blue แบบด้าน เปิดให้สั่งจองแล้ววันนี้ถึง 2 เมษายน จะได้รับของแถมมูลค่ารวม 13,498 บาท จองผ่านค่ายมือถือรับส่วนลดสูงสุด 15,000 บาท โดยสินค้าจะพร้อมวางจำหน่ายทางการ วันที่ 4 เมษายน 2564