CASIO G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาชั้นนำ จัดทัพนาฬิกาสุดพรีเมี่ยม มาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก โดยมีนาฬิการุ่นไฮไลท์ที่มีมูลค่าสูงถึงหลักแสนบาท อย่าง MR-G KACHI-IRO Series ซึ่งโดดเด่นด้วยวัสดุไทเทเนียม ผสานกับการผลิตจากช่างฝีมือผู้มาประสบการณ์ และการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินกรมท่าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำให้เรือนเวลารุ่นนี้สวยงามอย่างไร้ที่ติ
สำหรับสาย Luxurious Street Fashion เตรียมพบกับนาฬิการุ่นลิมิเต็ดล่าสุด G-SHOCK MT-G x SANKUANZ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ G-SHOCK ได้ดีไซน์ร่วมกับ SANKUANZ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ หยิบเอาโมเดลระดับพรีเมี่ยมอย่าง MTG มาดีไซน์ให้เท่ ดุดัน ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาในกลุ่ม Premium line อื่นๆ ที่น่าสนใจอย่าง MTG-B2000, AWM500 และ G-SHOCK GMW-B5000 Full Metal RED ซึ่งเป็นสีพิเศษก็มาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมสัมผัสนาฬิการุ่นพิเศษเหล่านี้ได้ในงาน “โรบินสัน เดอะ อัลติเมท วอทช์ แฟร์” (Robinson The Ultimate Watch Fair) ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2564 ที่บูธจีช๊อค คาสิโอ้ ชั้น 1 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ หรือ ติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook : Casio Watches Thailand
ข้อมูลนาฬิการุ่นไฮไลท์
MR-G KACHI-IRO SERIES
G-SHOCK ได้เปิดตัวผลงานใหม่จาก MR-G KACHI-IRO SERIES ประกอบด้วย 3 โมเดล ได้แก่ MRG-B2000B-1ADR (110,000 THB) รุ่นนี้ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมล้วน มีการใช้ลวดลายอันเก่าแก่ของชาวญี่ปุ่นบนหน้าปัด ในขณะที่เส้นขอบด้านนอกของหน้าปัดจะมีรูปร่างคล้ายกับพัดหรือฉากกั้นแบบญี่ปุ่นให้รูปลักษณ์ที่น่าตื่นตา ผิวสัมผัสที่เว้าและเรียบเนียนของตำแหน่งบอกเวลาคล้ายกับส่วนโค้งของดาบซามูไรแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินกรมท่าเข้ม (Kachi-Iro) หรือ สีแห่งชัยชนะของเหล่านักรบซามูไรที่มักถูกนำใช้แต่งแต้มบนชุดเกราะและหมวกนักรบซามูไรมาอย่างยาวนาน
ร่นุที่สองได้แก่ MRG-B2000R-1ADR (110,000 THB) นาฬิกาที่มาพร้อมกับสาย Durable Fluorine Rubber แฝงลวดลายกระดองเต่าบิฉะมง (Bishamon) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชุดเกราะของเทพเจ้าบิฉะมงเท็น(Bishamonten) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งตั้งแต่ยุคสมัยญี่ปุ่นโบราณ ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมที่ผ่านความร้อนจากกระบวนการรีคริสตัลไลซ์ เพื่อสร้างลวดลายคริสตัลอันโดดเด่นบนหน้าปัดซึ่งคล้ายกับลายน้ำ นิเอะบนตัวดาบญี่ปุ่น
และรุ่น MRG-B1000BA-1ADR (97,000 THB) ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบตัวเรือนขนาดกลาง มาพร้อมโครงสร้างที่ป้องกันการกระเทือนได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเดิม ทั้งสามารถกันน้ำได้ถึง 200 เมตร ครบครันในด้านฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธ การปรับเวลาที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ การแก้ไขเวลาโดยอัตโนมัติเมื่อผู้สวมใส่เข้าสู่พื้นที่เขตเวลาที่แตกต่างในระบบ World Time (สำหรับรุ่น MRG-B2000) แสดงเวลาได้มากถึง 27 โซนเวลาของโลก โหมดประหยัดพลังงานที่เปิดหรือปิดได้ตามต้องการ การปรับค่าเวลาในฤดูร้อนสามารถสลับการแสดงเวลาท้องถิ่นและเวลาบ้านได้อย่างง่ายดาย ผลงานทุกเรือนที่กล่าวมานี้ถือเป็นรุ่นสูงสุดจากซีรีส์ MR-G ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างสมบุกสมบันและยังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความดุดันของกลิ่นอายนักรบซามูไรโบราณไปพร้อมกัน อีกทั้งระบบมัลติฟังก์ชันต่างๆ เปิดทางให้ผู้สวมใส่ใช้งานได้รอบด้านและมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ ถือเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ใช้เป็นเครื่องบอกเวลาแห่งศตวรรษที่ 21 เลยก็ว่าได้
G-SHOCK MT-G x SANKUANZ (Limited Model) 42,000 THB
ครั้งแรก! ของการร่วมกันสรรค์สร้างเรือนเวลาระดับพรีเมี่ยมของ ‘SANKUANZ’ และ G-SHOCK ที่ผนวกนำ Model ‘MT-G’ มาอัพเดทสไตล์ให้เหนือระดับยิ่งขึ้นกับ Concept สุดเท่ห์ ‘Kill The Wall’ ซึ่งมีความหมายถึงการทลายกำแพงระหว่าง Street Fashion ที่เข้าถึงได้ง่าย และความหรูหราสไตล์ Luxury หลอมรวมเป็นดีไซน์ที่ลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เรียกได้ว่าเป็นโมเดลที่โดนใจสาย Luxurious Street Fashion อย่างแน่นอน
ในแง่ของงานดีไซน์ SANKUANZ ได้นำสี Fluorescent Green ที่สื่อถึงความทันสมัยของสตรีทแฟชั่นมาสอดแทรกไว้บนกับตัวเรือนนาฬิกาสีดำที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK ไว้ได้อย่างลงตัว พร้อมกับลวดลาย Concept ‘Kill The Wall’ บนข้อต่อของสายนาฬิกาและลายสลัก SANKUANZ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นพิเศษนี้โดยเฉพาะ
ในแง่ของฟังค์ชั่น นาฬิกา MTG-B2000SKZ-1ADR_LIMITED เรือนนี้ มาพร้อมโครงสร้าง Dual Core Guard ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา ใส่สบายข้อมือ, โครงสร้าง Triple G Resist ทนต่อแรงตกกระแทก แรงเหวี่ยง และแรงสั่นสะเทือนได้ดี, ติดตั้งมอเตอร์ชนิด Dual coil ถึง 3 ชุดเพื่อให้เข็มต่างๆ ทำงานได้อย่างเที่ยงตรง และนอกจากความสามารถในการรับสัญญาณเทียบเวลาจากคลื่นวิทยุแล้ว นาฬิกายังสามารถปรับตั้งเวลาได้โดยอัตโนมัติเมื่อทำการจับคู่กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับนาฬิการุ่นนี้ และยังมีคุณสมบัติอันโดดเด่นอีกมายมายซึ่งรวมถึงระบบการปรับตั้งเวลาให้เป็นค่าของเขตเวลาปัจจุบันโดยอัตโนมัติเมื่อเดินทางข้ามเขตเวลาโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดปุ่มสั่งการแต่อย่างใด
MT-G B2000 Series (36,000 – 39,000 THB)
MTG-B2000 นาฬิการุ่นใหม่เพิ่มความเหนือระดับด้วยโครงสร้าง Metal Core Guard ที่ใช้กับนาฬิกาซีรี่ส์ MT-G รุ่นที่ผ่านมาด้วยการใช้โครงสร้าง Dual Core Guard อันเป็นโครงสร้างรูปแบบใหม่ที่นำวัสดุเรซินซึ่งถูกเสริมความแข็งแรงด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักที่เบาแต่แข็งแกร่ง ตัวเรือนขนาดกลางและหน้าปัดดีไซน์ทรงเหลี่ยมอันเป็นที่นิยม น้ำหนักเบาที่สวมสบายข้อมือ นอกจากนี้นาฬิกา MTG-B2000 ยังมาพร้อมโครงสร้าง Triple G Resist ทนต่อแรงตกกระแทก แรงเหวี่ยง และแรงสั่นสะเทือนได้ดี นำมาซึ่งความแข็งแกร่งในระดับสูงสุด
ทั้งรุ่น MTG-B2000BD และ MTG-B2000D มาพร้อมกับสายนาฬิกาชนิดประกบชิ้นโลหะเข้ากับเรซินที่ออกแบบขึ้นใหม่โดยเพิ่มสัดส่วนของวัสดุเรซินให้มากขึ้น ซึ่งทำให้มีน้ำหนักเบากว่าสายที่ใช้กับรุ่นก่อนถึง 15% ส่วนรุ่น MTG-B2000B นั้น มาพร้อมกับสายเรซินที่สวมใส่ได้กระชับ และสบายข้อมือเป็นที่สุด โดยยังคงถ่ายทอดความประทับใจในดีไซน์อันโดดเด่นของนาฬิกาได้อย่างสมบูรณ์
AWM-500 The First Analog Full Metal Series (20,000 – 21,000 THB)
G-SHOCK (จี-ช็อค) พัฒนานาฬิการุ่น AW-500E ซึ่งเป็นรุ่นอนาล็อกดิจิตอลรุ่นแรกของ G-SHOCK ที่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1989 มาผลิตขึ้นใหม่ เป็นรุ่น AWM-500 ที่มาพร้อมกับโครงสร้างโลหะ
ตัวเรือนทรงกลม ดูทันสมัย หน้าปัดดีไซน์แบบผสานการแสดงค่าด้วยเข็มอนาล็อกและจอแสดงผลดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังเพิ่มจำนวนชิ้นส่วนสำหรับต้านทานแรงกระแทกให้มากขึ้นด้วย มาพร้อมระบบควบคุมเวลาด้วยสัญญาณวิทยุ และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โครงสร้างโลหะของนาฬิการุ่นนี้เป็นการแทรกวัสดุเรซินคุณภาพสูงไว้ระหว่างตัวเรือนโลหะและกรอบตัวเรือนเพื่อดูดซับแรงกระแทก และยังมีการตกแต่งพื้นผิวด้วยการขัดเงาทั้งแบบลายเส้นละเอียด แบบผิวขัดเงาดุจกระจกและรูปแบบอื่น ๆ อีกหลายลักษณะเพื่อเน้นความงดงามของผิวโลหะ
G-SHOCK GMW-B5000RD Full Metal Red Wine (23,000 THB)
GMW-B5000RD (Full Metal Red Wine)
นาฬิการุ่น GMW-B5000RD (Full Metal Red Wine) ตัวเรือนรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ถือเป็นดีไซน์ดั้งเดิมแห่ง G-SHOCK รุ่นแรกสุด สายนาฬิกา ตัวเรือน และขอบตัวเรือนต่างทำจากสตีล ที่ดีไซน์ของรุ่นหน้าปัดสี่เหลี่ยมโลหะล้วน ตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลของรุ่น GMW-B5000RD (Full Metal Red Wine) มีผิวสัมผัสที่ชุบเคลือบ (Ion Plating – IP) เป็นสีแดงซึ่งเป็นตัวแทนสีของแบรนด์ G-SHOCK ใช้ฝาหลังแบบขันสกรูพร้อมพื้นผิวเคลือบคาร์บอนคล้ายเพชร (DLC) เพื่อให้มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่ยอดเยี่ยม บนหน้าปัดมีโซลาร์เซลล์แบบแผ่นฟิล์มและ STN-LCD เพื่อให้อ่านข้อมูลได้ชัดเจนทุกมุม
นาฬิกายังใช้โครงสร้างแบบใหม่ที่ทนต่อแรงกระแทกโดยใช้วัสดุเรซินคุณภาพสูง ผสานเข้ากับรอยต่อระหว่างตัวเรือนสตีลและขอบตัวเรือนเพื่อซับแรงกระแทก ในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน นาฬิการักษาความเที่ยงตรงทุกที่ต่างๆ ในมุมโลกด้วย Connected Engine ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นเชื่อมต่อเวลาเซิฟเวอร์กลางผ่านทางสมาร์ทโฟนและสัญญาณวิทยุเวลา แอพพลิเคชั่น G-SHOCK Connected สำหรับสมาร์ทโฟนเพิ่มความสามารถให้ผู้สวมใส่ค้นหาคู่มือแนะนำการใช้งานนาฬิกาได้สะดวกและง่ายต่อการตั้งค่าเช่นการตั้งเวลาโลกมาตรฐานและฟังก์ชั่นตั้งปลุกจากแอพพลิเคชั่นนี้