Spatial Audio หรือ ระบบเสียงแบบอ้างอิงตำแหน่ง คือฟีเจอร์ที่เป็นเอกสิทธิ์ของหูฟังไร้สาย AirPods Pro และ AirPods Max โดยอาศัยการติดตามศีรษะแบบไดนามิก เพื่อทำให้เกิดระบบเสียงรอบทิศทางระดับโรงภาพยนตร์ให้กับภาพยนตร์หรือวิดีโอที่ผู้ใช้งานกำลังรับชม แต่สามารถใช้งานกับแอพพลิเคชั่นใดได้บ้าง เราได้รวบรวมรายชื่อมาให้แล้ว
รายชื่อแอพยอดนิยม ที่สนับสนุนฟีเจอร์ Spatial Audio
- Air Video HD (เปิดเสียงรอบทิศทางในการตั้งค่าเสียง)
- Apple’s TV app
- Disney+
- FE File Explorer (ไม่รองรับ DTS 5.1)
- Foxtel Go (เฉพาะในออสเตรเลีย)
- HBO Max
- Hulu
- Plex (เปิดใช้งานเครื่องเล่นวิดีโอเก่าในการตั้งค่า)
- Peacock
- Discovery+
- Paramount+
- Vudu
- TIDAL (เฉพาะบางเพลง)
รายชื่อแอพ ที่ยังไม่รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio
- Infuse
- Netflix
- YouTube
- Vimeo
- VLC
- Amazon Prime Video
อุปกรณ์ที่รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio
นอกจากหูฟังไร้สาย AirPods Pro และ AirPods Max ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีเครื่องเล่นที่สนับสนุนฟีเจอร์ Spatial Audio ซึ่งน่าเสียดายที่ Mac และ Apple TV ยังไม่รองรับ ส่วนอุปกรณ์ที่สนับสนุนฟีเจอร์ Spatial Audio มีรายชื่อต่อไปนี้
- iPhone 7 และ iPhone รุ่นใหม่กว่า
- iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3 และรุ่นใหม่กว่า
iPad Pro 11 นิ้ว - iPad Air รุ่นที่ 3
iPad รุ่นที่ 6 และรุ่นใหม่กว่า - iPad mini รุ่นที่ 5
ผู้ใช้งาน iPhone และ iPad จะต้องอัพเดทซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชั่น iOS 14 / iPadOS 14 หรือใหม่กว่า รวมถึงอัพเเดทเฟิร์มแวร์ล่าสุดให้กับ AirPods Pro และ AirPods Max เพื่อให้อุปกรณ์รองรับฟีเจอร์ Spatial Audio
ที่มา – MacRumors