ทุกวันนี้ไม่ว่าหันไปทางไหน ก็มีแต่คนถ่ายคลิปวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นแบบใน Instagram Story ขายขำใน TikTok ไปจนถึงการถ่าย Vlog ท่องเที่ยวหรือตามติดชีวิตประจำวันเพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนเทนต์วิดีโอนั้นน่าสนใจ ชวนติดตามกว่ารูปภาพนิ่งธรรมดา อีกทั้งสมาร์ทโฟนในระยะหลังยังสามารถถ่ายวิดีโอออกมาได้คุณภาพดีกว่าแต่ก่อนจึงไม่จำเป็นต้องพกกล้องขนาดใหญ่ติดตัวตลอดเวลา นอกจากนี้ภาพที่ได้ยังมีคุณภาพดีมากพอขนาดที่สามารถจะสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นเลยทีเดียวจึงไม่น่าแปลกใจที่นักสร้างสรรค์คอนเทนต์รุ่นใหม่พากันหันมาสร้างวิดีโอคอนเทนต์และภาพยนตร์สั้น โดยใช้เพียงสมาร์ทโฟน
Mi 11 หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถในการถ่ายวิดีโอระดับสูงจากเสียวหมี่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยเมื่อเร็วๆ นี้ และได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอระดับโปร เพื่อเป็นการตอกย้ำความ สามารถของ Mi 11 เสียวหมี่จึงจับมือกับบาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับชื่อดังเจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ จากภาพยนตร์ฉลาดเกมส์โกง สร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้น “The Reels Deal” ที่ถ่ายทำด้วย Mi 11 ทั้งเรื่อง และเปิดเผยเบื้องหลังและมุมมองของเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์มืออาชีพ
เมื่อเทคโนโลยีคือ “โอกาส” ของคนรุ่นใหม่ สมาร์ทโฟนก็เป็นมากกว่าแค่ดีไวซ์
บาสเห็นว่าเทคโนโลยีที่พัฒนาไปมากในสมัยนี้เป็นการมอบ “โอกาส” ให้กับคนรุ่นใหม่ให้เข้าถึงวงการภาพยนตร์ได้ง่ายขึ้น เขายกตัวอย่างว่า ในสมัยก่อนการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้ม้วนฟิล์มซึ่งมีราคาสูง การจะเริ่มต้นถ่ายแต่ละครั้งจึงต้องผ่านการพินิจพิเคราะห์มาเป็นอย่างดีจนบางครั้งขาดความเป็นธรรมชาติแต่ความสะดวกของยุคดิจิทัล สามารถให้พื้นที่ความคิดเพิ่มมากขึ้น “เป็นเรื่องดีมากที่เทคโนโลยีและเครื่องมือในสมัยนี้ได้รับการพัฒนาไปมาก ทำให้ถ่ายคลิปหรือถ่ายหนังได้ง่ายขึ้นสำหรับผมการทำหนังคือการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและความสะดวกสบายของเทคโนโลยีทำให้คนสมัยนี้มีทางเลือกในการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองได้ง่ายขึ้น และรวดเร็วขึ้น ถ้าทุกวันนี้ยังถ่ายหนังด้วยฟิล์มคนรุ่นใหม่ทั่วไปที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนหรือมีงบประมาณน้อยคงไม่ได้มีโอกาสในการบอกเล่าเรื่องราวที่อยากสื่อ แต่เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเป็นการมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่แสดงตัวตนได้มากขึ้น วงการนี้จึงจะไม่ได้จำกัดอยู่ที่คนเพียงยุคเดียวอีกต่อไป แต่จะขยายกว้างขึ้นและเต็มไปด้วยทางเลือกและชิ้นงานหลากหลายรูปแบบ และจะช่วยกันพัฒนาไปเรื่อยๆ ผมเองก็ได้เรียนรู้ผ่านการดูผลงานของคนรุ่นใหม่เหมือนกัน สุดท้ายแล้วสิ่งที่ส่งผลดีต่อวงการภาพยนตร์คือ ทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนที่หลากหลายขึ้นจากเมื่อก่อน”
The Reels Deal มนต์เสน่ห์ของ Movie Magic
บาสกล่าวว่า Movie Magic สำหรับเขาคือ การชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์กับครอบครัว ซื้อป๊อปคอร์นมากินด้วยกัน คือมนต์สเน่ห์ที่เขาหลงรัก ภาพยนตร์สั้นเรื่อง The Reels Deal จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาบนคอนเซ็ปต์ Movie Magic “ผมอยากพาผู้ชมเข้าไปอีกโลก สัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นอีกครั้ง” โดย The Reels Deal บอกเล่าภารกิจของหญิงสาว สุดเก๋คนหนึ่งในฐานะเด็กเดินฟิล์ม ในยุค 70s – 80s ที่กิจการภาพยนตร์เฟื่องฟู ขับรถเพื่อนำฟิล์มภาพยนตร์ส่งสลับกัน ฉายระหว่างโรงหนังสองโรงให้ทันเวลา ติดตามภารกิจการส่งฟิล์มหนังของหญิงสาวผู้นี้ว่าเธอจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคใดบ้าง ในแต่ละรอบฉายเพื่อทำหน้าที่ส่ง passion ของคนรักภาพยนตร์ให้ถึงทันเวลา โดยภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ถ่ายทำด้วย Mi 11 ทั้งเรื่อง ด้วยคอนเซ็ปต์ของ The Reels Deal ที่เดินเรื่องในโรงภาพยนตร์ที่ค่อนข้างมืด ทีแรกผมกังวลว่า สมาร์ทโฟนจะสามารถถ่ายวิดีโอในสภาพแสงน้อยได้หรือไม่ แต่ Night Mode ใน Mi 11 ช่วยทำให้สามารถเก็บรายละเอียดแต่ละฉากและทำให้การถ่ายทำในที่มืดได้ดีกว่าที่คิดไว้ นอกจากนี้ฟังก์ชั่นที่ผมชอบคือ One Click AI Cinema ทำให้สร้างเอฟเฟคต์ใหม่น่าสนใจได้ง่ายมาก แต่ที่สุดแล้วไม่ว่าจะใช้เครื่องมืออะไรถ่ายทอด แต่วิธีการในการเล่าหนังมันยังเป็นตัวตนของเราเหมือนเดิม”
นอกจากนี้ การใช้สมาร์ทโฟน Mi 11 ในการถ่ายทำยังมอบความสะดวกสบายให้กับผู้กำกับมือทองคนนี้ด้วยความสะดวกของอุปกรณ์ ภาพยนตร์สั้น The Reels Deal จึงใช้เวลาถ่ายทำเพียง 2 วัน เขาเล่าถึงความรู้สึกว่า “การทำภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผมมีไฟอีกครั้ง เหมือนตอนเราเป็นเด็กมหาวิทยาลัย อยากจะให้ผู้ชมเห็นความหมายอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้” นอกจากนี้เขายังฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้าสู่วงการภาพยนตร์ว่า “ขอให้รู้จักตัวเองและรู้ในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่เราเชื่อ อย่าเพิ่งไปคำนึงว่าคนจะชอบไหม จะแมสหรือไม่ ขอให้ทำในสิ่งที่เชื่อก็พอ”
เทคโนโลยีกล้องหลังระดับสตูดิโอ 3 ตัวที่ถูกบรรจุอยู่ใน Mi 11 ประกอบด้วย กล้องหลักซึ่งเป็นเลนส์ไวด์ ความละเอียดสูงที่สุดในโลกถึง 108 ล้านพิกเซล, เลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, เลนส์เทเลมาโคร ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าแบบ Punch Hole ความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้อย่างดีเยี่ยมในทุกสภาพแสง ด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode) ซึ่งสามารถบันทึกเป็นไฟล์ RAW ได้ พร้อมการบันทึกวิดีโอในระดับ Cinematography ด้วยโหมด AI อัจฉริยะถึง 6 โหมด อาทิ โหมด Parallel World, โหมด Freeze Frame Video และโหมด Magic Zoom นอกจากนี้เสียวหมี่ยังได้ร่วมกับ ฮาร์แมน คาร์ดอน (Harman Kardon) พัฒนาระบบเสียงอันทรงพลังให้ Mi 11 เป็นดุจโฮมเธียเตอร์ บนหน้าจอแสดงผลคมชัดแบบ AMOLED DotDisplay ลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชเรท 120Hz ขนาด 6.81 นิ้ว เติมเต็มอรรถรสในคอนเซ็ปต์ ‘Movie Magic’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ