ASUS พัฒนาเกมมิ่งสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ ROG (Republic of Gamers) มาถึงรุ่นที่ 4 แล้ว แต่ตัดสินใจใช้ชื่อว่า ROG Phone 5 และยังคงออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์โดยเฉพาะ พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนให้ดีขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะประสิทธิภาพของชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm การตอบสนองของจอแสดงผลที่เร็วขึ้น การควบคุมเกมที่ลื่นไหลมากกว่าเดิม รวมไปถึงการปรับปรุงระบบระบายความร้อน และอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ อีกทั้งยังมีให้เลือก 3 รุ่น ROG Phone 5 ,ROG Phone 5 Pro และ ROG Phone 5 Ultimate ซึ่งตอนนี้รุ่นที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยก็คือ ROG Phone 5 รุ่นแรม 8GB ความจุ 128GB และรุ่นแรม 16GB ความจุ 256GB นั่นเอง
สเปกหลัก ASUS ROG Phone 5
- จอแสดงผล AMOLED อัตราการรีเฟรช 144Hz ขนาด 6.78 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB / RAM 16GB + ROM 256GB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6E
- กล้องหลัง 64MP Triple Camera 64 MP ( IMX686) + 13 MP (125° ultrawide-angle lens) + 5 MP (Macro)
- กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
- ลำโพงคู่, ระบบเสียง Dirac, ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ระบบปฏิบัติการ ROG UI บนพื้นฐาน Android 11
- แบตเตอรี่ 6,000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W
แกะกล่อง ASUS ROG Phone 5
ASUS ROG Phone 5 มาในกล่องสีดำและมีลายจุดสีเทาเข้ม ซึ่งเป็นดีไซน์เดียวกับด้านหลังของสมาร์ทโฟน ROG Phone 5 หน้ากล้องมีตัวเลข 05 ที่มุมบนขวา กึ่งกลางเป็นโลโก้ ROG และมุมล่างซ้ายจะพบตัวเลข 05 และชื่อ ROG Phone
ข้างกล่องยังยืนพื้นด้วยสีดำลายจุดสีเทาที่แปลงเป็นตัวอักษร ROG ขนาดใหญ่ พร้อมระบุชื่อรุ่น ROG Phone 5 อีกข้างมีเฉพาะชื่อ ROG Phone 5
ด้านบนและด้านล่างกล่องติดโลโก้ Republic of Gamers หรือ ROG หลังกล่องระบุชื่อรุ่น รหัสรุ่น เครือข่ายที่รองรับ ข้อมูลผู้ผลิต และโลโก้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆ
เมื่อเปิดฝากล่องออกมา ก็จะเห็นว่าด้านในมีลายเส้นอนิเมะเรื่อง Akira ซึ่งไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังซ่อนลูกเล่นเอาไว้ด้วย
ก่อนจะไปดูลูกเล่นของลายเส้นอนิเมะ Akira ขอหยิบซองเอกสารออกมาก่อน และจะพบกับเข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ดที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม
ภายในกล่องแถมเคส Aero Case มาให้ด้วย
สติกเกอร์ ROG ลายใหม่ (ไม่ซ้ำจากรุ่นก่อน)
หลังจากหยิบซองเอกสารออกไป จะพบคำแนะนำเกี่ยวกับลูกเล่นช่องการ์ตูนคอมิคของ Akira สามารถใช้ ROG Phone 5 สแกนลายเส้นอนิเมะดังกล่าว โดยการเปิดเข้าไปที่แอพ Armory Crate > Console จะเห็นภาพเคลื่อนไหวแต่ละช่องในรูปแบบ AR พร้อมเกมให้เล่น
ชั้นล่างสุดมีช่องเก็บสายเคเบิล USB-C เป็นสายแบบถักคุณภาพสูง
และสุดท้ายเป็นอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ 65W USB-C Power Adapter ที่เป็นครั้งแรกของ ROG Phone ที่ชาร์จไวขนาดนี้
ดีไซน์ Dotted Matrix Design
การออกแบบโดยรวมของ ASUS ROG Phone 5 ยังจัดวางปุ่มกด พอร์ตเชื่อมต่อ และ องค์ประกอบต่างๆ ในตำแหน่งเดียวกับรุ่นก่อน แต่ก็สร้างความแตกต่างที่ดีไซน์ของโลโก้ ROG ด้านหลัง ซึ่งเรียกว่า Dotted Matrix Design
ด้านหน้ามีพื้นที่ขอบจอบางลงกว่าเดิม แต่ยังคงติดตั้งกล้องเซลฟี่ไว้เหนือจอแสดงผล โดยเลี่ยงที่จะทำรอยบากหรือเจาะหลุมไว้บนหน้าจอ เนื่องจากทีมออกแบบให้ความสำคัญกับการจับถือเพื่อเล่นเกมมากกว่า
ASUS ROG Phone 5 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรช 144Hz และติดตั้งลำโพงคู่หน้า ไว้ที่ขอบบนกับขอบล่าง
ด้านข้างย้ายถาดใส่ซิมการ์ดมาไว้ส่วนล่าง และทำสีแดงให้สะดุดตา ตรงกึ่งกลางยังมีพอร์ต Side-mounted มาให้เหมือนเดิม (มีจุกยางผิดกันฝุ่น) สามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ตนี้ได้ เพื่อความสะดวกในระหว่างเล่นเกมหรือจับถือสมาร์ทโฟนในแนวนอน
อีกข้างหนึ่งติดตั้งปุ่ม AirTrigger 5 ไว้ทั้ง 2 มุม และยังพบปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเพาเวอร์ และรูไมโครโฟน ทางฝั่งเดียวกันด้วย
ด้านบนมีไมโครโฟนอีกตัวซ่อนอยู่ในแถบเส้นเสาอากาศ
ด้านล่างมีรูไมโครโฟน, พอร์ต USB-C และ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
หน้าจอทัชลื่นสุด รีเฟรชเรท 144Hz
ASUS ROG Phone 5 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ของ Samsung ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว ให้สีสันสวยงามและให้สีที่ถูกต้องด้วยค่า Delta E < 1 สนับสนุน HDR10+ รองรับเทคโนโลยี Always-on HDR และยังปกป้องดวงตาด้วยความสามารถในการลดแสงสีฟ้าให้เหลือเพียง 6.5%
จอแสดงผลของ ASUS ROG Phone 5 ใช้วัสดุ E4 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสว่างและอัตราส่วนความคมชัดที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน รวมไปถึงประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย และยังได้รับการปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus ต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับกระจกรุ่นก่อน สามารถป้องกันการตกจากความสูงลงบนพื้นหยาบถึง 2 เมตร
จอแสดงผลของ ASUS ROG Phone 5 ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอ 144Hz ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีค่า Latency อยู่ที่ 24.2 มิลลิวินาที ให้การตอบสนองต่อการสัมผัสเร็วที่สุดในโลก และมีค่า Touch Sampling Rate หรือ อัตราตอบสนองการสัมผัส 300Hz จึงตอบสนองการสัมผัสเร็วกว่าคู่แข่งสูงสุด 65%
นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่มใต้หน้าจออีกด้วย
ในตัวเครื่องยังมีธีมสวยๆจากเกมดังที่เอ็กคลูซีพเฉพาะ ROG Phone 5 ให้ดาวน์โหลดใช้งานกันแบบฟรี นอกจากนี้ยังมีภาพ Wallpaper ที่โดนใจแฟน ROG Phone ให้เลือกใช้เพียบ
ระบบควบคุมเกม
นอกเหนื่อจากการสัมผัสหน้าจอ ASUS ROG Phone 5 รองรับการ ยังรองรับการควบคุมเกมได้อีก 2 วิธี ได้แก่ ระบบ Motion Control ที่อาศัยการเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ซ้าย ขวา การเอียงซ้าย/ขวา การเลี้ยวซ้าย/ขวา การเอียงไปข้างหน้า/ถอยหลัง และยังรองรับการเขย่าในแนวตั้ง
การควบคุมเกมอีกวิธี ใช้ปุ่มเสมือนจริงที่ซ่อนไว้ตรงขอบด้านข้าง เรียกว่าปุ่ม AirTrigger 5 ปุ่มแบบอัลตราโซนิกที่ไวต่อการสัมผัสทำงานคล้ายกับปุ่ม AirTrigger 3 ของรุ่นก่อน รองรับการสไลด์ในแนวนอน/แนวตั้ง การปัด และสามารถแบ่งแต่ละปุ่มออกเป็น 2 พาร์ติชัน ทำให้เหมือนมีปุ่ม AirTrigger ถึง 4 ปุ่ม
นอกจากนี้ ด้านหลังของ ASUS ROG Phone 5 ยังซ่อนทัชแพด สำหรับใช้เป็นปุ่ม L1/L2 ได้อีกด้วย และยังมีอีก 2 ปุ่มพิเศษที่มากับ AeroActive Cooler 5
รวมแล้ว ASUS ROG Phone 5 รองรับการควบคุมเกมได้ถึง 18 รูปแบบ ประกอบด้วยปุ่ม AirTrigger 5 (4 ปุ่ม ), ระบบ Motion Control (10 คำสั่ง), ทัชแพดด้านหลัง (2 ปุ่ม) และ ปุ่มพิเศษที่มากับ AeroActive Cooler 5 (2 ปุ่ม) อย่างไรก็ตาม ปุ่มทัชแพดด้านหลัง รองรับเฉพาะ ROG Phone 5 Pro กับ ROG Phone 5 Ultimate เท่านั้น (ไม่มีในรุ่นมาตรฐาน)
AeroActive Cooler 5
ASUS ROG Phone 5 ยังมาพร้อม AeroActive Cooler อุปกรณ์เสริมที่อยู่คู่กับ ROG Phone มาทุกรุ่น และในรุ่นใหม่ก็ใช้เลข 5 ตามชื่อรุ่นสมาร์ทโฟนด้วย โดยยังคงทำหน้าที่เป็นพัดลมช่วยระบายความร้อนให้กับสมาร์ทโฟน และมีขาตั้งในตัว
AeroActive Cooler 5 ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งพอดีกับตำแหน่งของชิปประมวลผลที่อยู่ภายใน ช่วยลดอุณหภูมิของชิปประมวลผลได้สูงสุด 10 องศาเซลเซียส และสามารถลดอุณหภูมิของของพื้นผิวด้านนอกได้สูงสุก 15 องศาเซลเซียส
เชื่อมต่อไร้สายได้อย่างเสถียร 5G และ Wi-Fi 6E
ASUS นำเทคโนโลยี HyperFusion มาใช้ในการออกแบบเสาอากาศรับสัญญาณไร้สายให้กับสมาร์ทโฟน ASUS ROG Phone 5 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อทั้งระบบ Cellular และ Wi-Fi ให้มีความแรงของสัญญาณเพิ่มขึ้น พร้อมปรับปรุงความเร็วในการเชื่อมต่อ จากเดิมที่สนับสนุน 5G และ Wi-Fi 6E ซึ่งมีความเร็วและแรงอยู่แล้ว ให้มีความเสถียรมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้การเล่นเกมออนไลน์ทำได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด
ประสิทธิภาพ Snapdragon 888 แรม 16GB
ASUS ROG Phone 5 ใช้ชิปประมวลผลรดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 888 ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 25% มาพร้อมจีพียู Adreno 660 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 35% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน
โดยใช้ AI Engine รุ่นที่ 6 สามารถประมวลผล 26 ล้านล้านรายการต่อวินาที (26 TOPS) ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 70% และยังมาพร้อมชิปโมเด็ม 5G ในตัว (Snapdragon X60) สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 7.5Gbps
จากการทดสอบ ROG Phone 5 รุ่น RAM 16GB จับคู่กับ ROM256GB ด้วยแอพพลิเคชั่น AnTuTu สามารถทำคะนนได้มากกว่า 700,000 คะแนน สูงกว่าสมาร์ทโฟนคู่แข่งที่ทำงานบน Android ที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกัน เรียกได้ว่า ROG Phone 5 ได้ยกตัวเองขึ้นเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบันนี้
ความจำแรมมากที่สุดในโลก
ASUS ROG Phone 5 ผลิตออกมาให้เลือก 3 รุ่น ได้ แก่ ROG Phone 5, ROG Phone 5 Pro และ ROG Phone 5 Ultimate โดยรุ่น Ultimate ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมความจำ RAM 18GB แบบ LPDDR5 3200mHz / 6400Mbps จับคู่กับ ROM 512GB แบบ UFS 3.1
ขณะที่ ROG Phone 5 Pro มาพร้อม RAM 16GB จับคู่กับ ROM 512GB สำหรับ ROG Phone 5 รุ่นมาตรฐาน มีด้วยกัน 3 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB, RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB และ RAM 16GB จับคู่กับ ROM 256GB
ระบบระบายความร้อน
นอกจากจะมี AeroActive Cooler 5 เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยระบายความร้อนจากภายในสู่ภายนอกแล้ว ASUS ROG Phone 5 ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนในตัวด้วย โดยใช้การออกแบบที่ให้ซีพียูเป็นศูนย์กลาง ลดอุณหภูมิด้วย 3D Vapor Chamber ขนาดใหญ่ ประกบด้วยแผ่น Graphite หน้า-หลัง ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่และซีพียู
X Mode+
X Mode จากรุ่นก่อนได้รับการพัฒนาต่อยอดมาเป็น X Mode+ โดยยังคงออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้ตั้งค่าประสิทธิภาพ เพื่อเร่งความแรงของซีพียูและจีพียูให้สูงสุด, ปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอให้สูงสุด, ปรับความไวในการตอบสนองต่อการสัมผัสให้สูงสุด รวมไปถึงเปิดระบบ HyperFusion เพื่อให้การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายมีความเสถียรมากที่สุด
เรียกได้ว่า X Mode+ มีไว้เพื่อรีดประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟน ROG Phone 5 ให้สูงสุดในทุกด้าน เพื่อเล่นเกมที่จำเป็นต้องการทัพยกรเครื่องอย่างสูงสุด
Armory Crate
เช่นเดียวกับ ROG Phone รุ่นก่อนๆ Armory Crate เป็นศูนย์รวมการปรับแต่งเกมที่ติดตั้งไว้ เพื่อตั้งค่าระบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละเกมที่มีรูปแบบการเล่นไม่เหมือนกัน โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่างได้ 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ โปรไฟล์เกม, การจัดการประสิทธิภาพของระบบ, ROG Connect (แหล่งดูและแชร์การเล่นเกมของผู้ใช้งาน ROG Phone) และ Game Genie
Armory Crate ยังมีฟีเจอร์ Haptic Audio ระบบตอบสนองในระหว่างเล่นเกม โดยอ้างอิงจากเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ และ Esports Mode ซึ่งพัฒนาขึ้นมาสำหรับเจ้าของ ROG Phone 5 ที่เป็นเกมเมอร์ สามารถเปิดโหมด Esports เพื่อป้องกันการรบกวนในระหว่างเล่นเกม ป้องกันการสัมผัสจอโดยไม่ได่ตั้งใจ ปิดการใช้ฟีเจอร์พิเศษต่างๆ และเปิดระบบการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Bypass
Aura RGB Lighting
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ขาดไม่ได้สำหรับ ROG Phone นั่นก็คือโลโก้ ROG ด้านหลัง ที่ใช้แสงไฟ Aura RGB เปล่งแสงออกมาเป็นรูปภาพของโลโก้ โดยใช้ดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Dotted Matrix Design
อย่างไรก็ตาม ในรุ่น ROG Phone 5 Pro และ ROG Phone 5 Ultimate จะมีดีไซน์แตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยมาพร้อม ROG Vision หน้าจอขนาดเล็กที่สามารถแสดงรูปภาพเคลื่อนไหวได้ 6 สถานการณ์ ได้แก่ เมื่อมีการเปิด X Mode, กำลังเข้าสู่เกม, กำลังชาร์จแบตเตอรี่, เปิดหน้าจอ, มีสายเรียกเข้า และ กำลังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ
ระบบกล้อง
ASUS ROG Phone 5 วางระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX686 มาพร้อมกล้อง Ultrawide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 5 ส่วนกล้องหน้าให้ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
ASUS ROG Phone 5 รองรับโหมดถ่ายภาพ Photo, Video, Portrait, Panorama, Time Lapse, Macro, Night, Pro, Pro Video และ Motion Tracking นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เปิด HDR แบบออโต้, เปลี่ยนอัตราส่วนภาพ, เปิด-ปิดการใช้แฟลช รวมถึงสลับใช้กล้องหลักกับกล้อง Ultrawide, ใช้กล้อง Telephoto เมื่อมีการซูม และยังมีโหมด Beauty มาให้ใช้งานด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ระบบเสียง
ASUS ROG Phone 5 ให้คุณภาพเสียงระดับสูงไม่ว่าจะเป็นลำโพงหรือไมโครโฟน โดยติดตั้งลำโพงคู่หน้า ขนาด 12 x 16 มิลลิเมตร ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio ด้วยระบบเสียง Dirac จนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 (79 คะแนน) จากการทดสอบคุณภาพเสียงจาก DXOMARK
ไม่เพียงแค่นั้น ROG Phone 5 ยังมาพร้อมไมโครโฟนมาให้ 4 ตัว สามารถดักเสียงได้รอบทิศทาง รองรับการบันทึกเสียงและสนทนาได้อย่างชัดเจน และยังมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ และสนับสนุน ESS Sabre ที่มาพร้อมเทคโนโลยี HyperStream II Quad DAC จึงขับเสียงผ่านหูฟังคุณภาพสูงได้เหมือนกับเครื่องเล่นระดับไฮเอนด์
แบตเตอรี่ 6000mAh ชาร์จเร็ว 65W
ASUS ROG Phone 5 นังคงใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุ 6000mAh เท่ากับรุ่นก่อน แต่แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพของชิปประมวลผลรุ่นใหม่ มีส่วนช่วยให้การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยลงกว่าเดิม หรือ มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
ด้วยความจุแบตเตอรี่ 6000mAh ช่วยให้ ROG Phone 5 สามารถเล่นเกม League of Legends ได้นานสูงสุด 8.46 ชั่วโมง, เล่นเกม Call of Duty ได้นานสูงสุด 6.5 ชั่วโมง, เล่นเกม Asphalt 9 ได้นานสูงสุด 5.18 ชั่วโมง และ เล่นเกม Genshin Impact ได้นานสูงสุด 2.88 ชั่วโมง
ASUS ROG Phone 5 ยังมาพร้อมโหมด Ultra-Durable ที่ช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น ด้วยการจำกัดการทำงานของซีพียู, จีพียู, ล็อคอัตราการรีเฟรชหน้าจอไว้ที่ 60Hz, ใช้ความไวในการสัมผัสหน้าจอให้ต่ำลง และ จำกัดการใช้งานเครือข่ายกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง
สำหรับการชาร์จแบตตอรี่ ROG Phone 5 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W ใช้เวลาาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 51 นาที และสามารถควบคุมความร้อนระหว่างชาร์จได้ดีขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน จึงชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น และให้ความร้อนที่น้อยลง
อุปกรณ์เสริมจากรุ่นก่อนยังใช้ได้
ASUS ROG Phone 5 ยังรองรับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การเล่นเกมสนุกขึ้น และยังเป็นข่าวดีสำหรับเจ้าของสมาร์ทโฟน ROG Phone 3 เพราะอุปกรณ์เสริมบางรายการของรุ่นก่อน ยังคงใช้ได้กับ ROG Phone 5 ส่วนจะมีอุปกรณ์เสริมอะไรบ้างที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับ ROG Phone รุ่นใหม่ เราได้รวบรวมมาให้แล้ว
- AeroActive Cooler 5 พัดลมระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนของชิปประมวลผลได้สูงสุด 10 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิของของพื้นผิวด้านนอกได้สูงสุก 15 องศาเซลเซียส และยังเป็นของแถมที่รวมอยู่ในกล่อง (แถมให้เฉพาะรุ่น Ultimate)
- ROG Lighting Armor Case เคสปกป้องสมาร์ทโฟน ROG Phone 5 ที่ออกแบบมาให้เว้นช่องว่างด้านหลัง เพื่อให้แสดงแสงไฟของโลโก้ Aura RGB Lighting ที่ด้านหลังสมาร์ทโฟน
- Aero Case เคสที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการระบายความร้อนเป็นพิเศษ และยังสามาถแนบติดกับ AeroActive Cooler ได้ทันทีโดยไม่ต้องถอดเคสนี้ออก
- ROG Clip ตัวหนีบคอนโทรลเลอร์ และมีขาจับสมาร์ทโฟนในแนวนอน
- ROG Kunai 3 Gamepad คอนโทรลเลอร์ที่เปิดตัวพร้อมกับ ROG Phone 3 ยังคงใช้ได้กับ ROG Phone 5 มอบประสบการณ์การเล่นเกมแบบเดียวกับคอนโซล รวมถึง Kunai Gamepad II ก็ยังนำมาใช้กับ ROG Phone รุ่นใหม่ ได้เช่นเดียวกัน แต่เป็นอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อแยกต่างหาก
- ROG Professional Dock ตัวกลางในการเชื่อมต่อ ROG Phone กับจอภาพภายนอก เพื่อเล่นเกมบนจอที่ใหญ่ขึ่น และยังมีพอร์ต USB สำหรับเชื่อมต่อเม้าส์และแผงคีย์บอร์ด (ต้องซื้อแยกต่างหาก)
- ROG Cetra II ขุดหูฟังคุณภาพสูง รองรับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC (ต้องซื้อแยกต่างหาก)
สรุป
ASUS ROG Phone 5 ถูกสร้างมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง โดยมีจุดเด่นที่ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง Snapdragon 888 แรงที่สุดของ Qualcomm ให้ความจำ RAM มาถึง 18GB สูงที่สุดในสมาร์ทโฟนปัจจุบันนี้ มาพร้อมจอแสดงผลตอบสนองการสัมผัสอย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ขนาดใหญ่รองรับการเล่นเกมที่ยาวนาน และยังชาร์จเร็ว 65W ไม่ต้องรอนาน และอีกฟีเจอร์ที่สำคัญก็คือระบบระบายความร้อนที่ช่วยรักษาประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนให้คงที่
นอกจากฮาร์ดแวร์คุณภาพสูง ROG Phone 5 ยังรองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากรุ่นก่อนๆ ที่ช่วยทำให้ ROG Phone 5 กลายเป็นเกมคอนโซล เหมาะสำหรับสาวก Android ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่ดีที่สุดในเวลานี้
ราคาและกำหนดการวางจำหน่าย
ROG Phone 5 ประกาศราคาทางการในประเทศเริ่มต้นเพียง 22,990 บาท ในรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และราคา 29,990 บาทในรุ่น RAM 16GB + ROM 256GB มี 2 สีขาวและดำให้เลือก จะได้ของแถมเป็น Aero Case ราคา 490 บาทและ Aaero Active Cooler 5 ราคา 1,490 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังได่วางจำหน่ายอุปกรณ์เสริม ROG Clip ราคา 990 และ ROG Kunai 3 Game Pad ราคา 3,990 บาท พร้อมกันด้วย